ทั้งนี้การปลอมแปลงผลิตภัณฑ์ยา การขาดการระบุเอกลักษณ์อุปกรณ์การแพทย์ และข้อผิดพลาดทางการแพทย์ ถือเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยมาเป็นเวลานาน และจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของประชากรผู้สูงอายุ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งระบบสืบย้อนกลับ หรือ Traceability ตามมาตรฐานสากล GS1 ถือเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยป้องกันยาที่ไม่ได้มาตรฐานหรือปลอมแปลงถึงมือผู้ป่วย และให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลยาของผู้ป่วยได้รับการบันทึกอย่างถูกต้อง ผู้ให้บริการด้าน Healthcare ทั่วโลกเริ่มมีการใช้มาตรฐาน GS1 เพิ่มขึ้น ทั้งในห้องผ่าตัด ห้องแล็บ จุดจ่ายยา เป็นต้น มาตรฐานสากล GS1 ได้ช่วยเพิ่มความพึงพอใจให้แก่ผู้ป่วย ในขณะเดียวกันก็เพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ซัพพลายเชนในหลายๆ ส่วนด้วยเช่นกัน
นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงของดิจิทัลเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญต่อการใช้ชีวิตและโลกของเราเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ทุกภาคส่วนในสังคมต้องเตรียมตัวรับมือกับยุคสมัยใหม่อย่างชาญฉลาด ในด้าน Healthcare ก็จำเป็นต้องปรับตัวโดยนำเอาประโยชน์ของดิจิทัลเทคโนโลยีในด้านต่างๆ มาใช้ในการพัฒนาทั้งสาธารณูปโภค นวัตกรรม การใช้ข้อมูล ทรัพยากรมนุษย์ และทรัพยากรอื่นๆ การเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชากรในประเทศไทยถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่สำคัญ เนื่องจากประชากรในทุกระดับชั้นจะต้องสามารถเข้าถึงการบริการด้านสาธารณสุขได้อย่างเท่าเทียม
ด้วยเหตุนี้ กระทรวงสาธารณสุขแห่งประเทศไทย เรามุ่งเน้นยกระดับความมั่นคงของประเทศในทุกแง่มุม ทั้งในการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถของทรัพยากรมนุษย์ ขยายโอกาสความเท่าเทียมกันในสังคม พัฒนาคุณภาพของการบริการด้านสุขภาพ การใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีและนวัตกรรม และมีความภูมิใจเป็นอย่างมากที่เราได้เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการจัดทำ e-Health เพื่อช่วยในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพภายใต้การประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ Universal Health Coverage (UHC) โดยการประชุมในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาทางด้าน Healthcare ในอนาคต และระบบ Traceability ที่ช่วยให้เห็นการเคลื่อนไหวของสินค้าตลอดทั้งซัพพลายเชน และยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยของผู้ป่วยอีกด้วย
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวชื่นชมองค์กร GS1 Healthcare ผู้จัดงานนี้ ที่ประสบความสำเร็จในการสร้างโซลูชั่นให้กับการบริการด้านสุขภาพ และมีบทบาทที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนามาตรฐานให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ ทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันโรงพยาบาลบางแห่งเริ่มนำมาตรฐานสากลและเทคโนโลยีต่างๆ ของ GS1 มาใช้ในการพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพของการทำงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้รับบริการด้านสุขภาพ
โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นองค์กรที่มีบทบาทผลักดันด้านนโยบายและประสานการทำงานระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน โดยเรามีสมาชิกที่เป็นกลุ่มผู้ผลิตในภาคอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมทั้งประเทศกว่า 45 กลุ่ม อาทิ กลุ่มอุตสาหกรรมยา กลุ่มอุตสาหกรรมสมุนไพร และกลุ่มอุตสาหกรรมผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์และสุขภาพ ที่ได้นำเอามาตรฐานสากล GS1 มาประยุกต์ใช้ อีกทั้งมีบทบาทช่วยในการผลักดันส่งเสริมมาตรฐานสากลและเทคโนโลยีต่างๆ ของ GS1 ไปยังหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้รับบริการด้านสุขภาพของไทย โดย GS1 Thailand เป็นหนึ่งในหน่วยงานของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่ง GS1 Thailand มีบทบาทในการส่งเสริมมาตรฐานสากล GS1 ในด้านต่างๆ อาทิ ด้าน โลจิสติกส์และซัพพลายเชน ด้านค้าปลีก และด้าน Healthcare โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้าน Healthcare เรามุ่งมั่นสร้างมาตรฐานด้านการบริการสุขภาพให้คนไทยตลอดซัพพลายเชนสุขภาพ รวมถึงร่วมผลักดันให้โรงพยาบาลชั้นนำของประเทศไทย นำระบบมาตรฐานสากล GS1 ไปประยุกต์ใช้ตลอดซัพพลายเชน และคุณสุพันธุ์ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้มีโอกาสร่วมจัดงานนี้ในประเทศไทย เพื่อเป็นเวทีรวมตัวของผู้แทนจากภาครัฐบาล ภาคเอกชน โรงพยาบาล ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ผู้ให้บริการขนส่ง และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในซัพพลายเชนสุขภาพทั่วโลก โดยมุ่งเน้นไปที่การหารือร่วมกันและอัพเดตมาตรฐาน รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกสินค้ากลุ่มยาและเครื่องมือแพทย์นานาชาติทั่วโลก
สอบถามรายละเอียดได้ที่ สถาบันรหัสสากล (GS1 Thailand) โทร. 0-2345-1202 แฟกซ์ 0-2345-1217-18
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit