ในวันเสาร์ รอบควอลิฟายแรก แซนดี้ ลงขับปอร์เช่ 911 จีที 3 อาร์ #911 เป็นคนแรก ได้กริดสตาร์ทที่ 8 ของรุ่นรวม ทำให้บรรยากาศการแข่งขันในเรสแรกที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงบ่ายวันเสาร์ตื่นเต้นขึ้น และ เช เดวีส์ลงขับในควอลิฟายที่ 2 ได้กริดสตาร์ทที่ 14 ในการแข่งขันเรสที่ 2 ในวันอาทิตย์
ช่วงบ่ายของวันเสาร์ การแข่งขันเรสที่ 1 เริ่มขึ้น แซนดี้ออกสตาร์ทคันที่ 8 อย่างตื่นเต้น ขณะที่การแข่งขันเริ่มขึ้นอย่างดุเดือดภายในไม่กี่นาทีแรก แซนดี้สามารถไต่อันดับขึ้นมาอันดับที่ 5 ทันใดนั้นอุบัติเหตุได้เกิดขึ้นระหว่างนิสสัน จีทีอาร์ จีที 3 และรถออดี้ อาร์ 8 จีที 3 บริเวณด้านหน้ารถของแซนดี้ ซึ่งทำให้รถปอร์เช 911 จีที 3 อาร์ของแซนดี้โดนหางเลขตามไปด้วย สร้างความเสียหายให้รถอย่างหนักจนไม่สามารถแข่งขันต่อได้ในเรสแรก แซนดี้เสียใจและเสียดายอย่างที่สุดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรสแรกทางทีมคราฟแบมบูได้เร่งซ่อมแซมรถคู่ใจของแซนดี้ตลอดทั้งคืนวันเสาร์ จนในที่สุดรถกลับมามีสภาพพร้อมแข่งดังเดิมในเรสที่ 2 ของเช้าวันอาทิตย์
ในวันอาทิตย์ การแข่งขันเรสที่ 2 เริ่มขึ้น เช เดวีส์ เริ่มลงแข่งขันเป็นคนแรก โดยเริ่มออกสตาร์ทในอันดับที่ 14 ของรุ่นรวม เช เดวีส์ สามารถพาปอร์เช่ ไต่อันดับขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 13 จนมาถึงช่วงเปลื่ยนมือนักขับเป็นแซนดี้ แซนดี้เร่งเครื่องยนต์เต็มกำลังแต่น่าเสียดายโชคไม่เข้าข้างแซนดี้อีกครั้ง เครื่องยนต์เร่งไม่ขึ้น และเครื่องยนต์ดับลง ไม่สามารถสตาร์ทเครื่องได้ จนทำให้ต้องออกจากการแข่งขันในที่สุด
แซนดี้ กล่าว " การแข่งขันสนามสุดท้ายในฤดูกาลนี้เป็นเหตุการณ์ที่ท้าทายที่สุดในชัวิตการแข่งชันของผม ตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา ทีมงานทำงานร่วมมือกันได้อย่างยอดเยี่ยม ผมคว้าโพเดียมมาครองได้ที่ญี่ปุ่น แต่น่าเสียดายที่พละกำลังเครื่องยนต์ของรถปอร์เช่ จีที 3 อาร์ ยังสู้กับคู่แข่งไม่ได้ อย่างไรก็ตามผมจะสู้ต่อไปด้วยความเข้มแข็ง ซึ่งตอนนี้ผมกำลังแพลนโปรเจคของปีหน้าแล้วว่าจะต้องเร็วและแรงขึ้นอย่างแน่นอน ผมอยากขอขอบคุณผู้สนับสนุนทุกรายและคนไทยทุกคนที่ให้กำลังใจผมมาตลอดทั้งฤดูกาล ผมจะสู้ต่อไปเพื่อให้เพลงชาติไทยดังขึ้นอีกครั้งในสนามแข่งปีหน้าให้จงได้"
HTML::image(