SUPER POLL โพล พฤติกรรมติดตามข่าวช่วยเหลือเด็กนักเรียนออกจากถ้ำ

04 Jul 2018
ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการ สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) มูลนิธิ สถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ เปิดเผยผลสำรวจ เรื่อง โพล พฤติกรรมคนติดตามข่าวสารช่วยเด็กนักเรียนออกจากถ้ำหลวง กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพ จำนวน 1,052 ตัวอย่าง โดยดำเนินโครงการระหว่าง วันที่ 20 มิถุนายน – 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา
SUPER POLL โพล พฤติกรรมติดตามข่าวช่วยเหลือเด็กนักเรียนออกจากถ้ำ

เกินครึ่งหรือร้อยละ 52.7 ตื่นเช้าขึ้นมา เปิดโทรทัศน์รับข่าวสาร เป็นอันดับแรก รองลงมาคือ ร้อยละ 39.7 เปิดโทรศัพท์มือถือ และรองๆ ลงไปคือ วิทยุ คอมพิวเตอร์ และหนังสือพิมพ์ ตามลำดับ และเมื่อถามว่าติดตามข่าวอะไรอันดับแรก พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 80.1 ระบุตื่นเช้าขึ้นมาติดตามข่าวเด็กนักเรียนติดถ้ำ รองลงมาคือ ร้อยละ 7.5 ติดตามข่าวอาชญากรรม ความไม่ปลอดภัยของประชาชน และเพียงร้อยละ 6.5 เท่านั้นที่สนใจติดตามข่าวดูด ส.ส.เข้าพรรคการเมือง ร้อยละ 4.0 ติดตามข่าวฟุตบอลโลก ในขณะที่ ร้อยละ 1.1 ติดตามข่าวดารา บันเทิง และร้อยละ 0.8 ติดตามข่าวหุ้น เศรษฐกิจ ตามลำดับ

เมื่อถามว่าติดตามข่าวช่วยเด็กนักเรียนติดถ้ำ ผ่านสื่อใดอันดับแรก พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 65.5 ยังคงติดตามข่าวช่วยเด็กติดถ้ำผ่าน สื่อกระแสหลักทั่วไป เช่น โทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ ในขณะที่ร้อยละ 34.5 ติดตามข่าว ผ่านสื่อโลกโซเชียล ได้แก่ เว็ปไซต์ข่าว ไลน์ ยูทูป ทวิสเตอร์ เป็นต้น

ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 87.9 เพิ่งจะรู้ว่า ถ้ำหลวงยาวประมาณ 7 กิโลเมตร หลังมีข่าวเด็กนักเรียนติดถ้ำหลวง ในขณะที่เพียงร้อยละ 12.1 รู้มาก่อนแล้วนอกจากนี้ เนื้อหาข่าวที่ ประชาชนสนใจติดตามช่วยเหลือเด็กนักเรียนติดถ้ำ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 68.7 ระบุข่าวการปฏิบัติการของหน่วย ซีล ของไทย ช่วยเด็กนักเรียนติดถ้ำ รองลงมาคือ ร้อยละ 66.4 ระบุ พลังความรักความสามัคคีของคนในชาติ ร้อยละ 55.1 ระบุ การปฏิบัติการของ ทีมงานชาวต่างชาติ เช่น อังกฤษ สหรัฐฯ จีน ฯลฯ ร้อยละ 47.8 ระบุ การใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ค้นหาเด็กนักเรียน ร้อยละ 45.5 ระบุ การใช้ความเชื่อ ความศรัทธา สิ่งเหนือธรรมชาติ ร้อยละ 32.8 ระบุ เทคนิคการนำเสนอข่าว ความน่าสนใจของการนำเสนอข่าว และร้อยละ 28.9 ระบุอื่นๆ เช่น สุขภาพ และการดูแลช่วยเหลือทางการแพทย์ การพัฒนาถ้ำหลวง การใช้ประโยชน์แหล่งธรรมชาติของถ้ำหลวง เป็นต้น

ที่ น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 95.7 ระบุ เห็นด้วยให้ถ้ำหลวงเป็นแหล่งเรียนรู้ แหล่งท่องเที่ยว ยาวตลอดจนปากถ้ำ ถึง จุดพบเด็กนักเรียนติดอยู่ในถ้ำ ในขณะที่ร้อยละ 4.3 ไม่เห็นด้วย

เมื่อถามถึง สิ่งที่นักเรียนควรทำหลังจากได้รับการช่วยเหลือจนสุขภาพดีแล้ว พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 87.2 ระบุ ควรแสดงความจงรักภักดีต่อในหลวง และสถาบันหลักของชาติ รองลงมาคือร้อยละ 71.1 ระบุ ควร ขอบคุณเจ้าหน้าที่ ปฏิบัติการช่วยเหลือ ร้อยละ 70.4 ระบุ ขอบคุณพ่อแม่ พี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ร้อยละ 68.1 ระบุ บำเพ็ญประโยชน์ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ร้อยละ 66.7 ระบุ สัญญาว่าจะมีวินัย ปฏิบัติตามระเบียบ ไม่ทำผิดกฎเกณฑ์ ร้อยละ 64.5 ระบุ สัญญาว่าจะเป็นพลเมืองที่ดีของชาติ ร้อยละ 59.4 ระบุ ตั้งใจเรียน ร้อยละ 57.1 ระบุ ฝึกฝนเป็นนักฟุตบอลที่เก่งของประเทศ และร้อยละ 54.9 ระบุ ช่วยดูแลรักษา ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามลำดับ