ในปี 1843 นักเคมีชาวอังกฤษ Alfred Bird ได้ค้นพบผงฟู หรือ Baking Powder ที่สามารถทำขนมปังที่ไม่ต้องใส่ยีสต์ได้ เพื่อ Elizabeth ผู้เป็นภรรยาซึ่งแพ้ไข่และยีสต์ ให้สามารถกินเค้กได้อย่างมีความสุข อีกทั้งยังได้มอบความสุขให้กับผู้อื่นที่แพ้ไข่และยีสต์ได้กินเค้กอย่างมีความสุขเช่นเดียวกับภรรยาของเขาด้วย
จากนั้นรูปแบบของเค้กได้รับการพัฒนาปรับปรุงมาเรื่อยๆ ส่วนมากวัตถุดิบที่ใช้เป็นหลัก คือ แป้งสาลี ไข่ น้ำตาลและเนยโดยนำไปอบหรือผิงจนสุกแล้วนำไปตกแต่งให้สวยงามและน่ากินยิ่งขึ้นด้วยผลไม้ น้ำตาลไอซ์ซิ่ง ถั่วและครีมชีสชนิดต่างๆ รูปแบบและรสชาติของเค้กก็มีการพัฒนาปรับปรุงให้มีความหลากหลายแล้วแต่ความชอบของผู้คน โดยไม่มีกฎตายตัวอะไร บางคนชอบชีสเค้ก บางคนชอบเค้กไอศกรีม บางคนชอบเค้กผลไม้ แต่ไม่ว่าวิวัฒนาการของเค้กจะเปลี่ยนไปอย่างไรก็ตาม ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเค้กก็ยังกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการแบ่งปันความสุขที่มอบให้แก่ผู้อื่นตลอดมา
และล่าสุดปี 2018 บาร์บีกอน เจ้ามังกรเขียวพุงกลม ก็ได้มีคิดค้นเค้กในแบบฉบับบาร์บีคิวพลาซ่าขึ้นมาในรูปแบบเมนูปิ้งย่างสุดพิเศษชุด "บาร์บีคิวพาให้" เพื่อจำหน่ายที่ร้านเนื่องในโอกาสวันเกิดของบาร์บีกอน ซึ่งเค้กดังกล่าวนี้ ไม่ได้มีความพิเศษเพียงแค่การนำเมนูปิ้งย่างยอดฮิตของร้านทั้งแบบหมูและเนื้อมาจัดเรียงเป็นรูปเค้กและเสิร์ฟพร้อมซอสโมมิดาเระ ที่ใส่มาในถ้วยที่ดูเหมือนถ้วยเครื่องดื่มของการฉลองวันพิเศษเท่านั้น แต่เค้กนี้ ยังสามารถช่วยส่งต่อแนวคิดของการแบ่งปันและเติมเต็มผู้อื่นในวันเกิด กับคอนเซ็ปต์ที่ว่า "The Missing Piece" หรือเค้กที่ไม่เต็มก้อน มีบางส่วนของเค้กที่ขาดหายไป ซึ่งแบรนด์ตั้งใจที่จะสื่อสารในเชิงสัญลักษณ์ให้แก่ลูกค้าลองคิดที่จะแบ่งปันความสุขสักส่วนหนึ่งของเราเพื่อไปเติมเต็มความสุขให้แก่ผู้อื่น เค้กบาร์บีคิวพาให้ ของบาร์บีคิวพลาซ่า จะมีจำหน่ายจนถึง 31 ต.ค. 61 นี้
ถึงแม้ว่ากาลเวลาทำให้มีหลากหลายสิ่งที่เปลี่ยนแปลงตาม หรือว่าใครจะเป็นผู้คิดค้นเค้กในรูปแบบใหม่ขึ้นมาอีก แต่ความหมายของเค้กที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์แห่ง "การแบ่งปันความสุข" ให้แก่กันและกันก็ยังคงอยู่เฉกเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit