ไทยร่วมมือ FAO และญี่ปุ่น หาแนวทางการลด Food Waste and Loss มุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาการเกษตรที่ยั่งยืน

06 Sep 2018
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเปิดตัวโครงการ Capacity Building to Reduce Avoidable Food Waste in Micro, Small and Medium Food Processing Enterprises and in Retail ณ โรงแรมอมารี วอเตอร์เกต ว่า โครงการดังกล่าว เป็นโครงการที่อยู่ภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างไทยและ FAO โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณการดำเนินงานจากกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง ของประเทศญี่ปุ่น มีระยะเวลาการดำเนินโครงการ 4 ปี (2560 – 2564) โดยดำเนินการในประเทศไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อหาแนวทางการลด Food Waste and Loss ในเกษตรกรรายย่อย วิสาหกิจขนาดเล็กและขนาดกลางในประเทศไทย ในทุกกระบวนการตั้งแต่การแปรรูป การกระจายสินค้า และการค้าปลีก เพื่อนำไปประกอบการจัดทำคู่มือการลด Food Waste and Loss และให้ภาคธุรกิจนำไปเป็นแนวทางการพัฒนาและเผยแพร่ไปยังภูมิภาคอื่น
ไทยร่วมมือ FAO และญี่ปุ่น หาแนวทางการลด Food Waste and Loss มุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาการเกษตรที่ยั่งยืน

การดำเนินโครงการนี้ FAO จะทำการสำรวจศึกษาข้อมูลและรายงานปัญหาที่ทำให้เกิด Food Waste and Food Loss ในกลุ่มเป้าหมายของประเทศไทย และจะนำข้อมูลดังกล่าวจัดทำเป็นเอกสารคู่มือการลด Food Waste and Loss ให้แก่เกษตรกรรายย่อย วิสาหกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง รวมทั้งจัดรูปแบบโปรแกรมการฝึกอบรม เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายนำไปปฏิบัติ และให้คำแนะนำในการจัดทำ Draft National Strategy for Food Waste Reduction

อย่างไรก็ตาม "ความจำเป็นต้องทำให้มีอาหารเพียงพอและบริโภคอาหารอย่างสมดุล" นั้น ในอีกทางหนึ่งต้องเกิดจากระบบการผลิต การจัดการหลังการเก็บเกี่ยว การขนส่งสินค้าและการบริโภคอาหารที่มีประสิทธิภาพ เพื่อลด Food Loss และ Food Waste ใน Value Chain ซึ่งประเทศไทยในฐานะผู้ผลิตสินค้าเกษตรและอาหารอันดับต้นของโลก เป็นประเทศที่มีการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารและตั้งเป้าหมายการเป็นครัวของโลก จำเป็นต้องให้ความสำคัญและสร้างจิตสำนึกอันเข้มแข็งสำหรับการจัดการ Food Loss และ Food Waste ให้เกิดขึ้นในทุกภาคส่วน

"ปัญหาเรื่องความอดอยากหิวโหยเป็นเรื่องสำคัญที่ทั่วโลกให้ความสนใจ ดังที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดำรัสในฐานะทูตพิเศษด้านขจัดความหิวโหยสำหรับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ต่อที่ประชุมสมัชชาเอฟ เอ โอ ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก เมื่อเดือนเมษายน 2561 ที่ผ่านมา โดยพระองค์ทรงเน้นย้ำว่าเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องร่วมกันทำงานเพื่อหาแก้ปัญหาที่มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน มีความจำเป็นต้องทำให้มีอาหารเพียงพอและบริโภคอาหารอย่างสมดุล และจะทรงสนับสนุนงานที่จะช่วยทำให้บรรลุเป้าหมายการนำไปสู่การขจัดความหิวโหย โดยขอให้ร่วมกันทำงานเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นว่าจะไม่มีผู้อดอยากหิวโหยและมีสุขภาพที่ดีต่อไป" นายระพีภัทร์ กล่าว

นอกจากนี้ ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกับประเทศญี่ปุ่นในขณะนี้ จึงมุ่งหวังหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในไม่ช้า เนื่องจากมั่นใจว่าพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจะได้รับความช่วยเหลือ และฟื้นตัวกลับคืนสู่สภาพปกติ โดยประเทศไทยพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้

HTML::image( HTML::image( HTML::image(