UAC ครึ่งปีหลังธุรกิจเทรดดิ้ง – ไบโอดีเซลขาขึ้น สภาพคล่องแข็งแกร่ง-ลุยย้ายเข้าSET ไตรมาส 3/61

03 Jul 2018
บมจ. ยูเอซี โกลบอล หรือ UAC ฉายภาพธุรกิจครึ่งปีหลัง 61 ธุรกิจเทรดดิ้ง – ไบโอดีเซล ขาขึ้น จากความต้องการใช้เพิ่ม บวกภาครัฐหนุน ด้านผู้บริหาร "ชัชพล ประสพโชค " ปลื้มแบงก์กสิกรไทย และ KF&E ให้การสนับสนุนด้านการเงิน ยอดรวมกว่า 1,537 ล้านบาท แถมหุ้นกู้ 400 ล้านบาทขายหมดเกลี้ยง เตรียมนำเงินขยายธุรกิจ ปูพรมปั้มรายได้ปี 2020 แตะระดับ 3,000 ล้านบาท พร้อมย้ำแผนย้ายเข้า SET เสร็จภายในไตรมาส 3/2561 แน่นอน

นายชัชพล ประสพโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในครึ่งหลังปี 2561 ของบริษัทฯยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากการเติบโตของธุรกิจเทรดดิ้ง ที่มีการขยายตัวตามความต้องการใช้จากอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศ อาทิ กลุ่มธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมี โรงกลั่นน้ำมันและอุตสาหกรรมปิโตรเคมีต้นน้ำ ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มธุรกิจสารเคมีเหลว รวมทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ และตัวทำละลาย ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันหล่อลื่น สารเติมแต่งและตัวเร่งปฏิกิริยา และกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพื่อการส่งออก

อีกทั้งธุรกิจไบโอดีเซลมีแนวโน้มการขยายตัวที่ดีขึ้น โดยในเดือนกรกฏาคมนี้ภาครัฐได้ปรับสัดส่วนไบโอดีเซล (B 100) ในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วจาก B7 เป็นB20 สำหรับกลุ่มรถบรรทุก จะช่วยเพิ่มปริมาณความต้องการใช้ B 100 ในประเทศ ทั้งนี้บริษัทฯเองถือหุ้นร้อยละ 30 ในบริษัท บางจาก ไบโอฟูเอล จำกัด น่าจะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตของยอดขายในไตรมาส 3 ได้เป็นอย่างดี

ประกอบกับธุรกิจอื่นๆ อาทิ โรงงานผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพจากหญ้าเนเปียร์ แม่แตง 2, โรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (PPP) , โรงไฟฟ้าเสาเถียรเอ , โรงไฟฟ้าประดู่เฒ่า , โรงงานผลิตไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้ง บนหลังคา และโรงงานผลิตและจำหน่ายลาเท็กซ์อิมัลชันและลาเท็กซ์โพลิเมอร์ มีการทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง

กรรมการผู้จัดการ บมจ. ยูเอซี โกลบอล (UAC) กล่าวเพิ่มว่า นอกจากนี้บริษัทฯเตรียมความพร้อมทางด้านการเงิน เพื่อใช้ในการขยายธุรกิจของบริษัทในอนาคต โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯได้รับการขยายวงเงินสินเชื่อประเภทเงินทุนหมุนเวียน ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นวงเงินรวม 1,187 ล้านบาท และล่าสุดได้ลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงิน จำนวน 350 ล้านบาทกับ บริษัท แฟคเตอรี แอนด์ อีควิปเมนท์ กสิกรไทย จำกัด (KF&E) เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนรองรับการขยายธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

รวมทั้งบริษัทฯยังประสบความสำเร็จจากการเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ มูลค่าไม่เกิน 400 ล้านบาท อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.50 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ ประกอบกับแผนการย้ายหลักทรัพย์จาก mai ของ UAC เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) นั้นคาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จได้ภายในไตรมาส 3/2561 นี้

"จากความสำเร็จตลอดระยะเวลา 8 ปีในการเข้าซื้อขายในตลาด mai ที่ผ่านมาเป็นการยืนยันถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุน สถาบันการเงิน และนักลงทุนสถาบันที่ให้การสนับสนุนบริษัทในช่วงที่ผ่านมา และการย้ายเข้า SET จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะเพิ่มความน่าสนใจให้กลุ่มนักลงทุนสถาบันที่สนใจเข้าลงทุนในบริษัทได้ในอนาคต" นายชัชพล กล่าว

ดังนั้นมั่นใจว่ารายได้ปีนี้เติบโตแตะระดับ 2,500 ล้านบาท และ มี EBITDA ไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท ตามแผนการขยายธุรกิจทุกธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจTrading ด้านเคมีภัณฑ์ ที่มีการนำเข้าและจำหน่ายสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมัน โรงกลั่น และปิโตรเคมี ซึ่งยังมีทิศทางที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทฯวางกลยุทธ์ในการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเข้ามาจำหน่าย พร้อมกับยังคงรักษาฐานลูกค้าเดิม และ ขยายฐานลูกค้าใหม่ๆเข้ามาเพิ่มขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายรายได้ปีละ 3,000 ล้านบาทในปี 2020