"มาร์ส" เดินหน้าพลิกโฉมธุรกิจต่อเนื่อง หลังประกาศกลยุทธ์ "Sustainable in a Generation Plan" ครบหนึ่งปีเต็ม

19 Sep 2018
- คุณแกรนท์ เอฟ รี้ด ซีอีโอ กล่าวว่า มาร์สมุ่งมั่นที่จะ "พลิกแนวทางการดำเนินธุรกิจ" ในหลายๆส่วน ซึ่งรวมถึงส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อนและความยากจน
  • มาร์สมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาห่วงโซ่อุปทานโลกผ่านการลงทุน การเปลี่ยนแปลงองค์กร การให้ความสำคัญกับวัตถุดิบหลัก และการสร้างความร่วมมือในอุตสาหกรรม
  • ผู้บริหารของมาร์สจะเรียกร้องให้มีการสร้างความร่วมมือในเวทีต่างๆ ซึ่งรวมถึงการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ และการจัดนิทรรศการอินเทอร์แอคทีฟในงาน Climate Week NYC

มาร์ส (Mars) เดินหน้าพลิกโฉมธุรกิจอย่างต่อเนื่อง หลังประกาศกลยุทธ์ "Sustainable in a Generation Plan" ครบหนึ่งปีเต็ม

เมื่อปีที่แล้ว คุณแกรนท์ เอฟ รี้ด ซีอีโอของมาร์ส ได้ออกมากล่าวเตือนว่า "ห่วงโซ่อุปทานโลกกำลังมีปัญหา" และภาคธุรกิจต้อง "เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่" เพื่อบรรลุเป้าหมายการลดภาวะโลกร้อนตามความตกลงปารีสและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ

มาร์สให้ความสำคัญกับปัญหาที่เกิดขึ้น และหาหนทางที่บริษัทต่างๆ จะสามารถร่วมมือกับรัฐบาล องค์กรเอ็นจีโอ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในการกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยมาร์สได้เริ่มจากการเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อุปทานของบริษัทเอง ดังนี้

  • ลงทุนในกลยุทธ์ Sustainable in a Generation: มาร์สได้ทุ่มเงินลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ตลอด 2-3 ปีข้างหน้า เพื่อเร่งให้เกิดความก้าวหน้าในการแก้ปัญหาเร่งด่วนต่างๆ
  • ใช้กลยุทธ์ใหม่ในการสรรหาวัตถุดิบ: บริษัทจะปรับเปลี่ยนวิธีการสรรหาวัตถุดิบทางการเกษตรหลักๆ เพื่อแก้ปัญหาด้านความยั่งยืน เช่น การปล่อยก๊าซเรือนกระจก การขาดแคลนน้ำ การใช้ที่ดิน สิทธิมนุษยชน และรายได้ โดยในช่วงเริ่มต้นจะพุ่งเป้าไปที่ 10 วัตถุดิบหลักที่มีผลกระทบมากที่สุด อาทิ โกโก้ ปลา ข้าว และมินต์
  • ยกความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ: มาร์สได้บูรณาการขั้นตอนการจัดซื้อกับหลักความยั่งยืนเข้าด้วยกัน เพื่อนำความยั่งยืนมาสู่แกนหลักของธุรกิจ และสร้างความสมดุลในการตัดสินใจ
  • กระชับความร่วมมือ: เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง มาร์สได้ให้ความสำคัญกับการกระชับความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมและองค์กรเอ็นจีโอ รวมถึงสร้างความร่วมมือใหม่ๆ

ก่อนที่การประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติและงาน Climate Week NYC จะเปิดฉากขึ้นที่นิวยอร์ก และการประชุม Global Client Action Summit (GCAS) จะเปิดฉากขึ้นที่ซานฟรานซิสโก คุณแกรนท์ เอฟ รี้ด ได้แสดงความคิดเห็นว่า "ผมทุ่มลงทุนในกลยุทธ์ของบริษัทเพื่อพลิกโฉมการทำธุรกิจ ปัจจุบัน ชุมชนทั่วโลกยังคงเผชิญกับปัญหามากมาย ซึ่งรวมถึงภาวะโลกร้อน ความยากจน โรคอ้วน และการขาดแคลนน้ำ การพัฒนาโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่เพียงพอ ทุกฝ่ายจึงต้องร่วมมือกัน มาร์สมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับรัฐบาล องค์กรเอ็นจีโอ และกลุ่มผู้นำอุตสาหกรรม เช่น Consumer Goods Forum เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรม และสร้างโลกที่ทุกคนสามารถเจริญรุ่งเรืองไปด้วยกัน"

"ความร่วมมือถือเป็นสิ่งสำคัญหากเราต้องการให้ปัญหาได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วขึ้น"

คุณแบร์รี พาร์กิน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดซื้อและความยั่งยืน กล่าวว่า "การเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อุปทานมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับวัตถุดิบเกือบทั้งหมดที่เราเรียกว่าสินค้าโภคภัณฑ์ ผมมองว่าเรากำลังเข้าสู่ยุคสิ้นสุดสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งวัตถุดิบต่างๆมาจากแหล่งที่เราไม่รู้ที่มาที่ไป และเราตัดสินใจซื้อด้วยเหตุผลด้านราคาเท่านั้น"

"ในอนาคต วัตถุดิบจะต้องมาจากแหล่งผลิตและฟาร์มที่ทราบที่มาที่ไป การจัดซื้อจะต้องพิจารณาทั้งราคาและผลกระทบด้านความยั่งยืนควบคู่กัน และวัตถุดิบจะมาจากซัพพลายเออร์เพียงไม่กี่รายที่มีการทำข้อตกลงระยะยาวร่วมกัน ซึ่งมาร์สได้เริ่มสร้างความเปลี่ยนแปลงนี้แล้ว"

"ในช่วงปีแรก เราเร่งเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เราเริ่มไปแล้วบางส่วน ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อุปทานวัตถุดิบ การเดินหน้าสร้างความร่วมมือ และการทดลองแนวทางใหม่ๆ ส่วนในปีต่อๆไป การดำเนินงานจะมีความเข้มข้นขึ้นและส่งผลในวงกว้างมากขึ้น"

ความมุ่งมั่นของมาร์สจะแสดงให้เห็นเป็นรูปธรรมในกิจกรรมต่างๆที่จัดขึ้นในเดือนกันยายน โดยกิจกรรมความร่วมมือเหล่านี้จะสะท้อนถึงความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนของมาร์ส ประกอบด้วย

  • การปรากฏตัวบนเวทีสำคัญในเดือนกันยายน: ในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติและงาน Climate Week NYC ที่นิวยอร์ก ผู้บริหารของมาร์สจะมีส่วนร่วมในการอภิปรายแบบคณะ พร้อมกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับการแก้ปัญหาเร่งด่วนที่โลกและมนุษย์กำลังเผชิญ ดังนี้
  • คุณสตีเฟน แบดเจอร์ ประธานบริษัทมาร์ส จะกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดงาน Climate Week NYC ขณะที่คุณแฟรงก์ มาร์ส กรรมการบริหารและรองประธานฝ่ายโซลูชั่นความยั่งยืน จะกล่าวสุนทรพจน์ในงาน UN Global Compact
  • สำหรับท่านอื่นๆที่จะกล่าวสุนทรพจน์และร่วมอธิปรายแบบคณะประกอบด้วย คุณแอนดี้ พาโรห์ รองประธานฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ โครงการเชิงกลยุทธ์ และความยั่งยืน, คุณแบร์รี พาร์กิน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดซื้อและความยั่งยืน, คุณมาริกา แมคคอเลย์ ไซน์ รองประธานฝ่ายสิทธิมนุษยชนสากล, คุณเควิน ราบิโนวิทช์ รองประธานสากลฝ่ายความยั่งยืน ร่วมด้วยผู้ทรงคุณวุฒิอีกหลายท่าน
  • การเปิดสถานีวิทยุ "Climate Calling" ร่วมกับ Project Everyone: มาร์สได้จับมือกับ Project Everyone องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ช่วยผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ เปิดสถานีวิทยุแบบ "ป๊อปอัพ" เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้นำทางธุรกิจและเหล่านักคิดได้แบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับความก้าวหน้าด้านสิ่งแวดล้อม โดยจะมีการกระจายเสียงไปทั่วโลกและผ่านทางโซเชียลมีเดียตลอดเดือนกันยายนนี้
  • สัมผัสความก้าวหน้าของมาร์สในงาน Climate Week NYC: มาร์สจะจัดนิทรรศการอินเทอร์แอคทีฟในงาน Climate Week NYC เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสรรหาวัตถุดิบตามหลักความยั่งยืนเพื่อนำมาผลิตสินค้าหลากหลาย โดยผู้เข้าร่วมงานจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความก้าวหน้าของบริษัทในด้านพลังงานหมุนเวียน การสร้างเมืองที่ดีขึ้นเพื่อสัตว์เลี้ยง และการใช้กลยุทธ์ Sustainable in a Generation Plan อย่างเป็นรูปธรรมในสหรัฐ
  • หนังสั้นเกี่ยวกับเกษตรกรรายย่อย: มาร์สจะฉายหนังสั้นหลายเรื่องที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการพลิกโฉมการสรรหาสินค้าโภคภัณฑ์แบบดั้งเดิม และความทุ่มเทที่มีต่อเกษตรกรรายย่อยในห่วงโซ่คุณค่า โดยจะเน้นนำเสนอเรื่องราวของเกษตรกรที่ปลูกวัตถุดิบหลักอย่างข้าว มินต์ และวานิลลา

เกี่ยวกับ มาร์ส อินคอร์ปอเรทเต็ด

มาร์ส เป็นธุรกิจครอบครัวที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่าหนึ่งศตวรรษ โดยเป็นผู้ผลิตสินค้าและนำเสนอบริการอันหลากหลายทั้งสำหรับคนและสัตว์เลี้ยงแสนรัก มาร์สเป็นธุรกิจระดับโลกมียอดขายกว่า 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และเป็นเจ้าของแบรนด์อันเป็นที่โปรดปรานของผู้คนทั่วโลก ได้แก่ M&M's(R), SNICKERS(R), TWIX(R), MILKY WAY(R), DOVE(R), PEDIGREE(R), ROYAL CANIN(R), WHISKAS(R), EXTRA(R), ORBIT(R), 5(TM), SKITTLES(R), UNCLE BEN'S(R), MARS DRINKS และ COCOAVIA(R) ทั้งยังมีบริการเกี่ยวกับสุขภาพสัตว์ ซึ่งรวมถึงโรงพยาบาลสัตว์ BANFIELD, Blue Pearl(R), VCA(R) และ Pet Partners(TM) บริษัทมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ย่านแม็คลีนในรัฐเวอร์จิเนีย และดำเนินธุรกิจในกว่า 80 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ หลัก 5 ประการของบริษัท ได้แก่ คุณภาพ ความรับผิดชอบ ความสัมพันธ์ ประสิทธิภาพ และอิสระ เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ร่วมงานกว่า 100,000 คนของมาร์ส สร้างสรรค์คุณค่าให้แก่พันธมิตรและผลักดันให้บริษัทเติบโตอย่างภาคภูมิ

รับชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาร์สได้ที่ www.mars.com หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ลิงค์อิน อินสตาแกรม และยูทูบ

วิดีโอ - https://mma.prnewswire.com/media/745991/Mars.mp4

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/745988/Mars_Cocoa_Harvest_Cote_d_Ivoire.jpg

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/745989/Mars_Vanilla_Preparation_Centre_Madagascar.jpg