นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่งและน้ำไหลหลากใน 5 จังหวัด 22 อำเภอ 114 ตำบล 769 หมู่บ้าน ประกอบด้วย
นครพนม เกิดฝนตกหนักและน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครพนม อำเภอเรณูนคร อำเภอปลาปาก อำเภอท่าอุเทน อำเภอโพนสวรรค์ อำเภอธาตุพนม อำเภอบ้านแพง และอำเภอนาแก รวม 56 ตำบล 398 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 9 หลัง พื้นที่การเกษตรคาดว่าได้รับความเสียหาย 128,098 ไร่ ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้น
มุกดาหาร เกิดฝนตกหนักและน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอดงหลวง อำเภอเมืองมุกดาหาร อำเภอนิคมคำสร้อย อำเภอดอนตาล อำเภอหว้านใหญ่ และอำเภอหนองสูง ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,754 ครัวเรือน 15,534 คน พื้นที่การเกษตรคาดว่าได้รับความเสียหาย 28,582 ไร่ ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
อำนาจเจริญ เกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำในลำน้ำโขงล้นตลิ่งในพื้นที่อำเภอชานุมาน ตำบลโคกสาร พื้นที่การเกษตรคาดว่าได้รับความเสียหาย 650 ไร่ ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
อุบลราชธานี เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำในแม่น้ำโขงล้นตลิ่งในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเขมราฐ อำเภอโพธิ์ไทร อำเภอโขงเจียม อำเภอนาตาล และอำเภอศรีเมืองใหม่ ประชาชนได้รับผลกระทบ 590 ครัวเรือน 2,307 คน อพยพ 14 ครัวเรือน 52 คน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
สกลนคร เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสว่างแดนดิน และอำเภอโพนนาแก้ว ประชาชนได้รับผลกระทบ 48 ครัวเรือน 134 คน ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่อง อุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องกับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปภ.จึงได้ประสานจังหวัด ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เตรียมพร้อมรับมือ ป้องกัน และแก้ไขปัญหาอุทกภัยจากฝนตกหนักและปริมาณ ฝนสะสมในระยะนี้ โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด อีกทั้งจัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำพื้นที่เสี่ยงภัยให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง และน้ำป่าไหลหลาก โดยติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด หากได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป