นางสาวดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้ว่าการ
การยาสูบแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงกรณีที่มีสื่อมวลชนบางสำนักนำเสนอข่าวว่า
รัฐบาลทุ่มงบประมาณ 4,000 ล้านบาท สร้าง
โรงงานผลิตยาสูบแห่งใหม่ เพื่อขยายฐานการผลิต จนทำให้มีหลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นดังกล่าว โดยได้ชี้แจงว่า การย้ายโรงงานผลิตยาสูบแห่งใหม่ เป็นเพียงการย้ายฐานการผลิต จากเดิมที่ตั้งอยู่บริเวณคลองเตย จำนวน 3 โรงงาน ไปรวมเป็นหนึ่งโรงงาน ที่โรงงานผลิตยาสูบ 6 สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่วนพื้นที่
โรงงานยาสูบเดิมที่คลองเตยนั้น ได้ทูลเกล้าถวายฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 จำนวนเกือบ 500 ไร่ เพื่อจัดสร้างเป็นสวนน้ำและสวนป่าใจกลางเมืองให้กับคนกรุงเทพฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างการทยอยย้ายเครื่องจักรและพนักงานไปปฏิบัติงานที่โรงงานผลิตยาสูบแห่งใหม่ โดยคาดว่าจะย้ายครบทั้งหมดภายในปี 2563
ผู้ว่าการการยาสูบฯ ยืนยันว่า การย้ายโรงงานยาสูบแห่งใหม่นี้ เป็นเพียงการย้ายฐานการผลิตเท่านั้น ไม่ได้เพิ่มกำลังการผลิตอย่างที่มีการวิพากษ์วิจารณ์แต่อย่างใด โดยระบุสถานการณ์ผู้สูบบุหรี่ในตลาดโลกว่า มีค่าเฉลี่ยลดลงปีละ 4 % สำหรับประเทศไทย มีค่าเฉลี่ยลดลงมากกว่า 10% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ยอดผู้สูบบุหรี่ถูกกฎหมายปัจจุบันมีไม่ถึง 30,000 ล้านมวน ถือได้ว่าตลาดบุหรี่มีขนาดเล็กลงมาก
ผู้ว่าการการยาสูบฯ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า สำหรับงบประมาณในการก่อสร้างโรงงานผลิตยาสูบแห่งใหม่ วงเงิน 4,000 ล้านบาทนั้น งบประมาณดังกล่าวไม่ใช่งบประมาณใหม่ แต่เป็นงบประมาณที่ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีตั้งแต่ในอดีต และไม่ใช่งบประมาณของแผ่นดิน แต่เป็นงบประมาณจากรายได้และกำไรของการยาสูบแห่งประเทศไทย