นายอภิชาติ จีระพันธุ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทยว่า ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและเป็นที่น่ายินดีว่าตั้งแต่ในช่วงครึ่งปีแรกมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามายังประเทศไทยแล้วถึง 19.44 ล้านคน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีผ่านมา จากเป้าหมายตลอดทั้งปีที่คาดว่าจะถึง 30 ล้านคน โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนยังเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตสูงสุดประมาณ 26%หรือ ประมาณ 5.9 ล้านคน ซึ่งรายได้จากการท่องเที่ยวถือเป็นแหล่งรายได้สำคัญของประเทศเพราะในปีที่ผ่านมา (2560) รายได้จากการท่องเที่ยวมีสัดส่วนถึง 20% ของ จีดีพี (GDP) หรือประมาณ 2.76 ล้านล้านบาท ทั้งนี้เกิดขึ้นจากนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวที่กระทรวงฯ ได้วางไว้ทั้งการท่องเที่ยวเมืองหลักและเมืองรอง
นอกจากนโยบายของภาครัฐจะเป็นสิ่งสำคัญแล้ว ต้องยอมรับว่าภาคเอกชนของไทยที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีศักยภาพสูงและเป็นอีกจุดแข็งสำคัญที่สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว นำมาซึ่งชื่อเสียงและการยอมรับจนวันนี้ประเทศไทยเป็นหมุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวทั่วโลก สิ่งที่ต้องมีการพัฒนาต่อไปคือ การเสริมสร้างศักยภาพและการพัฒนาทั้งการดำเนินธุรกิจ การบริการ การสร้างจุดขายใหม่ตลอดเวลาเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กลับมาใช้บริการ โดยงานฟู้ดแอนด์โฮเทล ไทยแลนด์ นับเป็นงานใหญ่ที่สำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งของไทยและอาเซียน ซึ่งนอกจากจะมีการจัดแสดงสินค้าพรีเมี่ยมจากทั่วโลกแล้ว ยังสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และสร้างความสัมพันธ์อันดีกับบริษัทชั้นนำของโลกได้อีกด้วย
ด้านนายจัสติน พาว ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงรายละเอียดและกิจกรรมภายในงานฟู้ดแอนด์โฮเทล ไทยแลนด์ 2018 (Food & Hotel Thailand 2018) ว่า งานฟู้ดแอนด์โฮเทล ไทยแลนด์ เป็นงานแสดงสินค้าและเทคโนโลยี ด้านอาหาร เครื่องดื่ม อุปกรณ์ เครื่องใช้ในโรงแรม ภัตตาคาร การจัดเลี้ยง และการบริการนานาชาติ เป็นเวทีระหว่างประเทศที่มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และ ระบบการจัดการใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งผู้เข้าร่วมงานจะได้สัมผัสและเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ จากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมได้รับความรู้จากผู้ร่วมสนับสนุนการจัดงาน อาทิ สมาคมโรงแรมไทย สมาคมภัตตาคารไทย สมาคมเชฟประเทศไทย ฯลฯ
การจัดงานฯ ในปีนี้มีการขยายพื้นที่การจัดงานเป็น 18,000 ตรม. เพิ่มขึ้นถึง 20% เพื่อรองรับผู้ผลิตสินค้าในกลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม และ การบริการชั้นนำทั้งในและต่างประเทศกว่า 466 ราย 2,000 แบรนด์ จาก 33 ประเทศทั่วโลกที่เข้าร่วมงาน มีการจัดแสดงสินค้าพาวิลเลี่ยนนานาชาติอีก 8 แห่ง ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น แอฟริกาใต้ และกลุ่มพาวิลเลี่ยนใหม่ๆอาทิ อิตาลี พาวิลเลี่ยน จากเบลล่าวิต้า (Bellavita) เกาหลี พาวิลเลี่ยน จากสถาบันอาหารและอุตสาหกรรมชีวภาพ ชอนบุก (Jeonbuk Institute For Food-Bioindustry - JIF) โปแลนด์ พาวิลเลี่ยน จากศูนย์สนับสนุนการเกษตรแห่งชาติ โปรแลนด์ (the National Support Centre for Agriculture - KOWR) ญี่ปุ่น พาวิลเลี่ยน จากโอซากา (Osaka) และ ไทโตะ (Taito) และ 2 ไทย พาวิลเลี่ยน จาก กลุ่มอีสานกลาง และ กลุ่มผลิตภัณฑ์สีเขียว ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์สำหรับโรงแรมและร้านอาหารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้คาดว่าในปีนี้จะมีผู้เข้าร่วมชมงานสูงถึง 30,000 คน มูลค่าจากการค้าและการเจรจาธุรกิจภายในงานสูงถึง 5,000 ล้านบาท
นอกจากนั้นภายในงานฯ ยังมีกิจกรรมการประชุม สัมมนา สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจ และ การแข่งขันพัฒนาทักษะสำหรับผู้อยู่ในธุรกิจท่องเที่ยว อาหาร และ โรงแรม โดยได้รับความร่วมมือจากหลายสมาคมด้านการท่องเที่ยว อาหาร และ การบริการ อาทิ
สำหรับงานฟู้ดแอนด์โฮเทล ไทยแลนด์ 2018 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-8 กันยายน 2561 เวลา 10.00-18.00 น. ฮอลล์ 102-104 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมการจัดงานเพิ่มเติมได้ที่ www.foodhotelthailand.com และ Facebook Pagewww.facebook.com/Food & Hotel Thailand