ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวปาถกฐาในหัวข้อ "Update on the Development of the Digital Economy" ให้กับหอการค้าออสเตรเลียน-ไทย และหอการค้าในกลุ่มประเทศยุโรป ประกอบด้วย สภาหอการค้าอังกฤษแห่งประเทศไทย หอการค้าแคนาดา-ไทย หอการค้าฝรั่งเศส-ไทย หอการค้าเยอรมัน-ไทย หอการค้าเฮเลนนิก-ไทย หอการค้าเนเธอร์แลนด์-ไทย หอการต้านิวซีแลนด์-ไทย และอุตสาหกรรม บริษัทข้ามชาติทั้งในและต่างประเทศ เพื่ออัพเดทความก้าวหน้าการดำเนินงานของรัฐบาลและกระทรวงดิจิทัล ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจ โดยกล่าวว่า ดิจิทัลอยู่ในทุกที่ หลายอย่างที่สังคมต้องปรับเปลี่ยนแนวคิด และบางอย่างต้องดิสรับชั่นคือปรับทุกอย่างออกจากสิ่งเดิม ๆ สู่ แชร์ริ่ง อีโคโนมี่ ซึ่งเป็นโมเดลเศรษฐกิจเพื่อการแบ่งปัน
"วันนี้ กระทรวงดิจิทัลฯ ได้ทำงานร่วมกับทั้ง 19 กระทรวง ในเรื่อง บิ๊กดาต้า โอเพ่นดาต้า ดาต้าเซนเตอร์ ดาต้าคลาวด์เซอร์วิส ซึ่งปีที่ผ่านมา มีการดำเนินการลดขั้นตอนดำเนินการภาครัฐ เพื่อให้เป็น One Stop Service การดำเนินงานที่ทำให้ประเทศไทยมีบรอดแบรนด์ อินเตอร์เน็ต ครอบคลุมทั้งประเทศ ที่เรียกว่า เน็ตประชารัฐ และการใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตที่สร้างสรรค์ เช่น การพัฒนาต้นแบบหมู่บ้านเพื่อเป็นชุมชนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือวิลเลจอีคอมเมิร์ส รวมถึงการตั้ง "National Cyber Security Agency" เพื่อความความปลอดภัยในยุคดิจิทัล และตั้ง ASEAN-Japan Cyber Security Capacity Building Center เพื่อสร้างกำลังคนและเครือข่ายเพื่อทำงานด้านไซเบอร์ ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรมดิจิทัลเติบโตแบบก้าวกระโดดเนื่องจากมีการพัฒนาตั้งแต่ฐานราก" รมว.ดิจิทัลฯ กล่าว
ดร.พิเชฐ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ กระทรวงดิจิทัลฯ ยังดำเนินการสร้างดิจิทัล พาร์ค ที่ศรีราชา ซึ่งเป็นอาณาจักรดิจิทัลที่ครอบคลุมทั้ง สถาบันไอโอที ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพ ธุรกิจแอนนิเมชั่น สนามทดสอบขนาดใหญ่เรื่อง 5G เป็นต้น ซึ่งภายใต้ ดิจิทัลพาร์ค มีสิทธิประโยชน์สำหรับนักลงทุนมากมาย และมีการพัฒนาพื้นที่ที่เรียกว่าสมาร์ทซิตี้ โดยมีเมืองต้นแบบอย่าง ภูเก็ต เชียงใหม่ ขอนแก่น อีอีซี กทม. และสามารถต่อไปยังเมืองอื่นๆ ต่อไปได้
ทั้งนี้ ภายหลังการกล่าวปาถกฐา ดร.พิเชฐ ได้ตอบข้อซักถามผู้เข้าร่วมงาน ที่ให้ความสนใจลงทุนด้านดิจิทัลในประเทศไทย เนื่องจากมองเห็นอนาคตแห่งการเติบโต และสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ