ปัจจุบันนี้หลักสูตรได้ดำเนินการจัดการเรียนการสอนมา 11 รุ่น รวมจำนวนผู้เข้าอบรมทั้งสิ้น1,040 คน เป็นภาครัฐและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ 223 คน และภาคเอกชน 817 คน ผู้เข้าร่วมเรียนหลักสูตรในแต่ละปีมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งในประเด็นและปัญหาต่าง ๆ ที่มีความสำคัญต่อการค้าและ การพาณิชย์ของไทยและสามารถต่อยอดแนวความคิดและเครื่องมือเพื่อ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต่อไป อีกทั้ง TEPCoT ถือเป็นเวทีเชื่อมโยงแนวคิดจากภาคส่วนต่าง ๆ ที่เปิดให้ เกิดการระดมสมองที่จะแก้ปัญหาระดับประเทศได้อย่างบูรณาการ และด้วยเครือข่ายผู้บริหารระดับสูง จากแวดวงการค้าและการพาณิชย์ จะช่วยผลักดันนโยบาย และสร้างกลไกใหม่ ๆ ทางการค้าและการพาณิชย์
รองศาสตราจารย์ ดร.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า "บทบาทของหอการค้าไทยและมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยในฐานะของภาคเอกชน เรามีความเชี่ยวชาญ ในฐานะผู้ปฎิบัติ และมีความเกี่ยวข้องกับการค้าการพาณิชย์โดยตรง เราได้มีการระดมสมอง ประชุมร่วมกันในกลุ่มคณะกรรมการหลักสูตร ซึ่งมีผู้แทนจากทั้ง 6 องค์กร เพื่อหยิบยกหัวข้อและประเด็นสำคัญที่มีผลต่อเศรษฐกิจไทย มาบรรจุในเนื้อหาหลักสูตรฯ อีกทั้งทางหอการค้าไทย ร่วมพิจารณาคัดเลือกสมาชิกและนักธุรกิจ จากเครือข่าย (หอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หอการค้าจังหวัดและสมาคมการค้า) ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมทั้ง นักธุรกิจที่มีชื่อเสียงและประสบผลสำเร็จเข้าร่วมอบรมในหลักสูตร TEPCoT"
"อย่างไรก็ตามหลักสูตรนี้ เน้นการเพิ่มพูนความรู้ให้กับผู้เข้าอบรม โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมเสนอแนวคิดเพื่อให้เกิดการเรียนรู้และมีการจัดทำแนวทางในการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ด้านการค้าและการพาณิชย์ นำประเทศไปสู่การเป็นผู้นำเศรษฐกิจเอเชียได้อย่างยั่งยืนในอนาคต เพื่อให้เข้าใจถึงความสำคัญของการค้าและการพาณิชย์ และสามารถร่วมกันในการกำหนดแนวนโยบาย สร้างกลไกใหม่ๆ ทางการค้า ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจและการวางแผนเชิงรุกของหน่วยงานสนับสนุนทั้งภาครัฐและเอกชน" อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวทิ้งท้าย