ผู้เข้าแข่งขันบาร์เทนเดอร์มืออาชีพทั้ง 8 คนสุดท้าย ในรายการ ลา เมซอง คอนโทร ไทยแลนด์ 2018 ล้วนเป็นผู้ที่ถูกคัดสรรมาแล้วอย่างดีจากทั่วประเทศไทย และมีดีกรีเป็นบาร์เทนเดอร์ชื่อดังจากร้านหรู อาทิ ร้าน #FindTheLockerRoom, ร้าน #FindThePhotoBooth, ร้าน Vesper Bar, ร้าน Black Amber, ร้าน Rabbit Hole, และ ร้านPenthouse Bar & Grill ในโรงแรมพาร์ค ไฮแอท โดยในการแข่งขันครั้งนี้ผู้เข้าแข่งขันจะต้องคิดค้นและสร้างสรรค์ค็อกเทลที่มีรสชาติโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และใช้ส่วนผสมหลักเป็นสปิริตของ เรมี่ คอนโทร ผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล มูลค่า 20,000 บาท รองชนะเลิศได้เงินรางวัล มูลค่า 10,000 บาท และรองชนะเลิศอันดับ 2 จะได้รับเงินรางวัล มูลค่า 5,000 บาท โดยบาร์เทนเดอร์ที่เข้าร่วมการแข่งขันทุกคนจะได้รับใบประกาศนียบัตร และของขวัญจาก เรมี่ คอนโทร
ผู้เข้าแข่งขันจะต้องแข่งขัน 2 รอบและสร้างสรรค์ค็อกเทลหนึ่งสูตรในแต่ละรอบ โดยการแข่งขันรอบ เดอะ โบทานิส จิน (The Botanist gin) ใช้โจทย์ว่า "การสำรวจฟาร์มในเมืองและรสชาติประจำท้องถิ่น (Exploration into urban farming and local flavors)" ซึ่งมีแรงบันดาลใจมาจากเครื่องดื่มที่เกิดจากการกลั่นพืชพรรณที่เก็บจากป่าและการแสวงหารสชาติใหม่ๆ ส่วนการแข่งขันที่ใช้คอนยัค เรมี่ มาร์ติน วีเอสโอพี หรือ เอ็กซ์โอ (Remy Martin VSOP or XO Cognac) ให้ความสำคัญกับแนวคิดที่ว่า "รสชาติของเครื่องดื่มชั้นเลิศมีผลมาจากการนำเสนอที่เยี่ยมยอดเสมอ (The flavor of a great drink is always impacted by its presentation)" โดย Remy "Opulence Reveal" ให้ใช้เวลาที่มีในการสำรวจตลาดของท้องถิ่นเพื่อรวบรวมวัตถุดิบและนำมาจัดตกแต่งรวมกัน และ "เปิดเผย" ถึงรูปแบบการตกแต่งค็อกเทล ในรูปแบบของตนเอง
นายกิตติพัฒน์ ไชยกูล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ เรมี่ คอนโทร กรุ๊ป เปิดเผยว่า เพราะเหตุใดกรุงเทพฯ จึงได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งค็อกเทลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ "ธุรกิจบาร์เครื่องดื่มในกรุงเทพฯ ปี 2018 มีความสดใส น่าตื่นใจและเปี่ยมเสน่ห์ ลูกค้าต่างชื่นชอบค็อกเทลสูตรซิกเนเจอร์ที่สร้างสรรค์โดยบาร์เทนเดอร์ฝีมือเยี่ยมที่สามารถจับคู่วัตถุดิบที่มีรสชาติเฉพาะเข้ากับเครื่องดื่มสปิริตจากแบรนด์ชั้นนำ อาทิ เรมี่ คอนโทร ได้อย่างลงตัว เพราะค็อกเทลคือการ
เดินทางแห่งรสสัมผัส และงานแข่งขันประจำปี ลา เมซอง คอนโทร ไทยแลนด์ ก็จัดขึ้นเพื่อค้นหาบาร์เทนเดอร์ผู้สามารถใช้ทักษะในการเชื่อมโยงเรื่องราวแห่งรสชาติอันน่ามหัศจรรย์เหล่านี้ได้อย่างยอดเยี่ยม"การตัดสินรอบ เดอะ โบทานิส จิน จะใช้เกณฑ์ "ความอุดมของป่า (Wild)" โดยประเมินผลจากความคิดสร้างสรรค์และพิจารณาว่ามีการใช้วัตถุดิบที่เกินกว่าธรรมเนียมการผสมเครื่องดื่มเดิม ๆ หรือไม่ ค็อกเทลสามารถชูรสชาติของสปิริตได้ หรือไม่ รวมถึงบาร์เทนเดอร์สามารถตีความแนวคิดนี้ได้อย่างถ่องแท้เพียงใด ส่วนรอบการแข่งขันที่ใช้ เรมี่ มาร์ติน จะตัดสินจากการพิจารณากลิ่น รสชาติ การนำเสนอ และความ "ว้าว" ของผลงานการตกแต่ง ซึ่งการแข่งขันทั้ง 2 รอบนี้จะถูกตัดสินโดยคณะกรรมการชื่อดังทั้ง 5 ท่าน ได้แก่ คุณสก๊อต ฟิตซ์เจอรัลด์ ผู้จัดการด้านให้ความรู้ระดับภูมิภาคและสร้างความสัมพันธ์แห่งเรมี่ คอนโทร เอเชียตะวันออกเฉียงใต้, คุณมาร์ค ฮวง แบรนด์แอมบาสเดอร์เรมี่ คอนโทร ประเทศจีน, อาจารย์ธวัชชัย เทพพิทักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์และสปิริต, คุณณิกษ์ อนุมานราชธน เจ้าของร้าน ASIA TODAY & TEENS OF THAILAND (1ใน50บาร์ที่ดีที่สุดในเอเชีย) และคุณกีต้าร์-ปฏิญญา เกี่ยวข้อง สาวสวยผู้คร่ำหวอดในวงการแฟชั่นดีไซเนอร์ เจ้าของห้องเสื้อชื่อดัง แบรนด์ ปฏิญญา
บรรยากาศในการแข่งขัน ลา เมซอง คอนโทร ไทยแลนด์ 2018 เต็มไปด้วยความสนุกสนาน และความน่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมด้วยเสียงเชียร์จากผู้ชมอย่างล้นหลาม ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 8 ท่าน ได้ใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง ในการสรรสร้างเครื่องดื่มผสมสุดพิเศษ เพื่อพิชิตใจกรรมการทั้ง 5 ท่าน โดยผู้ชนะเลิศในการแข่งขันประจำปีครั้งยิ่งใหญ่นี้ ได้แก่ คุณฝาเบียร์ – สุชาดา โสภาจารี สุดยอดบาร์เทนเดอร์สาวฝีมือฉกาจแห่งร้าน #FindTheLockerRoom และได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปร่วมการแข่งขันรอบสุดท้ายในระดับภูมิภาคเอเชีย ที่มาเลเซีย
โดย คุณฝาเบียร์ – สุชาดา โสภาจารี เผยว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นแชมป์ ลา เมซอง คอนโทร ไทยแลนด์ 2018 พร้อมขอบคุณคณะกรรมการทุกท่านที่ชื่นชอบผลงานในครั้งนี้ ตนรู้สึกภูมิใจ และกดดันที่ได้เป็นตัวแทนของประเทศไทย แต่ความกดดันนี้ เป็นความกดดันที่ดีที่จะช่วยสร้างแรงผลักดันให้ตนเองพัฒนาผลงานต่อไป ตนพร้อมและจะพยายามอย่างเต็มที่ในการแข่งขันระดับภูมิภาคที่มาเลเซียเพื่อหวังสร้างชื่อให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
สำหรับผลงานที่ทำให้คว้าแชมป์มาได้สำเร็จนี้ คุณฝาเบียร์ได้ เปิดเผยว่า "ผลงานชื่อ Till 22nd Century มีส่วนผสมหลักของ เดอะ โบทานิส ได้รับแรงบันดาลใจมาจากคุณยายที่ขายของป่า เราเหมาของที่คุณยายนำมาขายและนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการแข่ง นอกจากจะได้ของที่มาจากป่าตามโจทย์ที่คณะกรรมการตั้งแล้ว ยังได้ช่วยคุณยายไปในตัวด้วยค่ะ ส่วนอีกผลงาน คือ The Forecaster มีส่วนผสมหลักของ เรมี่ มาร์ติน ซึ่งโจทย์รอบนี้เป็นเรื่องของประสาทสัมผัส จึงตีความหมายของโจทย์ออกมาเป็นสิ่งที่รู้สึกแต่สัมผัสไม่ได้ นั้นก็คือ สัมผัสที่หก (Six Sense) จึงใช้ไพ่ทาโร่มาเป็นเกณฑ์หลักในการเลือกส่วนผสมของค็อกเทล อาทิ ไพ่ the sun ก็จะใช้ sun flower seed หรือ เมล็ดทานตะวัน, ไพ่ the lover เวลาคนเรามีความรัก เราก็จะเรียกที่รักว่า honey จึงเลือกใช้น้ำผึ้ง และไพ่ the star เลือกใช้มะเฟือง เพราะมีแฉกเหมือนดาวและมีชื่อภาษาอังกฤษ ว่า star fruit ทุกอย่างของ The Forecaster นี้มีที่มาและผ่านการศึกษามาแล้วอย่างดี เพราะอย่างน้อยการที่ตีโจทย์ออกมาให้เป็นสิ่งที่เกี่ยวกับความเชื่อ ก็อยากจะสร้างให้ความเชื่อที่ดีให้แก่ทุกคน และอยากให้ความหมายที่ดีคงอยู่ในไพ่จริงๆ
ความคาดหวังในการแข่งขันระดับเอเชีย คือ ไม่ว่าโจทย์การแข่งขันจะเป็นอย่างไร หรือต้องใช้คอนยัคประเภทไหน ก็อยากจะถ่ายทอดให้ทุกคนเห็นถึงประโยชน์คอนยัคให้ได้มากที่สุด เพราะจริงๆ แล้วนั้นคอนยัคสามารถทานคู่กับอาหารได้ทุกแบบ ไม่มีข้อจำกัด รวมถึงการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย เพื่อให้คนต่างชาติรู้จักประเทศของเรามากขึ้น และอย่างน้อยหากตนไม่ชนะการแข่งขันก็อยากจะเป็นคนแพ้ที่สมศักดิ์ศรีที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้
หลังจากการแข่งขัน ลา เมซอง คอนโทร ไทยแลนด์ 2018 สื่อมวลชน แขกผู้มีเกียรติ และผู้เข้าแข่งขันทุกคน ร่วมเฉลิมฉลองกันอย่างสนุกสนาน พร้อมทั้งถ่ายภาพที่ระลึกร่วมกัน ตลอดจนการจับสลากชิงรางวัล นอกจากนี้ ผู้ที่เข้าร่วมชมการแข่งขันจะได้ลิ้มรสค็อกเทลสูตรพิเศษร่วมกัน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit