นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการประสานข้อมูลสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 17 – 19 กรกฎาคม 2561 ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนัก ซึ่งปริมาณฝนที่ตกสะสมในพื้นที่อาจทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลาก ประกอบกับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง คลื่นสูง 2 – 3 เมตร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสาน 29 จังหวัด แยกเป็น ภาคเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ น่าน ตาก พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ และนครสวรรค์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 จังหวัด ได้แก่ บึงกาฬ สกลนคร อุดรธานี กาฬสินธุ์ มุกดาหาร นครพนม ยโสธร ร้อยเอ็ด และมหาสารคาม ภาคกลาง 5 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี สระแก้ว ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ภาคใต้ 9 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี พัทลุง ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็วและเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักและคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่งในช่วงวันที่ 17 - 19 กรกฎาคม 2561 นอกจากนี้ ได้กำชับให้ประสานหน่วยงานเจ้าท่า ประมง และตำรวจน้ำออกลาดตระเวนแจ้งเตือนการเดินเรือ ทุกประเภท ทั้งเรือเล็ก เรือประมง เรือท่องเที่ยว เรือข้ามฟาก และเรือเฟอร์รี่ ให้เดินเรือด้วยความระมัดระวังและงดการเดินเรือ หากทะเลมีคลื่นสูงและกำลังแรง รวมถึงเน้นย้ำให้มีการตรวจสภาพความพร้อมและความปลอดภัยก่อนออกเรือทุกครั้ง ทั้งความพร้อม ของพนักงานขับเรือและพนักงานประจำเรือ และตรวจสอบให้มีอุปกรณ์ชูชีพประจำเรืออย่างเพียงพอ สำหรับประชาชนที่อาศัย อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนัก ขอให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือน อย่างเคร่งครัด ส่วนนักท่องเที่ยวควรงดการประกอบกิจกรรมทางทะเลทุกประเภท เนื่องจากขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ทะเลจะมีคลื่นลมแรง ก่อให้เกิดอันตรายได้ ทั้งนี้ สามารถติดต่อแจ้งเหตุและติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขาในพื้นที่ หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป