ความยืดหยุ่นในการทำงาน อีกหนึ่งสวัสดิการที่พ่อแม่วัยทำงานต้องการมากที่สุด

27 Sep 2018
Regus (รีจัส) ผู้นำด้านการให้บริการพื้นที่สำนักงานระดับโลกเผยผลสำรวจล่าสุดพบว่าพนักงานที่เป็นคุณพ่อคุณแม่จำนวนร้อยละกว่า 85 ต้องการให้นายจ้างให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นในการทำงาน เพื่อให้พวกเขาสามารถมีเวลาให้กับครอบครัวได้มากขึ้น ในขณะที่ร้อยละ 81 เชื่อว่าการสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตให้แก่พนักงาน ถือเป็นสวัสดิการที่ดีที่สุดพื้นที่การทำงานที่ยืดหยุ่นหรือที่เรียกกันว่า "โคเวิร์กกิ้ง" มอบพื้นที่ให้บุคคลต่างๆ หรือพนักงานได้ทำงานให้สำเร็จได้โดยไม่จำเป็นต้องมีออฟฟิศ หรือต้องทำงานอยู่ที่บ้านเท่านั้นซึ่งอาจมีสิ่งอื่นๆ เข้ามารบกวนสมาธิได้ ทั้งนี้พื้นที่ทำงานที่ให้ความยืดหยุ่นในปัจจุบันมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้เหล่าคนทำงานสามารถทำงานได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดๆ ก็ตาม
ความยืดหยุ่นในการทำงาน อีกหนึ่งสวัสดิการที่พ่อแม่วัยทำงานต้องการมากที่สุด

การมอบพื้นที่การทำงานที่ยืดหยุ่นให้แก่พนักงานนับเป็นสวัสดิการที่สำคัญ ที่จะช่วยลดระยะเวลาการเดินทางจากบ้านได้ ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจของรีจัสเกี่ยวกับพ่อแม่ในวัยทำงาน โดยพบว่าร้อยละ 71 ของพนักงานต้องการใช้เวลาอยู่กับครอบครัวเป็นอันดับแรกแทนที่จะเสียเวลาไปกับการเดินทาง ตามมาด้วยร้อยละ 38 ที่ต้องการให้เวลากับตัวเอง (me-time) เช่น การอาบน้ำแบบไม่ต้องเร่งรีบ หรือ ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ เป็นต้น

สิ่งที่นายจ้างควรให้ความสนใจ คือ พ่อแม่วัยทำงานนั้นยินดีอุทิศตนให้กับองค์กรที่สามารถมอบการทำงานที่ยืดหยุ่นได้นายจ้างควรให้ความสนใจในเรื่องนี้เป็นพิเศษ เนื่องจากการทำงานที่มีความยืดหยุ่นนั้นเป็นสิ่งที่พ่อแม่ในวัยทำงานให้ความสำคัญสูงสุดถึงร้อยละ 96 โดยให้เหตุผลว่า พวกเขาอยากทำงานกับนางจ้างที่มอบสวัสดิการด้วยรูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่น อีกทั้งร้อยละ 74 ให้เหตุผลว่า พวกเขายินดีที่จะทำงานหลากหลายรูปแบบ หากสามารถทำงานได้จากที่ใดก็ได้สุดยอดประโยชน์จากรูปแบบการทำงานที่มีความยืดหยุ่น

การเปลี่ยนไปทำงานในรูปแบบที่ยืดหยุ่นแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดถึงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของพ่อแม่ในวัยทำงาน รีจัสมีเคล็ดคลับดีๆ สำหรับพ่อแม่ในวัยทำงานที่กำลังมองหาลู่ทางในการเปลี่ยนแปลงดังนี้

การเจรจาต่อรองกับนายจ้างของคุณ : การโน้มน้าวให้นายจ้างมอบรูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่นไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก แม้จะยังไม่มีการทำงานแบบนี้ในที่ทำงานของคุณก็ตาม แต่คุณอาจลองเปลี่ยนสวัสดิการบางอย่างที่คุณไม่ได้ใช้ เพื่อแลกกับความยืดหยุ่นในการทำงานที่มากขึ้นหรือลองกำหนดตารางงานใหม่ดู ดังตัวอย่างผลการสำรวจล่าสุดพบว่าร้อยละ 85 ของพ่อแม่ในวัยทำงานยินดีทำงานในช่วงเวลาพักเที่ยง ตามมาร้อยละ 85 ที่ยอมสละสิทธิผลประโยชน์อื่นๆ เช่น การเป็นสมาชิกศูนย์ออกกำลังกายของบริษัท เพื่อแลกกับความยืดหยุ่นในการทำงานที่มากขึ้น

มองหาทำเลอย่างสร้างสรรค์: การไปทำงานไม่ได้จำกัดเพียงแค่การเดินทางจากหน้าประตูบ้านจนถึงสำนักงานอีกต่อไป เพราะพื้นที่สำหรับนั่งทำงานแบบยืดหยุ่นและโคเวิร์กกิ้งนั้นมีแนวโน้มเติบโตและขยายสาขามากขึ้นเรื่อยๆ และหากคุณได้ทำงานใกล้กับโรงเรียนของลูกหรือสถาบันรับเลี้ยงเด็ก หรือได้ใกล้กับออฟฟิศของลูกค้ามากขึ้น การทำงานในรูปแบบที่ยืดหยุ่นก็สามารถช่วยให้ทุกอย่างนั้นเป็นไปได้

ลืมวิถีการทำงานที่ต้องนั่งทนอยู่ทั้งๆ ที่ร่างกายและจิตใจไม่พร้อมทำงานไปได้เลย : สถานที่ทำงานที่มอบความยืดหยุ่นเอื้อต่อการทำงานในยุคปัจจุบันอย่างเห็นได้ชัด ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยยิ่งช่วยให้พนักงานมีความยืดหยุ่นในการทำงานมากขึ้นเช่นกัน สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีเวลาทำงานแบบ 9 โมงถึง 5 โมงเย็น ก็อาจจะไม่สามารถจัดตารางเวลาให้ตรงกันกับลูกๆได้ แต่หากสามารถทำงานที่มีความยืดหยุ่น คุณก็จะสามารถปรับเปลี่ยนเวลาเริ่มงานและเลิกงานได้เร็วขึ้นหรือช้าลงได้ตามที่ต้องการ หรือแม้แต่การมองข้ามเรื่องตารางเวลา แล้วหันมาใส่ใจกับการสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมแทน

ปรับเปลี่ยนการทำงานให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น : คุณไม่สามารถจัดสรรเวลาให้มีความยืดหยุ่นได้ใช่ไหม แต่อาจจะดีกว่าหากว่าคุณสามารถมีตัวเลือกอื่นๆ เพื่อรองรับเหตุการณ์ฉุกเฉินได้ เช่น ต้องดูแลลูกๆ หรือเจอกับตารางงานสุดแน่น อย่างไรก็ตามพื้นที่สำนักงานพร้อมใช้ที่ให้ความยืดหยุ่นนั้นอาจจะไม่จำเป็นสำหรับคุณในทุกวัน แต่ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเมื่อต้องการ

คุณโนเอล โค้ก ผู้อำนวยการใหญ่ รีจัส ประจำประเทศไทย ไต้หวัน และเกาหลี ได้กล่าวว่า "การก้าวทันสู่โลกของการทำงานในยุคสมัยใหม่นั้นเป็นไปได้ยากที่พนักงานจะจัดสมดุลชีวิตระหว่างการทำงานหรือชีวิตส่วนตัวให้มีความเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพ่อแม่ในวัยทำงานซึ่งพยายามที่จะจัดสมดุลระหว่างการทำงานและครอบครัวให้ได้ ซึ่งการใช้พื้นที่สำนักงานที่ให้ความยืดหยุ่นนั้นจะช่วยตอบโจทย์ได้อย่างครบวงจร สามารถช่วยลดละยะเวลาในการเดินทางและมีเวลาให้กับตนเองหรือครอบครัวมากขึ้น อีกทั้งปัจจุบันพ่อแม่ในวัยทำงานเริ่มมองหาสวัสดิการที่มอบความยืดหยุ่นในการทำงานมากขึ้น ดังนั้นนายจ้างจึงควรมองเห็นถึงความสำคัญของการมอบความยืดหยุ่นในการทำงานให้แก่บรรดาพ่อแม่ในวัยทำงาน เพื่อจะสามารถมอบสวัดิการนี้ได้อย่างทันทีที่มีการรับตำแหน่งใหม่ๆ

รีจัส พื้นที่บริการสำนักงานให้เช่านั้นมีเครือข่ายสาขาที่ครอบคลุมกว่า 21 แห่งทั่วประเทศไทย ทั้งในกรุงเทพ ภูเก็ต เชียงใหม่ และศรีราชา ซึ่งล่าสุดได้ขยายสาขาที่ 21 ณ สิงห์ คอมเพล็กซ์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรีจัส สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่ www.regus.co.th

เกี่ยวกับรีจัส

Regus (รีจัส) ผู้ให้บริการเช่าพื้นที่สำนักงานพร้อมใช้ชั้นนำระดับโลกที่มีเครือข่ายออฟฟิศ โคเวิร์คกิ้งสเปซและห้องประชุมอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจใหม่ๆ และสนับสนุนทุกโอกาสในการพัฒนาธุจกิจแบบไร้พรมแดน

เครือข่ายพื้นที่ทำงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องของเราจะสามารถช่วยทุกธุรกิจสามารถดำเนินงานได้ในเกือบทุกเมืองทั่วโลกไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน โดยจะไม่มีภาระด้านค่าใช้จ่ายสำหรับการลงทุนเพื่อการก่อตั้งแต่อย่างใด พร้อมมอบบริการในการดูแลและจัดการอย่างเต็มรูปแบบให้แก่ลูกค้า นอกจากนี้ยังได้ดีไซน์พื้นที่สำนักงานพร้อมใช้แบบพิเศษเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและสามารถเข้าถึงคอมมิวนิตี้ระดับโลกที่รวบรวมกลุ่มคนระดับมืออาชีพที่มีความสนใจคล้ายๆ กันมากถึง 2.5 ล้านคน ได้อย่างทันทีข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆhttps://www.regus.co.th/en-gbhttps://www.facebook.com/RegusTH/www.linkedin.com/company/regus

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit