หลังจากที่บริษัทมีการเซ็นบันทึกตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ภายใต้กระทรวงวิทย์ ในเรื่องการพัฒนายานพาหนะสมัยใหม่ไปแล้วนั้น ทางสกุลฎ์ซีเตรียมขยับตัวในการเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ชิ้นต่อไป คือ รถโดยสารไฟฟ้าตัวถัง Aluminumซึ่งเตรียมร่วมกับบริษัทชั้นนำในเมืองไทยที่มีศักยภาพในด้านต่างๆ เพื่อร่วมพัฒนาด้านอื่นๆ นอกเหนือจากวัสดุสมัยใหม่จาก CNC เป็น Digital technology สามารถเกิดการผลิตแบบอุตสาหกรรมและขายในตลาดสากลได้ด้วย
นอกจากนี้รัฐมนตรี ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ ยังสนใจโครงการอื่นๆ ที่ในโครงการอนาคตที่ส่งผลให้เกิดการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามที่ทางรัฐบาลส่งเสริมอีกด้วย เช่น วิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ซึ่งทางกลุ่มบริษัทมีการเริ่มพัฒนาร่วมกับ สทป. (สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ)ไปบ้างแล้ว เช่น หุ่นยนต์กู้ระเบิดน้ำหนักเบา สามารถบังคับระยะไกลพร้อมกล้องรอบตัว,ปืนขึ้นที่สูงในพื้นที่ต่างๆ,ตัวถังกันน้ำและสามารถยกวัตถุได้ 4Kg,จรวดดัดแปลงสภาพอากาศ เพื่อใช้ในการทำฝนเทียม ตัวจรวดใช้เทคโนโลยีขึ้นรูปที่มีความเที่ยงตรงสูง,ระบบควบคุมการLockเป้าระยะไกล ซึ่งผสมผสานการควบคุมแบบ 5 แกน ร่วมกับระบบกล้อง,SensorและStabilizerเป็นต้นและยังมีแผนที่จะพัฒนาระบบการบริหารโครงการเพื่อการผลิตแบบอุตสาหกรรม ตามมาตรฐานสากลโดยเริ่มจากการออกแบบ,การกระจายแบบทางวิศวกรรมเพื่อSourcing ให้บริษัทในประเทศแยกกันทำชิ้นส่วน,การตรวจสอบควบคุมคุณภาพใน Supply Chain,การประกอบและการควบคุมคุณภาพประกอบจนสามารถผลิตเป็นรูปแบบอุตสาหกรรมได้
นอกจากนั้น ได้นำแสดงอุตสาหกรรมพื้นฐานเดิมที่เป็นหลักในการพัฒนางานนวัตกรรมที่ทันสมัย เช่น การผลิตแม่พิมพ์ขึ้นรูปชั้นสูงขนาดใหญ่,การใช้เทคโนโลยีCAD/CAM/CAEแบบครบวงจร ที่ใช้ในการผลิตสำหรับการส่งออก, แม่พิมพ์ขนาดใหญ่ที่ใช้ขึ้นรูป Aluminum ต่างๆ,การผลิตและประกอบเรือ Aluminum รุ่นที่ปัจจุบันออกสู่ตลาดแล้ว,ต้นแบบโครงสร้างน้ำหนักเบาสำหรับรถโดยสารรุ่นใหม่
นายวีรพลน์ เตชะผาสุขสันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จำกัด กล่าวถึงแรงสนับสนุนที่อยากให้รัฐบาลและกระทรวงวิทย์ช่วยผลักดันและส่งเสริมให้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น คือ
1.ช่วยประชาสัมพันธ์ หรือประสานงานไปหน่วยงานต่างๆภาครัฐ ได้ทราบเกี่ยวกับกิจกรรมสิ่งที่เราทำ เพื่อช่วยกันส่งเสริมและผลักดันหรือดูแลข้อกำหนดที่จะปรับแก้ต่างๆ ไม่ให้เสียเปรียบจากคู่แข่งขันที่มาจากต่างประเทศและได้สิทธิต่างๆ จากการส่งเสริมการลงทุน
2.นอกจากบัญชีนวัตกรรมที่ส่งเสริมให้ภาครัฐซื้อแล้ว เสนอแนวทางให้สนับสนุนให้ภาคเอกชนซื้อโดยได้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เช่น การนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อผลิตภัณฑ์นวัตกรรมมาหักภาษีได้ 300%, หรือมาตรการช่วยเหลือด้านการเงินถึงผู้ขอซื้อจากธนาคารรัฐ เช่น SME สามารถปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ย 1% ระยะยาวกว่า 7 ปี
เป็นต้น