นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่า
การกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังรับ
หนังสือข้อเรียกร้องของ
สมาพันธ์เกษตรกรแห่งประเทศไทย ว่า ทางสมาพันธ์เกษตรกรแห่งประเทศไทยได้เข้ามายื่นข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ 1. ขอให้
กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) ปรับปรุงแก้ไขระเบียบการรับขึ้นทะเบียนหนี้เกษตรกร เนื่องจากมีรายละเอียดมากเกินไป และเอกสารที่ใช้ประกอบการพิจารณาบางอย่างเกินความจำเป็น ซึ่งทาง กฟก. จะรับไปพิจารณาปรับปรุงแก้ไข 2. ตามที่
กระทรวงเกษตรฯ ได้เตรียมเสนอ
แนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรที่เป็นลูกหนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ต่อคณะรัฐมนตรี นั้น ทางสมาพันธ์เกษตรกรฯ ขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรที่เป็นลูกหนี้
ธนาคารรัฐอื่นๆ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) โดยขอให้เสนอต่อ ครม. เพิ่มเติมไปในคราวเดียวกันกับลูกหนี้ ธกส. ด้วย ซึ่งทางกระทรวงเกษตรฯ ขอให้ ครม. เห็นชอบแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรที่เป็นลูกหนี้ ธกส. ซึ่งเป็นหนี้ก้อนใหญ่เสียก่อน จากนั้นจะเชิญธนาคารรัฐอื่นๆ มารับทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรในกลุ่มดังกล่าวต่อไป
และ 3. ขอให้ กฟก. เข้าบริหารจัดการรับซื้อหนี้ที่เกิน 2.5 ล้านบาท ซึ่งอ้างว่าเป็นหนี้อันเกี่ยวเนื่องกับการเกษตร นั้น แต่เนื่องจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เข้ามาตรวจสอบและพิจารณาว่าจะซื้อหนี้ได้เฉพาะที่เป็นหนี้ในภาคการเกษตรเท่านั้น และในจำนวน 2,000 ราย มูลหนี้ 600 กว่าล้านบาทที่ขอให้ช่วยเหลือ ไม่ได้เป็นหนี้ที่เกิดจากการเกษตร จึงจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบและพิจารณาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องว่าจะสามารถปรับโครงสร้างหนี้ได้หรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการประกอบด้วยตัวแทน 4 ฝ่าย คือ กฟก. ตัวแทนจากเกษตรกร ธนาคารเจ้าหนี้ และกระทรวงเกษตรฯ เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือในขั้นต่อไป