พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับปัญหาขยะที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะปัญหาพลาสติกและขยะพลาสติก ซึ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้เห็นชอบให้การจัดการขยะมูลฝอยเป็น "วาระแห่งชาติ" ภาคเอกชนเองก็ให้ความสำคัญและตอบรับร่วมมือเพื่อดำเนินโครงการต่าง ๆ ซึ่งจากวันคุ้มครองโลก 22 เมษายน 2561 ต่อเนื่องมาถึงวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ให้ความสำคัญและตระหนักถึงปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากขยะพลาสติก และได้มีการดำเนินการขับเคลื่อนการเลิกใช้พลาสติกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศไทยพบว่ามีการใช้ถุงหูหิ้วพลาสติกมากถึง 45,000 ล้านใบต่อปี โฟมบรรจุอาหาร 6,758 ล้านใบต่อปี แก้วพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว 9,750 ล้านใบ ซึ่งพลาสติกและโฟมเหล่านั้นเป็นวัสดุที่ย่อยสลายยาก ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งทางบกและทางทะเล และอาจเป็นพิษส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในระยะยาว และได้กำหนดมาตรการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลดใช้ถุงพลาสติก โดยการ "เลิก" เลิกใช้ถุงพลาสติกในพื้นที่หน่วยงานราชการ มหาวิทยาลัย ตลาดสดที่มีความพร้อม"ลด" ลดการใช้ถุงพลาสติกในห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อ "ใช้นวัตกรรมใหม่" โดยการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่สามารถใช้แทนโฟมและถุงพลาสติก "คัดแยกและกำจัดอย่างถูกวิธี" เพื่อให้เกิดการรีไซเคิลใช้พลาสติกอย่างคุ้มค่า รวมทั้งมีการดำเนินโครงการ "ทำความดีด้วยหัวใจ ลดภัยสิ่งแวดล้อม" เพื่อดำเนินการขับเคลื่อนเพื่อสร้างความยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอีกด้วย ซึ่งการลดปัญหาขยะพลาสติกถือเป็นหน้าที่ของทุกคน ที่จะต้องร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีอย่างยั่งยืน และภาคเอกชนถือเป็นส่วนสำคัญในการร่วมรณรงค์
การดำเนินโครงการ "ท็อปส์...ชวนทำความดีด้วยหัวใจ ลดภัยสิ่งแวดล้อม" จึงเป็นการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐ ขยายผลการดำเนินงานให้เข้าถึงประชาชนได้มากยิ่งขึ้น เป็นภาคเอกชนที่พร้อมประกาศเจตนารมณ์อย่างชัดเจนเพื่อเข้ามามีส่วนร่วมในการลดการใช้วัสดุที่ผลิตจากพลาสติกเพื่อลดปริมาณขยะพลาสติกที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
นางสาวภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาดและประชาสัมพันธ์ ผู้บริหารเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์ กล่าวว่า "จากความสำเร็จเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2561 ซึ่งเป็นวันปลอดถุงพลาสติกสากล ที่บริษัทฯ ประกาศ งดให้ถุงหูหิ้วพลาสติกสำหรับใส่สินค้าพร้อมกัน 193 สาขา ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากประชาชน สามารถลดปริมาณถุงหูหิ้วพลาสติกได้มากถึง 480,000 ใบ และต้องการให้มีการรณรงค์อย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการสร้างพฤติกรรมปฏิเสธการใช้ถุงพลาสติก
ซึ่งจากการรณรงค์ ทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่าประชาชนส่วนใหญ่พร้อมที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งเพื่อสร้างความยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาขยะพลาสติก เพื่อเป็นการสานต่อกิจกรรมดังกล่าว บริษัทฯ จึงร่วมกับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดโครงการ "ท็อปส์...ชวนทำความดีด้วยหัวใจ ลดภัยสิ่งแวดล้อม" โดยกำหนดให้ทุกวันที่ 3 ของเดือน ตั้งแต่ ส.ค. – ธ.ค. 61 เป็นวันงดให้ถุงหูหิ้วพลาสติกที่ร้าน เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และท็อปส์ รวม 277 สาขา และ ท็อปส์ ออนไลน์ ซึ่งขยาย จากเดิม 193 สาขา โดยเชิญชวนให้ประชาชนนำถุงผ้ามาช็อปปิ้ง และรับคะแนนเดอะวันการ์ด 8 คะแนน พร้อมมีบริการกล่องกระดาษแทนถุงพลาสติกในกรณีที่ลูกค้าไม่ได้เตรียมถุงผ้ามา และจัดโปรโมชั่นถุงผ้าราคาพิเศษ เริ่มต้น 29 บาท
นอกจากประกาศงดให้ถุงหูหิ้วพลาสติกทุกวันที่ 3 ของเดือนเพื่อสร้างสังคมไร้ถุงพลาสติก บริษัทฯ เดินหน้าย้ำชัดค้าปลีกสีเขียวอย่างเต็มรูปแบบ ประกาศแนวทางช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนได้แก่ 1. ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2561 ยกเลิกการใช้หลอดพลาสติก เปลี่ยนเป็นหลอด Biodegradable ที่ผลิตจากข้าวโพด (ธรรมชาติ 100 %) สามารถย่อยสลายได้ภายใน 6 เดือนที่ ร้านเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ และ เซกาเฟรโดทุกสาขา 2. องค์กรปลอดโฟมบรรจุอาหาร ซึ่งได้ดำเนินนโยบายมาตั้งแต่ปี 2558 ทุกสาขางดใช้ภาชนะโฟมในการบรรจุอาหาร 3.รณรงค์งดรับช้อนส้อมพลาสติก 4. รณรงค์ให้นำแก้วส่วนตัวมาใช้ที่ร้านกาแฟเซกาเฟรโดทุกสาขา อัพไซส์เครื่องดื่มฟรีทุกเมนู ซึ่งเท่ากับลูกค้าจะได้รับส่วนลด 10-15 บาท
การดำเนินโครงการรณรงค์ตลอดแคมเปญ ระยะเวลา 6 เดือน บริษัทฯ เตรียมงบประมาณ 15 ล้านบาท ทั้งการมอบคะแนนเดอะวันการ์ด การเปลี่ยนหลอดพลาสติกเป็นหลอด Biodegradable การมอบสิทธิประโยชน์พิเศษ พร้อมตั้งเป้าลดถุงพลาสติกตั้งแต่ กรกฎาคม – ธันวาคมได้ 3 ล้านใบภายในสิ้นปี สำหรับในอนาคตจะเพิ่มความถี่ของวันที่งดให้ถุงหูหิ้วพลาสติก เพื่อสร้างความเคยชินให้ลูกค้าและนำไปสู่พฤติกรรมการงดใช้ถุงหูหิ้วพลาสติกอย่างแท้จริง
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit