บลน.
ฟินโนมีนา ออกผลิตภัณฑ์ FINNOMENA Best-in-class Portfolio (BIC) เสนอขายครั้งแรก 17 ก.ย. - 1 ต.ค. นี้ โดยจัดพอร์ตลงทุนเลือกกองทุนที่ดีที่สุดด้วยระบบคำนวณกองทุน Best-in-class หรือกองทุนที่ยอดเยี่ยม เสนอขายให้กับนักลงทุนใน 4 ธีมการลงทุนได้แก่ กองทุนหุ้นไทยขนาดใหญ่ กองทุนที่ลงทุนในกองอสังหาฯ และ REITs, กองทุนหุ้นเทคโนโลยี และกองทุนหุ้น Healthcare
การคัดเลือกพอร์ต Best-in-class ของ FINNOMENA จะดูจากปัจจัยหลัก 3 ปัจจัยคือ ความสม่ำเสมอของผลตอบแทนระยะยาว, อัตราผลตอบแทนหลังปรับด้วยความเสี่ยง, Maximum Drawdown หรือการขาดทุนสูงสุดในอดีตของกองทุน โดยนำทั้ง 3 ปัจจัยมาคำนวณออกมาเป็น FINNOMENA Score และเลือก 3 กองทุนที่ได้คะแนนสูงสุดมาจัดเป็นพอร์ต Best-in-class ให้กับนักลงทุน
นายเจษฎา สุขทิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลน.ฟินโนมีนา เปิดเผยว่า จากการศึกษา เราพบว่ากองทุนที่ดีที่สุดไม่ใช่กองทุนที่ใหญ่ที่สุดเสมอไป และกองทุนที่ดีที่สุดก็ไม่ใช่กองที่ผลตอบแทนปีล่าสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยเช่นกัน โดยกองทุนที่ดีที่สุดในแต่ละประเภทมีกุญแจสำคัญคือต้องมีการขาดทุนสูงสุดในอดีตของกองทุนต่ำ และมีผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในระยะเวลาการลงทุน 3 ปี โดยผลิตภัณฑ์ Best-in-class จะนำกองทุนที่ดีที่สุด 3 กองทุนมาจัดเป็นพอร์ตให้กับนักลงทุนสำหรับ 4 ธีมการลงทุนของผลิตภัณฑ์ Best-in-class ที่นำมาเสนอขายครั้งแรก ได้แก่
- กองทุนหุ้นไทยขนาดใหญ่ - เนื่องจากเห็นโอกาสที่ประเทศไทยกำลังจะมีเลือกตั้งในช่วงต้นปี 2562 ซึ่งมีโอกาสที่ดีที่เงินลงทุนจะไหลกลับมาลงทุนในบ้านเราอีกครั้ง ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจและกำไรไตรมาส 2 ที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ที่เติบโตดี
- กองทุนที่ลงทุนในกองทุนอสังหาฯ และ REITs - เป็นอีกกองทุนยอดฮิตเนื่องจากอัตราเงินปันผลของกองทุนอสังหาฯ บ้านเราที่ 5-7% ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากอยู่มาก ทำให้กองทุนประเภทนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
- กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นเทคโนโลยี - เราเชื่อว่าเทคโนโลยี AI Social Media และการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ยังเป็น Mega Trend ของโลกอีกต่อเนื่อง โดยท่านที่ชอบลงทุนในกองทุนหุ้นเทคฯ ก็สามารถเลือกพอร์ตกองทุน Best-in-class หุ้นเทคผ่านทางคำแนะนำของฟินโนมีนาได้
- กองทุนหุ้น Healthcare - เป็นอีกธีมการลงทุน Mega Trend ในระยะยาว ที่หลายประเทศในโลกกำลังเข้าสู่ยุคสังคมสูงวัย ซึ่ง บลน.ฟินโนมีนา จะทำการเลือก 3 กองทุนยอดเยี่ยมในกองทุนในกลุ่มนี้จากที่มีให้เลือกถึงประมาณ 20 กองทุนในบ้านเรา"จากการศึกษาของ FINNOMENA เรายังพบอีกว่า กองทุนที่เป็น Best-in-class ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่ากองทุนทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญ ยกตัวอย่างเช่นกองทุน Best-in-class หุ้นไทยขนาดใหญ่ให้ผลตอบแทนสะสมย้อนหลังที่ 54% ขณะที่กองทุนที่มี FINNOMENA Score อยู่ท้ายตารางให้ผลตอบแทนสะสมย้อนหลังเพียง 7% ทั้งที่เป็นกองทุนในประเภทเดียวกันแต่ผลลัพธ์ต่างกันเป็นอย่างมาก เราจึงเชื่อว่าการลงทุนในกองทุน Best-in-class จะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์นักลงทุนบ้านเราได้เป็นอย่างดี" คุณเจษฎา กล่าว
สำหรับผลิตภัณฑ์พอร์ต Best-in-class ของ FINNOMENA เป็นการลงทุนใน 3 กองทุนยอดเยี่ยมในแต่ละธีมการลงทุนที่นักลงทุนเลือก และจะมีการแนะนำปรับพอร์ต rebalance เข้าสู่กองทุน Best-in-class อย่างน้อยปีละครั้งด้วยระบบแจ้งเตือนของฟินโนมีนา โดยพอร์ตการลงทุน Best-in-class ทั้ง 4 ธีมกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำที่ 1 ล้านบาทเนื่องจากเป็นการลงทุนที่มีการกระจุกตัวในแต่ละ Sector จึงควรเป็นนักลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจและรับความเสี่ยงของแต่ชนิดสินทรัพย์ที่ลงทุนได้ โดย บลน.ฟินโนมีนา เสนอขายครั้งแรกในวันที่ 17 ก.ย.-1 ต.ค. 61 มูลค่าโครงการ 1 พันล้านบาท
สนใจศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/bic หรือ Investment Advisor Center โทร 02-026-5100