บริษัท สยามเทค แอนด์ ดีเวลลอป จำกัด มั่นใจตลาด Digital Education สินค้ากลุ่มอินเตอร์แอคทีฟมาแรง มุ่งขยายฐานภาคธุรกิจ (B2B) และภาคการศึกษา พร้อมเปิดตัว "GYGAR Interactive Presenter" (ไกก้า อินเตอร์แอคทีฟ พรีเซนเตอร์) หน้าจอระบบสัมผัสอัจฉริยะขนาดใหญ่ 4K อันแน่นด้วยฟีเจอร์ระดับพรีเมี่ยม ในราคาที่จับต้องได้ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ของการศึกษายุคดิจิทัล 4.0 พร้อมชูแนวคิด Smart Classroom Intelligent People มั่นใจรายได้โตเท่าตัวแตะ 270 ล้านบาท และสร้างส่วนแบ่งการตลาดโซลูชั่นในองค์กรขนาดกลางและใหญ่เพิ่ม 50 % ทั้งภาครัฐ เอกชน รวมถึงองค์กรการศึกษา หวังติดอันดับ Top 3 ภายในปี 2561
นายลือเขต กลิ่นมาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามเทค แอนด์ ดีเวลล็อป จำกัด กล่าวว่า จากแนวโน้มการพัฒนาผลิตภัณฑ์และความก้าวหน้าของอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารใน ทั้งอุปกรณ์และเครื่องมือในการนำเสนองานไม่ว่าจะเป็น สินค้า หรือบริการ ส่งผลให้องค์กรต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจใหญ่ๆ เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการใช้สื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อดิจิทัล อาทิ โปรเจคเตอร์, จอแสดงภาพ Digital Signage, Interactive Touch Panel เป็นต้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ การทำงาน รวมถึงกลุ่มธุรกิจการศึกษา ก็มีการปรับตัวนำอุปกรณ์ดังกล่าวเข้าไปใช้กับสื่อการเรียนการสอนกันมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยการันตีประสิทธิผล ยังลดต้นทุนการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ และสามารถประยุกต์รูปแบบการเรียนการสอนได้หลากหลายผ่านโซลูชั่นต่างๆ
ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมากว่า 18 ปี สยามเทคฯ มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากทุกกลุ่มลูกค้า ซึ่งเป็นผลจากทำการศึกษาตลาดจนมีความเข้าใจในความต้องการของแต่ละกลุ่มธุรกิจ รวมถึงความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีและโซลูชั่นที่สมบูรณ์แบบ และที่สำคัญคือเรามีการบริการหลังการขายที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน ทำให้ได้รับความไว้วางใจที่ดีจากกลุ่มลูกค้าองค์กร
โดยล่าสุด! สยามเทคฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ "Interactive Presenter" ภายใต้แบรนด์ GYGAR อย่างเป็นทางการ ภายใต้คอนเซปต์ Display Performance ซึ่งถือเป็นนำเสนอโซลูชั่นล้ำสมัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และยกระดับการศึกษาไทยให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น รวมถึงสนับสนุนให้ผู้สอนและผู้เรียนสามารถโต้ตอบกันได้ผ่านการเรียนการสอนแบบอินเตอร์แอคทีฟ สามารถเชื่อมต่อ แชร์ข้อมูลต่างๆ อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้ซอร์ฟแวร์เพิ่มเติม และยังช่วยกระตุ้นบรรยากาศภายในห้องเรียนให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ สนุกสนาน และมีส่วนร่วมในห้องเรียนมากขึ้น
สำหรับแนวโน้มตลาดปัจจุบันยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สินค้าในกลุ่มอินเตอร์แอคทีฟ เติบโตขึ้นมากกว่า 50 % ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยีสู่ยุคดิจิทัล รวมถึงการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลเศรษฐกิจของภาครัฐ สนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงองค์กรสู่ดิจิทัลในรูปแบบการศึกษา ทำให้ภาคธุรกิจต่างๆ เริ่มปรับตัวและหันมาให้ความสำคัญกับการใช้สื่อประชาสัมพันธ์ดิจิตอลรูปแบบใหม่ๆ ทดแทนป้ายในรูปแบบดั้งเดิมมากขึ้น รวมถึงภาคการศึกษา มีการนำสื่อเทคโนโลยีเข้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อยอดการพัฒนาขีดความสามารถและสร้างโอกาสใหม่ๆ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ และการศึกษาของประเทศให้ก้าวล้ำหน้าต่อไปในอนาคต
ในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายหรือการเติบโตเพิ่มขึ้นเท่าตัว จากปีก่อน พร้อมวางกลยุทธ์หลักบุกตลาดภาคธุรกิจ (B2B) และภาคการศึกษา โดยมุ่งพัฒนานวัตกรรมและโซลูชั่นใหม่ๆ เข้ามาเสริมในตลาด เพื่อตอบโจทย์และเข้าถึงทุกกลุ่มธุรกิจในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น และคุ้มค่าแก่การลงทุน สอดรับกับแนวคิด "Smart Classroom Intelligent People" ซึ่งแบ่งสัดส่วนในการทำการตลาดเป็น กลุ่มโปรเจคเตอร์ 40% กลุ่มไซเนจดิสเพลย์ (Digital Signage)10% และกลุ่มอินเตอร์แอคทีฟ 30% และผลิตภัณฑ์อื่นๆ 20% นอกจากนี้ ยังได้วางแผนขยายเครือข่ายและช่องทางการขายสินค้ากลุ่มใหม่ๆ โดยเน้นการจัดกิจกรรม Road Show ในพื้นที่ต่างจังหวัด 12 จังหวัดทั่วประเทศ พร้อมเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มโปรเจคเตอร์อีก 5 รุ่น ปลายปีนี้
คุณณัฐพล สงวนศิริ Director of Product Marketing กล่าวว่า ปีนี้เราเปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ GYGAR (ไกก้า) ซึ่งได้รับการพัฒนาปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพในการทำงานทั้งในรูปแบบการเรียนการสอน และการประชุม มีการตอบสนองที่รวดเร็ว รองรับการใช้งานแบบ Touchscreen และ Multi-users ได้แก่
GYGAR Interactive Presenter หน้าจอระบบสัมผัสอัจฉริยะ รุ่น IPG-Series มี 4 ขนาด ได้แก่ 55, 65, 75 และ 86 นิ้ว มาพร้อมดีไซน์โดดเด่น เรียบหรู ให้ความคมชัดทุกสภาพแวดล้อมในการนำเสนอตอบโจทย์การทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความละเอียดสูงถึงระดับ 4K ครอบคลุมทั้งระบบปฏิบัติการ Windows และ Andriod รวมถึงการเชื่อมต่อผ่านโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต ทั้งระบบ iOS และ Android นอกจากนี้ ยังรองรับฟีเจอร์ที่หลากหลาย สามารถสัมผัสบนจอพร้อมกันได้ถึง 20 จุด และเขียนพร้อมกันได้ 10 จุดในเวลาเดียวกัน พร้อมระบบการบันทึกและแชร์ข้อมูล อีกทั้งยังมีปุ่มคีย์ลัดและช่อง USB ที่สามารถเปลี่ยนตามระบบปฏิบัติการได้จากด้านหน้า ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการใช้งาน พร้อมการติดตั้งโปรแกรม Smart Presentation และ Air Class ให้ผู้เรียนสามารถ Scan QR Code เข้ามาช่วยในการทำงานและสร้างกิจกรรมภายในห้องเรียนหรือห้องประชุม เช่น การโหวต ตอบคำถาม การแข่งขันตอบปัญหา การส่งข้อความและอิโมจิ ขึ้นบนหน้าจอได้ง่าย และรวดเร็ว ซึ่งเหมาะสมกับการใช้งานในห้องประชุมหรือห้องเรียน
อีกหนึ่งไฮไลท์ คือ GYGAR Digital Signage รุ่น EA43i ป้ายประชาสัมพันธ์ ดีไซน์เรียบหรู ด้วยหน้าจอความละเอียดระดับ Full HD ดึงดูดสายตากว่าป้ายแบบเดิมๆ เพิ่มความแข็งแรงด้วยจอนิรภัย ที่ทนทานได้ทั้งความร้อนจากภายในและป้องกันรอยขูดขีดจากภายนอกด้วยเทคนิคพิเศษ พร้อมมาตรฐานป้องกันน้ำ นอกจากนี้ สามารถอัพเดทการแสดงเนื้อหาได้ทั้งรูปภาพและวิดีโอได้ตลอดเวลา ด้วยระบบการติดตั้งแบบ Plug and Play ผ่าน USB มีการควบคุมแบบ Remote Access บนระบบคลาวด์ รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลายทั้งระบบ LAN และ WI-FI รวมถึงการติดตั้งกล้องหรือใส่ชิมการ์ดเพื่อใช้งานผ่านระบบเครือข่าย 3G/4G ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าสนใจในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ได้มากขึ้นยิ่งขึ้น มีให้เลือกใช้งานได้ทั้งแบบ Indoor และ Outdoorและท้ายสุดกับ GYGAR LED Wall Solution หน้าจอขนาดใหญ่ที่ให้ความคมชัดภาพตั้งแต่ระยะ 1.6 เมตร ดึงดูดผู้ชมด้วยเนื้อหาเฉดสี Full Color ความละเอียดเฉดสีสูงถึง 16.7 ล้านสี ออกแบบมาเพื่อการใช้งานตลอด 24 ชม. มาพร้อมโซลูชั่นระบบการปรับลดแสงอัตโนมัติ ให้ความคมชัดทั้งในแบบกลางวันและกลางคืน มาพร้อมเทคโนโลยีขั้นสูงซึ่งให้มุมมองภาพที่กว้างขึ้นเป็นพิเศษ 160°/120° เพิ่มความสะดวกในการสร้างและจัดการคอนเทนต์ด้วยแพลตฟอร์มแบบครบวงจร รองรับการติดตั้งอย่างไร้รอยต่อ ด้วยโครงสร้างเหล็กคุณภาพสูง พร้อมตอบสนองตามความต้องการของผู้ใช้งาน หนึ่งในเทคโนโลยีที่ดีไซน์มาเพื่อรองรับการใช้งานสื่อประชาสัมพันธ์ที่เน้นความสวยงามและคมชัด สามารถเลือกใช้งานได้ทั้งแบบภายในและภายนอกอาคารด้วยคุณภาพและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างคลอบคลุมรอบด้าน และมีประสิทธิภาพสูงสุดแล้ว สยามเทคฯ ยังเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์แบรนด์ GYGAR (ไกก้า) โดยมีการควบคุมการผลิตและนำเข้าในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว รวมถึงมีบริการหลังการขายแบบครบวงจร โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาแบบ On-site service ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยศูนย์บริการในพื้นที่ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทั้ง 5 สาขาทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ หาดใหญ่ ขอนแก่น นครสวรรค์ เป็นต้น ซึ่งนับเป็นความได้เปรียบด้านการขายสินค้าและให้บริการที่ดีกว่าคู่แข่งของเรา คุณณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย
ผลิตภัณฑ์ GYGAR พร้อมวางจำหน่ายแล้ว ผ่านตัวแทนและร้านค้าพันธมิตรกว่า 600 ราย ทั่วประเทศ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ที่ www.siamtech.biz
ด้าน ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง รองอธิการบดี ฝ่ายกิจการนักศึกษา และ คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี กล่าวว่า สำหรับในส่วนภาคการศึกษา ปัจจุบันนี้วงการการศึกษามีจุดมุ่งหมายเน้นให้ผู้เรียนศึกษาหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ มีการเรียนรู้ตลอดชีวิต และต้องทันต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน เทคโนโลยีจึงมีบทบาทที่สำคัญในการตอบสนองการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างมาก และนับเป็นความท้าทายในระบบการศึกษาที่เลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นสถาบันการศึกษาจำเป็นต้องเร่งปรับตัวเพื่อก้าวให้ทันเทคโนโลยีเช่นกัน โดยนำเทคโนโลยีมาใช้กับการเรียนการสอนในทุกกลุ่มวิชา เรียกได้ว่าเป็นการบูรณาการเรียนการสอบเข้ากับสื่อเลยก็ว่าได้ หรือจะเรียกว่า "การศึกษายุคดิจิตอล" ก็ได้
อย่างไรก็ตาม แม้เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทและส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ผมในฐานะผู้บริหารสถานศึกษา กลับมองว่า เราจะช่วยให้พวกเขาอยู่กับสื่อได้อย่างสร้างสรรค์และได้รับประโยชน์ทางการเรียนรู้ใน ยุคดิจิทัลนี้ได้อย่างไร ซึ่งจากที่เห็นปัจจุบันหลายๆ สถาบันเริ่มมีการนำสื่อเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมในการถ่ายทอดความรู้จากอาจารย์ผู้สอนไปสู่ผู้เรียน ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจ สนใจใฝ่เรียนรู้ สนุกสนาน กระตือรือร้น ในการเรียนรู้ในห้องเรียนมากขึ้น และหากมีเทคโนโลยีเครื่องมือการเรียนการสอนแบบอินเตอร์แอคทีฟอย่าง GYGAR Interactive Presenter นอกจากช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนแล้ว ยังช่วยให้ผู้เรียนและผู้สอนได้มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันที่ดียิ่งขึ้น นับเป็นการปฏิวัติการศึกษายุค 4.0 ในรูปแบบของการเรียนยุคดิจิทัล ที่สามารถต่อยอดการเรียนรู้อย่างไม่มีวันสิ้นสุด
"เราหวังอยากให้เด็กไทยมีคุณลักษณะเป็นเช่นไร อาจารย์ผู้สอน หรือแม้แต่ผู้บริหารสถาบันการศึกษา จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและการสื่อสาร เพื่อคอยชี้นำแนวทาง ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ หรือบางครั้งอาจจะต้องเป็นผู้ร่วมเรียนรู้ไปพร้อมกับผู้เรียนด้วย เพื่อให้เกิดการใช้งานจากเทคโนโลยีอย่างคุ้มค่า และเกิดประโยชน์ต่อการเรียนรู้อย่างแท้จริง" ดร.ดวงฤทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit