นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่า
การกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายลักษณ์ วจนานวัช) อธิบดี
กรมปศุสัตว์ อธิบดี
กรมส่งเสริมสหกรณ์ และผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทยเข้าไปดูแล
การบริหารจัดการโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน โดยในภาคเรียนที่ 2 ให้ใช้ระบบการบริหารจัดการแบบเดิมไปก่อนเนื่องจากใกล้เปิดเทอม แต่ขอให้มีความเข้มข้นขึ้นในส่วนการบริหารจัดการอย่างทั่วถึง และการใช้เอกสารประกอบการพิจารณาตามข้อเท็จจริงตามที่กฎหมายกำหนด โดยให้เด็กนักเรียนมีนมดื่มทันเวลาเปิดเทอม ขณะเดียวกันให้หน่วยงานข้างต้นเร่งประชุมหารือและทบทวนระบบบริหารจัดการโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ตั้งแต่ทบทวนมติ ครม. เมื่อ พ.ศ. 2552 ว่ามีโครงสร้าง อำนาจหน้าที่อย่างไร มีองค์กรใดที่เกี่ยวข้องบ้าง รวมทั้งการทบทวนระเบียบวิธีการ การจัดสรรโควต้า
นมโรงเรียนให้แก่กลุ่ม
เกษตรกรหรือผู้ประกอบการอย่างไร เพื่อหาแนวทางบริหารจัดการโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ให้มีประสิทธิภาพ เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ภายใต้แนวทางการดำเนินงาน 3 ประการ คือ 1. เด็กนักเรียนได้ดื่มนมโรงเรียนที่มีคุณภาพตามหลักโภชนาการ 2. เด็กนักเรียนมีนมโรงเรียนดื่มอย่างทั่วถึงและตรงเวลา และ 3. เกษตรกรและผู้ประกอบการได้รับความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย
นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปศึกษาแนวทางการพัฒนาระบบบริหารจัดการนมโรงเรียนเพิ่มเติม โดยให้กรมปศุสัตว์ไปสำรวจจำนวนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ว่ามีการกระจายอยู่ทั่วทั้ง 6 ภาคหรือไม่ และมีปริมาณการผลิตนมเท่าไหร่ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ มีแนวทางการกระจายนมโรงเรียนไปสู่ส่วนภูมิภาคเพื่อไม่ให้กระจุกตัวเพียงจุดใดจุดหนึ่ง ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการหารือแนวทางและพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
"อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือประชาชนว่า หากพบการทุจริตเรื่องนมโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นในหน่วยงานภาครัฐหรือผู้ประกอบการ ขอให้แจ้งมายังกระทรวงเกษตรฯ ยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างเข้มข้นและเด็ดขาด" นายกฤษฎา กล่าว.