นายชลณัฐ ญาณารณพ รองผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการฯ กล่าวว่า "จากความร่วมมือในการดำเนินโครงการผู้นำเพื่อการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน (CONNEXT ED) กว่า 2 ปีที่ผ่านมา ได้มีพนักงานเอสซีจี หรือ School Partner รุ่นที่ 1 จำนวน 69 คน ดูแลสถานศึกษา 40 แห่ง ร่วมกับผู้บริหารของโรงเรียน โดยทำหน้าที่เป็นคู่คิด คู่พัฒนา ในการสร้างกระบวนการคิดและกระบวนการเรียนรู้ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านการเรียนและการสอน โดยมุ่งเสริมทักษะด้าน Facilitator ให้แก่ครู เพื่อตั้งคำถามชวนให้เด็กคิดเป็น รวมถึงสร้างสรรค์การเรียนรู้ในรูปแบบการลงมือทำผ่านการทำโครงการ หรือ Project-Based Learning ส่งผลให้เด็กมีหลักคิด กล้าพูด กล้าแสดงออก และมีคุณธรรมในทำงานร่วมกัน สำหรับก้าวต่อไป เอสซีจีมีความมุ่งมั่น และพร้อมสนับสนุนSchool Partner รุ่นที่ 2 อีกจำนวน 28 คน เพื่อเข้าไปช่วยพัฒนาระบบการศึกษาของโรงเรียนอีก 20 แห่ง
ที่ผ่านมา School Partner และผู้บริหารโรงเรียนรุ่นที่ 1 สามารถร่วมมือกันยกระดับโรงเรียนจากสถานศึกษาทั่วไป เป็น "สถานศึกษาพอเพียง" ได้ 10 แห่ง และผ่านเกณฑ์ประเมินเป็น "สถานศึกษาพอเพียงที่มีผลการปฏิบัติที่เป็นเลิศ ปี 2560" 4 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนมัธยมวัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี โรงเรียนบ้านไผ่ศึกษา จ.ขอนแก่น โรงเรียนวัดบางโปรง จ.สมุทรปราการ และโรงเรียนวัดโพธิ์รัตนาราม จ.ราชบุรี นอกจากนี้ ยังมีโรงเรียนอีก 6 แห่ง ที่พร้อมจะยกระดับสู่การเป็นศูนย์การเรียนรู้ในอนาคต
ทั้งนี้ นับได้ว่าเป็นความสำเร็จก้าวสำคัญที่ School Partner ของเอสซีจี ผู้นำสถานศึกษา คุณครู นักเรียน ตลอดจนชุมชน ได้ร่วมมือกันจนสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาของประเทศด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความมุ่งมั่นและทุ่มเทของทุกภาคส่วนจะช่วยผลักดันระบบการศึกษาของไทยให้ก้าวหน้าและทัดเทียมกับวงการการศึกษาระดับสากลได้อย่างยั่งยืนต่อไป"
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit