ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เผยผลการวิเคราะห์เศรษฐกิจโลกครึ่งปีหลัง 2561 ที่คาดว่าจะมีการขยายตัว 3.4% ซึ่งสูงสุดในรอบ 8 ปี โดยมีปัจจัยสนับสนุน อาทิ การเพิ่มขึ้นของมาตรการกระตุ้นทางการเงินของสหรัฐอเมริกา และการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ เป็นต้น อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะเป็นบวกในทุกภูมิภาคหลัก โดยคาดว่าอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้นทั่วโลกจะอยู่ที่ 13%อย่างไรก็ตามนักลงทุนควรคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ และกระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภทเพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตโพลิโอ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ซิตี้ได้ให้มุมมองถึง เศรษฐกิจไทยว่าจะขยายตัว 4.2% โดยมีระดับอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ 1.4%
ทั้งนี้ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย ได้แถลงข้อมูลทิศทางเศรษฐกิจและการลงทุนครึ่งปีหลัง 2561 พร้อม แนะนำ กองทุนเปิดแมนูไลฟ์ ซีรีย์ก้าวไปด้วยกัน ทางเลือกในการลงทุน เมื่อเร็วๆนี้ ณ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือเข้ารับการบริการแนะนำการลงทุน สามารถติดต่อได้ที่www.citibank.co.th/citigold
นายดอน จรรย์ศุภรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า ในครึ่งปีหลังภาพรวมของเศรษฐกิจและตลาดหุ้นทั่วโลกจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากหลากหลายปัจจัยที่สนับสนุน อาทิ อัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้นทั่วโลก การปฏิรูปภาษีในสหรัฐอเมริกา การประเมินมูลค่าราคาของตลาดเกิดใหม่ที่ยังคงถูกกว่าตลาดอื่นๆ และผลประกอบการที่แข็งแกร่งของตลาดเกิดใหม่ ในด้านของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) อาจมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาที่เหลือของปี 2561 และยังคาดการณ์ว่าอัตราแลกเปลี่ยนในค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯจะแข็งค่าขึ้นในระยะสั้น แต่จะอ่อนค่าลงต่อไปในระยะปานกลางถึงระยะยาว เนื่องจากการขาดดุลที่เพิ่มขึ้นและความตึงเครียดทางการค้ากับประเทศจีนและโซนยุโรป ในทางกลับกันมองว่าค่าเงินยูโรจะแข็งค่าขึ้นในระยะปานกลาง เนื่องจากเศรษฐกิจมีการเติบโตขึ้นและมีการไหลเข้าของเงินลงทุน และมีมุมมองบวกกับค่าเงินบาทไทย และค่าเงินวอนเกาหลี
นอกจากนี้สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ มาตรการป้องกันทางการค้าที่เพิ่มมากขึ้น ความเสี่ยงด้านการเมืองในแต่ละภูมิภาค สงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนและความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับประเทศคู่ค้า ที่ยังคงมีอยู่ในครึ่งปีหลัง 2561 อย่างไรก็ตามแม้ว่าสถานการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะช้าลงในช่วงต้นปีที่ผ่านมาแต่ "ซิตี้" ยังคงเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจโลกปี 2561จะยังคงมีการขยายตัว 3.4% ซึ่งสูงสุดในรอบ 8 ปี และคาดว่าว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกจะคงที่ ที่ 2.4%สำหรับการลงทุน นักวิเคราะห์ซิตี้ แนะนำให้กระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์หลากหลายภูมิภาค โดยให้น้ำหนักการลงทุนไปที่ภูมิภาคตลาดเกิดใหม่ ยุโรป และประเทศญี่ปุ่น โดยกลุ่มหุ้นวัฏจักรที่มีมุมมองบวก ได้แก่ กลุ่มพลังงาน กลุ่มการเงิน และกลุ่มเทคโนโลยี นอกจากนี้ยังแนะนำการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก (Alternative investment) และกองทุนรวมผสม (Multi-Asset) เพื่อกระจายความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอ ด้านตราสารหนี้ ซิตี้ให้น้ำหนักการลงทุนไปในตราสารหนี้เอกชนสหรัฐที่จัดอยู่ในระดับน่าลงทุน (US Investment Grade) และ ตราสารหนี้ไฮยิลด์สหรัฐฯที่ให้ผลตอบแทนสูง (High-Yield Bond)
ทั้งนี้จากการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 4.2% ในปี 2561 และ ปี 2562 โดยมีปัจจัยหลักที่สนับสนุน ได้แก่ การลงทุนและการบริโภคภายในประเทศที่เพิ่มมากขึ้นจากภาคสาธารณะและภาคเอกชน รวมถึงธุรกิจส่งออกของประเทศไทยที่มีการเติบโตสูงกว่าที่คาดการณ์ ถึงอย่างไรก็ตาม ซิตี้ยังคงมองถึงปัจจัยเสี่ยงที่อาจมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย อาทิ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจากความกังวลทางการค้าและกฎหมายการใช้จ่ายของภาครัฐที่เข้มงวดขึ้น ด้านระดับอัตราเงินเฟ้อในปี 2561 มองว่าโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 1.4% และจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 1.8% ในปี 2562 ด้านค่าเงินบาทไทยยังคงมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้นในปี 2561นี้
ด้าน นายชัยเกษม วัฒนศิริพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบริหารช่องทางจัดจำหน่าย บลจ.แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แมนูไลฟ์ ได้ร่วมกับ ซิตี้แบงก์ เปิดตัว กองทุนแมนูไลฟ์ ซีรีย์ก้าวไปด้วยกัน เพื่อเป็นอีกทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจและสามารถตอบโจทย์ความต้องการด้านการลงทุนให้แก่ผู้ลงทุนในปัจจุบันได้ โดยกลุ่มกองทุนนี้ประกอบด้วย 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิด แมนูไลฟ์ก้าวหน้า (MN-STABLE) กองทุนเปิด แมนูไลฟ์ก้าวไกล (MN-BALANCE) และกองทุนเปิด แมนูไลฟ์ก้าวกระโดด (MN-DYNAMIC) ภายใต้การบริหารของบริษัทจัดการกองทุนชั้นนำของโลกที่มีความชำนาญและหน้าเชื่อถือ ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวมีจุดเด่นคือเป็นกองทุนที่มีการปรับสัดส่วนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับภาวะของตลาด ให้ได้รับผลกระทบจากความผันผวนในตลาดน้อยที่สุด และสามารถกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ได้หลายประเภท เพื่อในลดความเสี่ยงจากการลงทุน ซึ่งมีความเหมาะสมกับการลงทุนในปัจจุบันโดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังจากนี้
เกี่ยวกับ "ซิตี้"
ซิตี้แบงก์เป็นธนาคารชั้นนำของโลก ที่ให้บริการแก่ลูกค้ากว่า 200 ล้านราย ในกว่า 160 ประเทศและเขตปกครองทั่วโลก ซิตี้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลายให้กับลูกค้าบุคคล องค์กร ภาครัฐและสถาบันต่างๆ โดยธุรกิจหลักครอบคลุมการธนาคารและสินเชื่อเพื่อลูกค้าบุคคล (สายบุคคลธนกิจ) ธนาคารเพื่อองค์กรและการลงทุน (สายสถาบันธนกิจและวาณิชธนกิจ) ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ บริการธุรกรรมทางการเงินต่างๆ รวมถึงบริการบริหารความมั่งคั่ง ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.citigroup.com | ทวิตเตอร์:@Citi | ยูทูป: www.youtube.com/citi | บล็อก: http://new.citi.com | เฟซบุ๊ก: www.facebook.com/citi | ลิงก์อิน: www.linkedin.com/company/citi
เกี่ยวกับ "ซิตี้โกลด์"
ซิตี้โกลด์ คือ บริการบริหารความมั่งคั่ง สำหรับผู้ที่มียอดรวมเงินฝาก หรือเงินลงทุนกับซิตี้แบงก์ตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งผลิตภัณฑ์ทางการเงินและการบริการต่างๆ จะถูกคัดสรรให้เหมาะกับเป้าหมายและความต้องการของลูกค้าเป็นพิเศษ ตั้งแต่การวางแผนเป้าหมายการลงทุนไปจนถึงการคัดสรรผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม รวมไปถึงการนำข่าวสารเศรษฐกิจและโอกาสการลงทุนมารวมไว้ เพื่อให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจวางแผนการลงทุนได้อย่างแม่นยำ โดยจุดเด่นของซิตี้โกลด์ คือนอกจากการลงทุนในประเทศแล้ว ลูกค้าสามารถลงทุนในต่างประเทศได้อย่างครอบคลุมทั่วโลก นอกจากนี้ซิตี้โกลด์ยังให้เอกสิทธิ์เหนือระดับ ทั้งทางด้านการใช้ชีวิต การท่องเที่ยวและการทำธุรกรรมทางธนาคารจากทั่วทุกมุมโลก ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.citibank.co.th/citigold
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit