อีซูซุคาราวานสัญจร 2018 ปิดทริปความสุข สนุกสุด...ฉุดไม่อยู่ ทริปสุดท้ายแห่งปี พาแอ่วเหนือจากเชียงคำสู่เชียงแสน

20 Sep 2018
อีซูซุนำสมาชิกประชาคมอีซูซุ 31 คัน พร้อมด้วยสื่อมวลชนรวมทั้งสิ้นกว่า 130 ท่าน ร่วมกิจกรรมอีซูซุคาราวานสัญจรประจำปี 2018 ความสุข สนุกสุด... ฉุดไม่อยู่ เส้นทางที่ 4 ทริปสุดท้ายของปีนี้ พะเยาเชียงราย ขึ้นเหนือสุดแดนสยามริมฝั่งโขง สัมผัสวิถีชาวบ้าน ชาวเชียงคำ เชียงของ และเชียงแสนในอดีต โดยได้รับเกียรติจากว่าที่ร้อยตรีสมัย คำชมภู ปลัดจังหวัดพะเยา พร้อมด้วย มร. ฮิโรกิ คาโต้ ผู้จัดการฝ่ายขายดีลเลอร์–บี บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และคุณพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการจัดคาราวาน ร่วมตีธงปล่อยขบวนคาราวานออกจากบริษัท อีซูซุลำปาง จำกัด สาขาพะเยา อ.เมือง จ.พะเยา
อีซูซุคาราวานสัญจร 2018 ปิดทริปความสุข สนุกสุด...ฉุดไม่อยู่ ทริปสุดท้ายแห่งปี พาแอ่วเหนือจากเชียงคำสู่เชียงแสน

ขบวนคาราวานออกเดินทางท่ามกลางสายฝนอันชุ่มฉ่ำ แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคใด ๆ ต่อการขับขี่ รถทุกคันทั้งคนขับและผู้นำทางต่างมั่นใจในสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของรถอีซูซุ พร้อมใจกันออกเดินทางตามกำหนดการ มุ่งหน้าสู่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกของคาราวาน "วัดนันตาราม" (วัดจองเหนือ) เป็นวัดที่สร้างด้วยศิลปะแบบไทยใหญ่ ตั้งอยู่ที่อำเภอเชียงคำ จ.พะเยา ตัววัดสร้างจากไม้สักทั้งหลัง โดยมีการตกแต่งลวดลาย ในส่วนต่าง ๆ อย่างสวยงาม หลังคาของวัดนันตารามถือเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่ง เพราะจะมีลักษณะเป็นหลังคาหลายๆ ชั้น ซ้อนกัน โดยแต่ละชั้น จะลดหลั่นกัน และด้วยสีของกระเบื้องมุงหลังคา และสีของไม้ภายในตัวโบสถ์ ที่เป็นสีเข้ม ทำให้วัด นันตารามดูขลังและศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งขึ้น ภายในโบสถ์ องค์พระประธานจะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย แกะสลักจากไม้สักทองลงรักปิดทอง ทรงเครื่องแบบไทยใหญ่ ประดิษฐานบนฐานไม้ หรือ "ธรรมาสน์" ที่ฉลุลวดลายอย่างอ่อนช้อยสวยงาม จำลองแบบมาจากราชบัลลังก์ของพม่า โดยข้างองค์พระประธาน มีพระพุทธรูปหินขาว และพระพุทธปฏิมาประธานไม้สักทอง ที่ต่างเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยทรงเครื่องแบบไทยใหญ่อย่างสมส่วนสวยงามประดิษฐานอยู่ ภายในวัดนันตารามมีพิพิธภัณฑ์สะสมของเก่าหาชมได้ยากอยู่มากมายอีกด้วย

หลังจากท่องเที่ยวชมจุดต่าง ๆ ในวัดแล้ว คณะคาราวานก็เดินทางต่อเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน ณ โรงแรมน้ำโขงริเวอร์ไซด์ อ.เชียงของ จ.เชียงราย อิ่มอร่อยกับอาหารท่ามกลางบรรยากาศริมฝั่งโขง แบบชิลล์ๆ พร้อมเดินชมบรรยากาศรอบ ๆ ที่สวยงาม พร้อมทั้งเลือกซื้อผลิตภัณฑ์พื้นบ้านบริเวณร้านค้าใกล้ ๆ อีกด้วย

หลังจากนั้น ขบวนคาราวานตั้งขบวนใหม่เพื่อเดินทางต่อไปยังจุดหมายถัดไป คือ "วัดพระธาตุผาเงา" ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำโขงทางด้านทิศตะวันตก ตรงข้ามกับประเทศลาว อยู่ในอำเภอเชียงแสน ห่างจากสามเหลี่ยมทองคำประมาณ 15 กิโลเมตร ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเนินเขาเล็ก ๆ แต่ก่อนชาวบ้านเรียกดอยลูกนี้ว่า "ดอยคำ" แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็น "ดอยจัน" ในอดีตช่วงสมัยของอาณาจักรโยนก วัดแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองมาก สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นวัดที่สำคัญและถือเป็นวัดประจำกรุงเก่าก็เป็นได้ จะเห็นได้ว่าพระพุทธรูปหลวงพ่อผาเงาที่ขุดค้นพบแห่งนี้ถูกสร้างและฝังอยู่ใต้พระพุทธรูปองค์ใหญ่ (พระประธาน) ถูกปิดบังซ่อนเร้นเพราะเกรงว่าจะถูกโจรกรรมจากพวกนิยมสะสมของเก่า แต่เดิมที่แห่งนี้เคยเป็นถ้ำ เรียกว่า "ถ้ำผาเงา" ปากถ้ำถูกปิดไว้นาน ทำให้บริเวณแห่งนี้เป็นป่ารก เต็มไปด้วยซากโบราณวัตถุกระจัดกระจาย พระพุทธรูปหลวงพ่อผาเงาองค์นี้มีอายุระหว่าง 700-1,300 ปี

ภายในบริเวณวัดพระธาตุผาเงา มี "หอพระไตรปิฎกเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา" สร้างขึ้นเพื่อรวบรวมพระไตรปิฎกนานาชาติ 9 ประเทศ 9 ภาษา ได้แก่ อินเดีย ศรีลังกา พม่า จีน ญี่ปุ่น ลาว อังกฤษ กัมพูชา และไทย ได้รับพระราชทานชื่อเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษา สร้างลักษณะศิลปะล้านนา กลางสระน้ำ ฐานรองรับสร้างด้วยคอนกรีต มีเสา 80 ต้น อาคารหอพระไตรปิฏกฯ สร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง พื้นและราวระเบียงตกแต่งด้วยหินทราย

ปิดทริปเที่ยวจุดสุดท้ายของครั้งนี้ คือการเข้าเยี่ยมชม "พิพิธภัณฑ์หอฝิ่น ณ อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ" เป็นเสมือนประตูเปิดสู่โลกอันลึกลับของฝิ่น ผ่านเรื่องราวและมุมต่าง ๆ ภายในพิพิธภัณฑ์จากความมืดมนน่าหวาดกลัว สู่ความแจ่มจรัสและรู้แจ้ง บอกเล่าเรื่องราวของฝิ่น โดยเริ่มจากธรรมชาติวิทยาของฝิ่น การสืบประวัติการใช้ฝิ่นในยุคโบราณ กลับไป 5,000 ปี ประวัติการแพร่กระจายของฝิ่นจากการค้าในสมัยจักรวรรดินิยม เหตุการณ์พลิกประวัติศาสตร์ที่สร้างความอดสูแก่ผู้ชนะและผู้แพ้ในสงครามฝิ่นอันนำไปสู่การล่มสลายของราชวงศ์แมนจู ความชาญฉลาดของประเทศสยามในการเผชิญกับมหาอำนาจตะวันตกและการควบคุมปัญหาฝิ่น หอฝิ่นได้จัดแสดงอุปกรณ์การสูบฝิ่น การขายฝิ่น ชมภาพถ่าย ภาพยนตร์ และวิดีทัศน์เรื่องราวเกี่ยวกับฝิ่นและยาเสพติดจากหลากหลายประเทศทั่วโลก

จากนั้นคาราวานสัญจรของครอบครัวอีซูซุ เข้าพัก ณ อิมพีเรียล โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล รีสอร์ท บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ จ.เชียงราย พร้อมงานเลี้ยงรับรองภาคค่ำอย่างอบอุ่นตามแบบฉบับของอีซูซุ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและเสียงหัวเราะ พร้อมกิจกรรมก่อนเริ่มงานเลี้ยงด้วยการประดิษฐ์จานรองแก้วสีสันสวยงาม สนุกสนานกับเกมหลากหลายรับของรางวัลมากมาย ปิดท้ายความบันเทิงจากนักแสดงหนุ่ม ปั้นจั่น – ปรมะ อิ่มอโนทัย หรือท่านหมื่นเรืองจากละครบุพเพสันนิวาส ที่มาร้องเพลง พร้อมร่วมสนุกบนเวที และถ่ายภาพคู่กับสมาชิกคาราวานอย่างเป็นกันเอง ปิดทริปอีซูซุคาราวานสัญจร 2018 ดั่งสโลแกน ความสุข สนุกสุด... ฉุดไม่อยู่ จริงๆ

ว่าที่ร้อยตรี ชัยยุทธ บัวมั่น รถหมายเลข 22 มาพร้อมภรรยาและเพื่อน ๆ รวม 5 ท่าน เล่าว่า "ผมเป็นลูกค้าอีซูซุมาโดยตลอด ใช้รถอีซูซุมาแล้ว 5 คัน การมาร่วมกิจกรรมคาราวานครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ได้มาเที่ยวกับทางอีซูซุ เคยได้ยินจากเพื่อน ๆ เสมอว่ามากับอีซูซุสนุกมาก เลยอยากมาร่วมกิจกรรมบ้าง สมัครมาร่วมทริปทั้งหมด 3 คัน แต่ได้เข้าร่วมเพียง 1 คัน เพราะสมาชิกครอบครัวอีซูซุสนใจสมัครเป็นจำนวนมาก ทำให้เต็มอย่างรวดเร็ว สำหรับการมาร่วมกิจกรรมครั้งแรกก็รู้สึกประทับใจมาก ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม และการต้อนรับอย่างดียิ่งจากทีมงาน พร้อมทั้งความสนุกสนานเป็นกันเอง รวมถึงมิตรภาพดี ๆ ของเพื่อน ๆ ผู้ร่วมทริปทุกคันด้วยครับ"

อีซูซุคาราวานสัญจร 2018 ปิดทริปความสุข สนุกสุด...ฉุดไม่อยู่ ทริปสุดท้ายแห่งปี พาแอ่วเหนือจากเชียงคำสู่เชียงแสน อีซูซุคาราวานสัญจร 2018 ปิดทริปความสุข สนุกสุด...ฉุดไม่อยู่ ทริปสุดท้ายแห่งปี พาแอ่วเหนือจากเชียงคำสู่เชียงแสน อีซูซุคาราวานสัญจร 2018 ปิดทริปความสุข สนุกสุด...ฉุดไม่อยู่ ทริปสุดท้ายแห่งปี พาแอ่วเหนือจากเชียงคำสู่เชียงแสน