นางวัณนพ เกี้ยวกลาง ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรขามสะแกแสง จำกัด จังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ในส่วนของสหกรณ์การเกษตรขามสะแกแสง จำกัด อำเภอขามสะแกแสง จังหวัดนครราชสีมา ว่า สหกรณ์การเกษตรขามสะแกแสง ได้รับงบประมาณ จากโครงการไทยนิยม ยั่งยืน รวม 5 รายการ แบ่งเป็นโครงการสนับสนุนอุปกรณ์แปรรูปผลผลิตทางการเกษตร จำนวน 2 รายการ ได้แก่ เครื่องสับมันสำปะหลัง จำนวน 1 เครื่อง วงเงิน 5 หมื่นบาท เครื่องสีข้าวโพด จำนวน 3 เครื่องพร้อมช่องควบคุม วงเงิน 2.1 ล้านบาท และโครงการพัฒนาสถาบันเกษตรกรจัดเก็บพืชผลทางการเกษตร ได้รับการสนับสนุน 3 รายการ ได้แก่ ลานตาก วงเงิน 2.5 ล้านบาท เครื่องชั่งจำนวน 1 เครื่อง วงเงิน 1.3 ล้านบาท และโกดังเก็บสินค้าขนาด 8,000 ตัน วงเงิน 20.2 ล้านบาท รวมวงเงินทั้งสิ้นจำนวน 26.4 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการขอเบิกงบประมาณจากจังหวัดเพื่อนำไปใช้ในการก่อสร้างอุปกรณ์การตลาดและจัดซื้อเครื่องมือเพื่อนำมาใช้ในการแปรรูปผลผลิต โดยเฉพาะมันสำปะหลังและข้าวโพด
อย่างไรก็ตามในการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมดนี้ ทางสหกรณ์ได้ดำเนินการตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของ ทุกขั้นตอน นอกจากนี้ในส่วนของสหกรณ์ยังได้มีการปฏิบัติตามขั้นตอนและคำแนะนำของกรมส่งเสริมสหกรณ์อย่างเคร่งครัด ในส่วนของการก่อสร้างจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง คณะกรรมการกำหนดราคากลาง คณะกรรมการตรวจรับ และยังได้แต่งตั้งสมาชิกสหกรณ์ร่วมเป็นคณะกรรมการในการตรวจรับพัสดุและตรวจการจ้างการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมด ขณะเดียวกันยังมีการประชุมชี้แจงผลการดำเนินงานของสหกรณ์ให้สมาชิกรับทราบทุกเดือนอีกด้วย
ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรขามสะแกแสง จำกัด กล่าวต่อว่า สำหรับประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ทำให้สหกรณ์ได้มีอุปกรณ์การตลาดและเครื่องมือต่าง ๆ ที่จะให้บริการแก่สมาชิกและเกษตรกรทั่วไปในพื้นที่ เพื่อรวบรวมผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญของอำเภอขามสะแกแสง ได้แก่ ข้าว และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าแก่ผลผลิต เนื่องจากอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ได้รับมาสามารถกักเก็บและชะลอผลผลิตไว้ได้ในช่วงต้นฤดู ซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลติออกมาพร้อมกันจำนวนมาก ทำให้ราคาตกต่ำ ดังนั้น งบประมาณจากนโยบายไทยนิยม ยั่งยืน จะช่วยให้สหกรณ์สามารถรับซื้อผลผลิตจากสมาชิกและเกษตรกรทั่วไปมาเก็บไว้ได้ในปริมาณมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เพื่อชะลอการขายไว้ระยะหนึ่ง จึงค่อยนำออกมาจำหน่ายในช่วงที่ราคาขยับขึ้น ทั้งนี้ เมื่อสหกรณ์นำผลผลิตไปขายได้ราคามากขึ้นก็จะมีผลกำไรเพื่อมาเฉลี่ยคืนให้สมาชิกตอนสิ้นปี
ทั้งนี้ งบไทยนิยมฯที่สหกรณ์ได้รับ จะสามารถสร้างประโยชน์แก่สมาชิกและเกษตรกรในพื้นที่ได้อย่างมาก โดยเฉพาะโกดังเก็บรวบรวมผลผลิตที่มีช่องระบายอากาศอยู่ใต้พื้น จะสามารถเก็บผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อชะลอไว้ให้ได้ราคา และเป็นการสร้างแก้มลิงเก็บรวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น ปีที่ผ่าน ๆ มา ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่สหกรณ์ซื้อมา-ขายไป มีประมาณ 5,000 – 6,000 ตันต่อปี เมื่อมีโกดังเก็บผลผลิตที่สมบูรณ์แบบและมีโรงอบที่มีคุณภาพ คาดว่าสหกรณ์จะสามารถรวบรวมผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้เพิ่มขึ้นเป็น 20,000 ตันต่อปี ส่วนเป้าหมายที่ตั้งไว้ในแผนงานของสหกรณ์ คือ การดูดซับผลผลิตเข้ามาที่สหกรณ์ให้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากต่อจากนี้ไปสหกรณ์จะมีโรงอบ โกดังเก็บรวบรวม เพื่อให้สหกรณ์สามารถจัดเก็บผลผลิตได้มากขึ้น และยังมีเครื่องสับมันเส้น ซึ่งสหกรณ์จะนำมาแปรรูปมันสำปะหลัง และจะเปรียบเทียบมูลค่าของการขายมันสดและแปรรูปเป็นมันเส้นขาย ว่าแบบไหนที่จะได้ราคามากกว่ากัน
"โครงการไทยนิยมภายใต้โครงการพัฒนาสถาบันเกษตรกรจัดเก็บพืชผลทางการเกษตร (แก้มลิง) ถือว่าตอบโจทย์สมาชิกและเกษตรกรอย่างแท้จริง เนื่องจาก ตัวสมาชิกและเกษตรกรทั่วไปสามารถนำผลผลิตของตัวเองมาจำหน่ายให้กับสหกรณ์โดยตรง ไม่ต้องเดินทางไปส่งสินค้าไกล ซึ่งได้ราคาที่มากกว่าพ่อค้าเอกชน อีกทั้งยังสามารถลดต้นทุนและมีรายได้เพิ่มขึ้น เมื่อสหกรณ์ช่วยเหลือเรื่องการตลาดให้แก่สมาชิกได้ สมาชิกก็จะเกิดความไว้ใจและนำผลผลิตมาขายให้สหกรณ์โดยตรง ซึ่งตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา สหกรณ์ได้สร้างความเข้าใจอันดีระหว่างสมาชิกกับสหกรณ์ ทำให้สมาชิกเกิดความศรัทธาในตัวสหกรณ์ และยิ่งสหกรณ์ได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์ต่างๆเหล่านี้ จะยิ่งตอบโจทย์เรื่องการให้บริการรวบรวมผลผลิตของสมาชิกได้อย่างดี ส่งผลให้ธุรกิจสหกรณ์เกิดความเข้มแข็ง และสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับสมาชิกสหกรณ์ได้ในที่สุด"นางวัณนพ กล่าว