ประเทศไทย เป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญของโลก ประชากรร้อยละ 35 ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ซึ่งเป็นอาชีพที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและสังคม ปัจจุบันพื้นที่การเกษตรมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องและมีการอพยพแรงงานไปสู่ภาคอุตสาหกรรมและบริการมากขึ้น ส่งผลให้ภาคการเกษตรประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานกลายเป็นสังคมของผู้สูงอายุ ขณะเดียวกันเยาวชนในภาคเกษตรกรรมที่เคยเป็นแรงงานสำคัญในครอบครัวได้หันไปสู่อาชีพอื่น วัตถุนิยมได้เข้ามามีบทบาททำให้ค่านิยมเปลี่ยนแปลงไป บิดามารดาไม่สนับสนุนให้บุตรหลานประกอบอาชีพเกษตรกรรม ซึ่งเป็นสาเหตุให้ผู้สืบทอดอาชีพการเกษตรลดลงปรากฏการณ์ดังกล่าวถือเป็นปัญหาสำคัญระดับชาติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย กรมส่งเสริมการเกษตร ให้ความสำคัญต่อปัญหานี้อย่างจริงจัง จึงได้ดำเนินการพัฒนาเด็กและเยาวชน ด้วยการส่งเสริมการรวมตัวกันของเด็กและเยาวชน จัดตั้งเป็น "กลุ่มยุวเกษตรกร" เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะอาชีพการเกษตร ทักษะการดำเนินชีวิตในสังคม โดยเน้นวิธีการเรียนรู้จากประสบการณ์และการปฏิบัติจริง (Learning by doing) ให้ยุวเกษตรกรมีความสามารถและมีความพร้อมในการสืบทอดอาชีพการเกษตรและเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ
นายวิบูลย์ ไชยวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 7 จังหวัดนครราชสีมา (สสข.7 นม.) รับผิดชอบพื้นที่ 8 จังหวัดอีสานตอนล่าง กล่าวว่า สสข.7 นครราชสีมา ได้ดำเนินการจัดงานชุมนุมยุวเกษตรกรและที่ปรึกษาเกษตรกรระดับเขตขึ้น เพื่อทำให้สมาชิกยุวเกษตรกรและที่ปรึกษายุวเกษตรกรประจำกลุ่มที่ปฏิบัติงานด้วยความตั้งใจและมีผลงานดีเด่นได้รับการถ่ายทอดความรู้ เพิ่มพูนประสบการณ์ และฝึกให้สมาชิกรู้จักการทำงานร่วมกันเป็นหมู่คณะ รักความสามัคคี และมีความรับผิดชอบในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนกระบวนการเรียนรู้ สร้างจิตสำนึกให้ยุวเกษตรกรเกิดความรัก และภาคภูมิใจในอาชีพการเกษตร ที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีพและเศรษฐกิจของประเทศ สนับสนุนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นประสบการณ์เพื่อเพิ่มศักยภาพ ด้านความคิดการทำงาน ภาวะผู้นำของยุวเกษตรกรเพื่อพัฒนาให้เป็นมืออาชีพ
สำหรับกิจกรรมในงานชุมนุมยุวเกษตรกรฯ ประกอบด้วย กิจกรรมการเลือกตั้งคณะกรรมการสภายุวเกษตรกรระดับเขต กิจกรรมการแข่งขัน ได้แก่ การแข่งขันการพูดในที่ชุมนุม การแข่งขันแยกเมล็ดพันธุ์ การประกวดโครงงาน และการฐานเรียนรู้ด้านการเกษตร การแสดงรอบกองไฟ และ พิธีเทียน
นายวิบูลย์ กล่าวว่า ในปี 2561 โรงเรียนเพียงหลวง 12 ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาวัฒนาพรรณวดี อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี เป็นหนึ่งในโรงเรียนเป้าหมายที่ สสข.7 นครราชสีมา เข้าไปส่งเสริมจนได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ โดยกลุ่มยุวเกษตรกรโรงเรียนเพียงหลวง 12 ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาวัฒนาพรรณวดี ได้รับรางวัล สถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประเภท กลุ่มยุวเกษตรกร ประจำปี 2561 ซึ่ง เข้ารับรางวัลไปเมื่อวันพืชมงคลทีผ่านมา และ ปี 2560 นายเสมอ หาวิวร ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ได้รับโล่รางวัลชนะเลิศระดับประเทศ เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ที่ปรึกษากลุ่มยุวเกษตรกร ประจำปี 2560 ซึ่ง ถือเป็นความสำเร็จของการดำเนินงานโครงการกลุ่มยุวเกษตรกร ของ สสข.7 นครราชสีมา อย่างเป็นรูปธรรมอีกแห่งชาติ
ด้าน ด.ญ.กมลชนก มิ่งมูล อายุ 12 ปี ตัวแทนเกลุ่มยุวเกษตรกรโรงเรียนเพียงหลวง 12 ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาวัฒนาพรรณวดี อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า โรงเรียนเพียงหลวง 12 ฯ มีครูและนักเรียนรวมกันทั้งหมด 38 คน ตั้งอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ประสบปัญหาด้านการเกษตร และที่ตั้งของโรงเรียนเป็นพื้นที่ลาดเชิงเขา ส่วนใหญ่เป็นหิน ที่ดินทำกินมีจำกัด และชาวบ้านไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
ทางโรงเรียนจึงเริ่มดำเนินโครงการยุวไทบรู พัฒนาอาชีพ เกษตรพอเพียง ภายใต้กลุ่มยุวเกษตรกรเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมีการพัฒนาดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ ให้เหมาะสำหรับการเพาะปลูก พัฒนาแหล่งน้ำให้เพียงพอสำหรับการเกษตร พัฒนาความรู้วิธีการใหม่ ๆ ที่สามารถทำการเกษตรในพื้นที่จำกัดให้ได้ทั้งปริมาณและคุณภาพโดยไม่ใช้สารเคมีการ
วันนี้กลุ่มยุวเกษตรกรสามารถทำดินปลูกเองได้ เพาะปลูกพืชผักสวนครัว ทำปุ๋ยอินทรีย์ เลี้ยงสัตว์ชนิดต่างๆ ทั้งไก่ไข่ เป็ด และหมู ซึ่งผลผลิตที่ได้จะนำกลับมาเป็นอาหารกลางวันให้กลับนักเรียนในโรงเรียน และหากเหลือจะนำไปแปรรูปเพื่อส่งขายออกสู่ตลาดภายนอก ในรูปแบบของสหกรณ์ มีการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างเป็นระบบ ขณะนี้มีเงินหมุนเวียนอยู่กว่า 60,000 บาท และ ยังนำเอาผลผลิตของชาวบ้าน เช่นเครื่องจักรสานต่างๆ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นมาจำหน่ายในสหกรณ์ ด้วย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit