วันนี้เรามาย้อนดู 7 ภารกิจที่กลุ่มทรูได้เป็นผู้ริเริ่มเปิดนวัตกรรมการสื่อสารในประเทศไทยว่ามีอะไรกันบ้าง
1. มิติใหม่ของภาพยนตร์โฆษณาเครือข่ายมือถือ: Get Closer โฆษณาและการใช้มิวสิกมาร์เก็ตติ้งที่ส่งอิทธิพลต่อวงการ ก่อให้เกิดกระแสที่เรียกว่า "ไวรัล" ในยุคแรกๆ ของการสื่อสารโทรคมนาคมไทย และเชื่อว่าหลายๆ คนยังคงฮัมเพลง Wall in Your Heart ของ Shelby Lynne ที่ใช้ประกอบโฆษณาได้จนถึงทุกวันนี้ เป็นการโฆษณาทีเอ ออเร้นจ์ ในระบบ GSM ความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ โดยไม่มีภาพของโทรศัพท์มือถือเข้ามาเกี่ยวข้องเลย
2. ครั้งแรกที่ให้คนไทยส่งข้อความภาษาไทยได้: ต่อมาเมื่อโทรศัพท์มือถือได้รับความนิยมมากขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถส่งข้อความเป็นภาษาไทยได้โดยสะดวก ทรู (หรือ ทีเอ ออเร้นจ์ ในตอนนั้น) ได้คิดค้นรูปแบบการส่งข้อความภาษาไทยเพื่อคนไทย ให้มีความสมบูรณ์แบบและเข้าใจได้ง่าย ใช้ชื่อบริการว่า Thai SMS ที่มาพร้อมกับซิม นอกจากนี้จากที่เคยส่งข้อความสั้น (SMS) เป็นภาษาไทยได้ครั้งละ 70 ตัวอักษร ก็มีการพัฒนาจนมาถึงปัจจุบัน
3. ยุคแรกของโทรศัพท์บ้านเคลื่อนที่ PCT: นอกจากการสื่อสารทางตัวอักษรแล้ว ทรู ได้พยายามอย่างไม่หยุดยั้งในการพัฒนาเครือข่ายและบริการ เพื่อให้คนไทยได้สื่อสารกันอย่างสะดวกและรวดเร็ว และทำได้ทุกที่ ทุกเวลา ในเวลาต่อมา ทรู ก็ได้นำเทคโนโลยีมาช่วยให้โทรศัพท์บ้าน เชื่อมต่อกับวิถีชีวิตนอกบ้านได้ ทำให้คนไทยรู้จัก พีซีที (PCT: Personal Telecommunication Telephone) ด้วยการนำคลื่นความถี่ 1900 เมกะเฮิรตซ์ มาใช้กับบริการโทรศัพท์พื้นฐาน ทำให้การสื่อสารขยายตัวออกไปในวงกว้างมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระดับครัวเรือนหรือนักเรียนนักศึกษา และจดจำเลขหมายได้ง่าย เพราะใช้หมายเลขเดียวกับเบอร์โทรศัพท์บ้าน อีกทั้งยังมีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ค่าบริการรายเดือนถูกกว่าโทรศัพท์มือถือ ยิ่งช่วยให้การสื่อสารระหว่างกลุ่มเพื่อนหรือกลุ่มสังคมต่างๆ ทำให้ง่ายขึ้น และพลิกเกมการตลาด ทำให้การเข้าถึงการสื่อสารของคนไทยกระจายตัวออกไปได้ทุกพื้นที่
4. นำร่องกลยุทธ์คอนเวอร์เจนซ์: กลุ่มทรูเป็นเจ้าแรกมีวิสัยทัศน์นำยุทธศาสตร์คอนเวอร์เจนซ์ ที่ผสานบริการต่างๆ ในกลุ่มทรูเข้าด้วยกัน เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปตามเทคโนโลยี ประเดิมด้วยการเอาบริการมือถือมารวมกับทีวี ก่อให้เกิดปรากฏการณ์จานแดงติดกันทุกบ้าน และเป็นผู้ให้บริการรายแรกที่ประกาศเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ เป็นเครือข่ายที่ดีที่สุด และสามารถให้บริการได้จริง ครบทุกย่านความถี่ ทั้ง 900/850/1800 และ 2100 MHz โดยนำคลื่นความถี่ที่มีข้อดีแตกต่างกันออกไปตามการใช้งานมาผสมผสานกัน เพื่อให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพด้านความเร็วและมีคุณภาพมากที่สุด
5. เจ้าแรกที่นำเข้า BlackBerry และ iPhone: เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้น การเชื่อมต่อมีประสิทธิภาพและเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้นก็ต้องใช้อุปกรณ์ที่รองรับด้วย ซึ่งทรูมูฟ เอช ก็เป็นเจ้าแรกที่ได้นำเข้า iPhone และ Blackberry มาให้คนไทยได้สัมผัส พร้อมต่อติดกับชีวิตไร้สายผ่านระบบ 3G และได้นำดีไวซ์รุ่นใหม่ๆ มาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงยุค 4G+ ในยุคปัจจุบันเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่เร็วแรงยิ่งขึ้นของคนไทย
6. พลิกโฉมรายการทีวีสู่เรียลิตี้ 24 ชั่วโมง:ความล้ำสมัยแห่งยุคคอนเวอร์เจนซ์ ก่อนที่โซเชียลเน็ตเวิร์กจะเฟื่องฟู ทรู ได้จัดเต็มมาก่อน ด้วยการทำรายการเรียลิตี้ ที่เปิดให้ผู้ชมจากทุกที่ทั่วไทย สามารถมีส่วนร่วมเฟ้นหานักล่าฝันในดวงใจได้ด้วยตัวเองกับรายการ TRUE Academy Fantasia (AF) ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์แห่งวงการบันเทิง และเกิดศิลปินที่เป็นขวัญใจมหาชนอย่างแท้จริง
7. เตรียมความพร้อมสู่ 5G: ทรูมูฟ เอช มุ่งมั่นพัฒนาเครือข่ายอย่างต่อเนื่องเพื่อให้คนไทยมีระบบการสื่อสารที่ดีที่สุด เริ่มนำโครงข่ายสู่ 5G ที่ให้ความเร็วได้สูงถึงระดับกิกะบิต ล่าสุดได้เปิดให้บริการเทคโนโลยีมาตรฐานโลก FDD Massive MIMO 32T32R เป็นรายแรกของโลก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญสำหรับ 5G ช่วยเพิ่ม capacity ถึง 4 เท่า ทำให้รองรับจำนวนผู้ใช้งานได้มากขึ้น โดยเปิดให้บริการแล้วในบริเวณที่มีการใช้งานหนาแน่น และเตรียมเปิดให้ทดสอบเทคโนโลยี LAA (Licensed Assisted Access) เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็นการนำคลื่นความถี่แบบ Unlicensed มาใช้งานด้วยเทคโนโลยี Long Term Evolution (LTE) หรือการนำ WiFi มาใช้บนเทคโนโลยี 4G เพื่อเพิ่มขีดสุดแห่งความเร็วแรง โดยจะเปิดให้ลูกค้าทรูได้สัมผัสประสบการณ์ก่อนใคร เร็วๆ นี้
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit