นายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือปีใหม่ไทย ช่วงวันหยุดยาวที่มีประชาชนจำนวนมากใช้รถใช้ถนนเดินทางกลับภูมิลำเนา และเดินทางไปท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนกัน การมีสติและไม่ประมาทในการขับขี่รถ ทั้งรถยนต์ และจักรยานยนต์ เป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่จะต้องระลึกถึงเสมอ แต่เรื่องความพร้อมการใช้งานของสภาพรถ รวมไปถึงศึกษาเส้นทางการขับขี่ในขณะที่เดินทางไกล รู้เรื่องกฎหมายการจราจร เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงด้วยความห่วงใย และปรารถนาให้ประชาชนได้เดินทางอย่างปลอดภัยช่วงเทศกาล ทั้งนี้เป็นไปตามข้อกำชับด้านความปลอดภัยของพลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
นายสุทธิ กล่าวต่อไปว่า มีวิธีแนะนำตรวจรถเบื้องต้น 5 วิธี ที่ช่วยให้เดินทางปลอดภัย ได้แก่
1. เช็คเส้นทางให้พร้อม เนื่องจากเส้นทางแต่ละสายย่อมแตกต่างกัน ด้วยสภาพภูมิประเทศ และสภาพแวดล้อม ถ้าเป็นเส้นทางไม่ชำนาญควรศึกษาจากแผนที่ให้แน่นอน 2. เว้นระยะให้รถคันหน้าเพื่อความปลอดภัย เป็นกฎที่สำคัญที่สุดในการขับขี่อย่างปลอดภัย คือ การเว้นระยะห่างจากรถคันหน้า เช่น ถ้าขับรถด้วยความเร็ว 40 ไมล์/ชม. ให้เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเท่ากับรถ 4 คัน การรักษาระยะห่างเช่นนี้ จะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้
3. หากมีเด็กนั่งเบาะหลังอายุต่ำกว่า 12 ปี ควรนั่งที่เบาะหลังเท่านั้น เพื่อป้องกันการกระแทกเมื่อเกิดการชน 4. เช็ครถให้ดีไม่ว่าจะเป็นรถของเราเอง หรือเช่ามาก็ต้องเช็คสภาพรถให้ดีก่อนออกเดินทาง 5. จอดรถข้างถนนต้องระวัง โดยเลี่ยงการจอดรถในจุดเสี่ยง เช่น ทางขึ้นลงสะพาน หรือทางแคบ เป็นต้น ทั้งนี้หน่วยงานของกระทรวงแรงงานได้แก่ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้อำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับลูกจ้างและพนักงาน สำนักงานประกันสังคม ให้สิทธิประโยชน์กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินเข้ารักษาโดยไม่ต้องสำรองจ่าย 72 ชั่วโมงแรก และกรมการจัดหางานเตรียมเอกสารให้แรงงานต่างด้าวเดินทางกลับประเทศด้วย โดยในส่วนของ กพร. มีโครงการคลินิกช่าง "กรมพัฒนาฝีมือแรงงานช่วงร่วมรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2561"
นายภานุวัชร มีใหม่ ครูฝึกฝีมือแรงงานระดับ ช2 สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานเพชรบูรณ์ ให้คำแนะนำ ในการตรวจเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทางว่าควรต้องตรวจสอบในเรื่องของระบบการทำงานของเครื่องยนต์ให้เป็นปกติ เช่น การตรวจกรองน้ำมันเครื่อง น้ำหล่อเย็น น้ำมันคลัทช์ ที่กรองอากาศ ที่ปัดน้ำฝน ระบบไฟส่องสว่าง ไฟสัญญาณต่างๆ ความตึงของสายพาน สภาพยางและแรงดันลมยาง แผงหน้าปัดเรือนไมล์ กระจกหน้ารถ กระจกมองหลัง กระจกมองข้างซ้ายและขวา เป็นต้น ขณะขับรถควรระมัดระวังการขับขี่ของรถรอบข้างด้วย เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ และที่สำคัญก็คือเตรียมร่างกายให้ความพร้อม นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอรวมทั้งไม่ควรดื่มของมึนเมา
"ดังนั้นการจะขับขี่ยานพาหนะ ต้องศึกษาวิธีการขับขี่ที่ปลอดภัย เพื่อช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุจราจร บนท้องถนนได้ กพร. เล็งเห็นความสำคัญในชีวิตและทรัพย์สินของทุกๆ คน ซึ่งสามารถรับบริการได้ ณ จุดบริการบนถนนสายหลักได้ทุกจังหวัด หรือสอบถามจุดให้บริการได้ที่ 1506 กด 4" อธิบดี กพร. กล่าว