"เรื่องธุรกิจเพลง ยังไม่หาย ยังไงอาร์เอสก็ทำธุรกิจเพลง แต่ธุรกิจเพลงเปลี่ยนผันไปจากในอดีตมาก มันสอนให้เราปรับตัว มุ่งสู่จุดหมายให้ได้ ซึ่งที่ผ่านมาเราปรับตัวได้อย่างดี ยืนยันตรงนี้ว่าธุรกิจเพลงอาร์เอสยังแข็งแรงและกำไรดีมาก บนธุรกิจโมเดลใหม่ ที่ยังไม่เหมือนคนอื่น เราเป็นมิวสิคมาเก็ตติ้ง คือ ศิลปินเป็นผู้ลงทุน ทุกบาททุกสตางค์ เราในใช้โมเดลนี้มา 3 ปี เราใช้ประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งการวางแผนตรงนี้ทำให้มีการเติบโตของธุรกิจสูงขึ้นเรื่อยๆ เหมือนศิลปิน คือ เป็นเจ้าของค่ายเพลง ศิลปินเป็นคนลงทุนทุกอย่าง เพียงแต่ว่าอาร์เอสให้มุมของการทำงาน อาร์เอสเป็นมาเก็ตติ้ง เป็นส่วนจัดการ ส่วนศิลปินเป็นคนลงทุน เราใช้ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เช่น เพลงเป็นแบบไหน นักแต่งเพลงแบบไหน มิวสิคเราจะเป็นอย่างไร เอาไปวางในยูทูปยังไงต่อ วางแผนโฆษณาอย่างไร วางแผนการขายคอนเสิร์ตยังไง คือ เราดูแลตรงนี้ให้หมด เราเน้นการทำเพลงให้กับศิลปินที่ไม่ต้องมีปริมาณที่มาก แต่เน้นที่คุณค่าและผลตอบแทน ปัจจุบันธุรกิจเพลงอาร์เอสคือ 5% ของกลุ่มธุรกิจทั้งหมด แต่แข็งแรง มียอดขายประมาณ 250 ล้านบาท แล้วทำกำไรสูง เรายังคงเป็นเบอร์ 1 และยังทำกำไรต่อเนื่อง ศิลปินแต่ละคนก็อยู่ระดับแถวหน้าไม่ว่าจะเป็น ใบเตย อาร์สยาม, กระแต อาร์สยาม, เบิ้ล ปทุมราช, จ๊ะ อาร์สยาม , วงเฟลม กลุ่มนี้ถือเป็นศิลปินที่มีงานตลอดทั้งปี นอกจากนั้นเรายังมีกลุ่มศิลปินเลือดใหม่ อาทิ ลาดา อาร์สยาม, ต้นข้าว อาร์สยาม, บิว พงค์พิพัฒน์, เพลง อาร์สยาม, ต้นข้าว อาร์สยาม ซึ่งกลุ่มนี้พร้อมมารับไม้ต่อจากพี่ๆ นอกจากนั้นเรายังศิลปินอีกกลุ่มใหญ่ที่พร้อมทำงานเพลงต่อเนื่อง ถึงตรงนี้เรายังมั่นใจว่า อาร์สยาม จะยังคงเป็นค่ายเพลงอันดับ 1 ไม่ใช่แค่ลูกทุ่ง แต่เราคือค่ายดนตรีที่ไร้กรอบ"
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit