อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส จำกัด (Amazon Web Services Inc.: AWS) บริษัทในเครือ Amazon.com จัดงานให้ความรู้และ แฮกกาธอน (hackathon) ประจำปี AWS Hackdays 2018 มุ่งสร้างศักยภาพ และทักษะในการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence หรือ AI) และ แมชชีน เลิร์นนิ่ง (machine learning หรือ ML) บน AWS มาสร้างเป็นบริการหรือผลิตภัณฑ์ ให้กับชุมชนผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมในอาเซียน ซึ่งงาน AWS Hackdays นี้นับเป็นการเปิดโอกาสให้บรรดาผู้พัฒนา (developers) ได้เพิ่มพูนทักษะทั้งหลายที่ใช้ในการสร้างโซลูชันด้วยเทคโนโลยี AI และ ML ซึ่งความสามารถในการใช้เทคโนโลยีต่างๆ ของ AWS ได้ดีนั้น จะช่วยให้สามารถสร้างโซลูชันที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีทั้งในเชิงเศรษฐกิจ และสังคมสำหรับภูมิภาค อีกทั้งยังช่วยจุดประกายให้กับนักพัฒนาซอฟต์แวร์รุ่นต่อๆ ไปได้ด้วย โดยงาน AWS Hackdays ในประเทศไทย จะจัดขึ้นในวันที่ 17 กรกฏาคม 2561
"เกือบสิบปีที่ผ่านมา เราได้ช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ และชุมชนสตาร์ทอัพในภูมิภาคนี้ประสบความสำเร็จ ด้วยการเปิดให้เข้าถึงบริการด้านคลาวด์จาก AWS เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งผลิตภัณฑ์ การบริการ โดยมีธุรกิจมากมายที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง อาทิ Grab, iflix, Halodoc, Supahands, Coins.ph, และ Amanotes เป็นต้น ซึ่ง AWS Hackdays เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการมอบเครื่องมือและเทคโนโลยีให้ผู้พัฒนาตั้งแต่สตาร์ทอัพ ไปจนถึงระดับองค์กรขนาดใหญ่ ที่ต้องการสร้างโซลูชันที่ล้ำหน้า เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น โดยสร้างโซลูชันที่ใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริงได้ ตัวอย่างเช่นบริษัท ซันเดย์ อินส์ จำกัด บริษัทสตาร์ทอัพเทคโนโลยีด้านการประกันภัย ที่ใช้ AWS เพื่อรันซอฟต์แวร์ แมชชีน เลิร์นนิ่ง ในการนำเสนอแผนประกันภัยที่เหมาะกับความต้องการเฉพาะของลูกค้าแต่ละรายได้ในแบบเรียลไทม์ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิผลของพนักงานด้วย โดยในปีนี้ เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นผู้เข้าร่วมการแข่งขันใช้บริการ AI และ ML เพื่อเปลี่ยนแนวคิดไปสู่การใช้งานจริงได้" นิค วอลตัน กรรมการผู้จัดการ AWS ประจำภาคพื้นอาเซียน กล่าว
โดยในระหว่าง 12 ชั่วโมงของแฮกกาธอน นั้น ผู้เข้าร่วมงานจะสามารถเข้าถึงบริการของ AWS รวมถึง SageMaker เพื่อใช้ในการสร้าง ฝึกฝน และนำโมเดล ML คือ Amazon Polly มาสร้างแอปพลิเคชันที่พูดได้ (speech-enabled applications) และ Amazon Lex เพื่อสร้างแชทบอท
ในส่วนของการแข่งขันในปีนี้คือ ผู้เข้าร่วมการแข่งขันจะต้องมีสมาชิกในทีม ทีมละ 2 ถึง 4 คน และสร้างโซลูชันในหัวข้อที่เกี่ยวกับ การขนส่ง (Transportation) สื่อและความบันเทิง (Media & Entertainment) อีคอมเมิร์ซ หรือฟินเทค (FinTech) โดยผู้เข้าร่วมการแข่งขันจะช่วยกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริง ด้วยการสร้างโซลูชันที่ใช้นวัตกรรมด้าน AI และ ML ที่นำมาใช้งานได้จริง โดยสถาปนิกด้านโซลูชันของ AWS (AWS Solution Architects) จะคอยแนะแนวทางให้กับผู้เข้าร่วมการแข่งขันเพื่อให้สร้างโครงการได้สำเร็จ
ทีมผู้ชนะจากแต่ละประเทศ จะไปแข่งขันต่อกันในรอบสุดท้าย AWS Hackdays Grand Finale ในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ในวันที่ 19-20 กันยายน 2018 กติกาในการตัดสิน จะพิจารณาเรื่องของความมีนวัตกรรม และความเป็นไปได้ของแนวคิด ผลกระทบของแอปพลิเคชันต่อการแก้ไขปัญหา รวมถึงแอปพลิเคชันที่นำเสนอจะสามารถผสานรวมการทำงานร่วมกับบริการของ AWS ได้ดีแค่ไหน
การแข่งขัน AWS Hackdays ภายในประเทศ ทีมผู้ชนะการแข่งขันจะได้รับรางวัลดังต่อไปนี้
ทีมผู้ชนะเลิศ AWS Hackdays Grand Finale ที่กรุงจาการ์ตา จะได้รับรางวัลคือการเดินทาง (ครอบคลุมถึงค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก และบัตรเข้าร่วมงาน re:Invent) เพื่อเดินทางไปร่วมงาน re:Invent 2018 ที่ลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AWS Hackdays หรือลงทะเบียนเพื่อร่วมการแข่งขันแฮกกาธอน กรุณาเข้าไปที่ https://aws.agorize.com/en/
เกี่ยวกับ อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส
เป็นเวลากว่า 12 ปีแล้ว ที่ อะเมซอน เว็บ เซอร์วิส ถือเป็นแพลตฟอร์มที่สมบูรณ์และมีการใช้งานแพร่หลายมากที่สุดในโลก เนื่องจาก AWS มอบบริการที่ให้คุณลักษณะการทำงานที่สมบูรณ์ที่สุด สำหรับการประมวลผล สตอเรจ ฐานข้อมูล การเชื่อมต่อเครือข่าย การวิเคราะห์ แมนชชีน เลิร์นนิ่ง และปัญญาประดิษฐ์ (AI) อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (IoT) โมบาย การรักษาความปลอดภัย ระบบไฮบริด เทคโนโลยี VR (virtual) และ AR (augmented reality) มีเดีย และการพัฒนาแอปพลิเคชัน โดยมีการนำมาใช้งาน และบริหารจัดการ จาก 55 Availability Zones (AZs) ใน 8 ภูมิภาค (geographic regions) และ 1 Local Region ทั่วโลก ครอบคลุมสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมัน อินเดีย ไอร์แลนด์ ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ และสหราชอาณาจักร ทั้งนี้ บริการของ AWS ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลกในการนำไปใช้งานอย่างจริงจังนับหลายล้านรายด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นบรรดาองค์กรสตาร์ทอัพ องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ และหน่วยงานรัฐบาลชั้นนำ เพื่อเพิ่มขุมพลังให้กับระบบโครงสร้างพื้นฐาน ให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น และช่วยลดค่าใช้จ่าย รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AWS สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://aws.amazon.com
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit