พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประธานกรรมการและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ในฐานะประธานพิธีเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2561 เปิดเผยว่า รัฐบาลห่วงใย ความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงได้มอบหมายให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการลดอุบัติเหตุทางถนน โดยยึดแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2561 เป็นกรอบแนวทางการดำเนินงานในมิติเชิงพื้นที่ ภายใต้แนวคิด "ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร" มุ่งสานพลังประชารัฐลดปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุครอบคลุมทั้งด้านคน ยานพาหนะ ถนน และสิ่งแวดล้อม ด้วยการเพิ่มความเข้มข้นในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด คุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ โดยเฉพาะขับรถเร็ว เมาแล้วขับและไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย รวมถึงตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ทุกรายกรณีเกิดอุบัติเหตุ และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเงื่อนไขและข้อยกเว้นของการประกันภาคสมัครใจกรณีดื่มแล้วขับ ควบคู่กับการบูรณาการจัดตั้งจุดตรวจในเส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุ ทั้งเส้นทางสายหลัก สายรอง และเส้นทางโดยรอบพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ คุมเข้มความปลอดภัยของยานพาหนะทุกประเภท เพิ่มความถี่ในการเรียกตรวจรถโดยสารประจำทางและไม่ประจำทาง เพื่อกวดขันความพร้อมของพนักงานขับรถ อีกทั้งใช้กลไกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และอาสาสมัครในการจัดตั้งด่านชุมชนป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุและรณรงค์สร้างจิตสำนึกด้าน ความปลอดภัยทางถนนในรูปแบบเคาะประตูบ้าน นอกจากนี้ ศปถ. ยังได้กำชับจังหวัดส่งเสริมการเล่นน้ำสงกรานต์ตามประเพณีวิถีไทย พร้อมสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยประจำสถานที่ท่องเที่ยว พื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ และแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำ อีกทั้งจัดหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉินช่วยเหลือ ณ จุดเกิดเหตุ และส่งต่อผู้ประสบภัยครอบคลุมทุกพื้นที่ ทั้งนี้ ความร่วมมือของผู้ใช้รถใช้ถนนในการปฏิบัติตามกฎหมายจราจร ขับรถอย่างมีวินัย และมีน้ำใจต่อผู้ร่วมใช้เส้นทาง ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน เพื่อให้ทุกการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2561 เต็มเปี่ยมด้วยความสุขและถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสำคัญย้อนหลัง 3 ปี มีพื้นที่เฝ้าระวังอุบัติเหตุทางถนนใน 198 อำเภอ และ 1 เขตแยกเป็น พื้นที่สีแดง 109 อำเภอ และพื้นที่สีส้ม 89 อำเภอ 1 เขต กระทรวงมหาดไทย ได้ประสานให้จังหวัดและอำเภอในพื้นที่ดังกล่าว ใช้กลไกศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดและอำเภอ เพิ่มความเข้มข้นในการขับเคลื่อนการลดอุบัติเหตุทางถนน โดยวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงและชี้เป้าการจัดการความเสี่ยงให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา พร้อมดำเนินมาตรการชุมชนและสังคม โดยประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน อาสาสมัคร และจิตอาสาในพื้นที่เฝ้าระวังผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ รวมถึงเพิ่มความถี่ในการจัดตั้งจุดตรวจหลัก จุดสกัด จุดบริการ และด่านชุมชน ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในทุกเส้นทาง
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยได้ขับเคลื่อนการลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2561 ในระดับพื้นที่ผ่านกลไกของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทำหน้าที่อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ควบคู่กับการประสานพลังประชารัฐดำเนินงานในลักษณะยึดพื้นที่เป็นตัวตั้ง เน้นการเชื่อมโยงการทำงานของชุมชน อาสาสมัครในการจัดตั้งด่านชุมชนเฝ้าระวังและป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุบนถนนสายรองและถนนเชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้าน รวมถึงขับเคลื่อนมาตรการองค์กรด้านความปลอดภัยทางถนน โดยให้เจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย พร้อมกำหนดบทลงโทษทางวินัยกรณีไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจราจร เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการลดปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนให้บรรลุเป้าหมายในการลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจากอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2561
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กล่าวว่า ศปถ. ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2561 ภายใต้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนตลอดทั้งปี ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการอำนวยการสั่งการ และเชื่อมโยงการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนกับศูนย์ปฏิบัติการฯ จังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเป็นศูนย์ปฏิบัติการฯ รับผิดชอบพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยในช่วงวันที่ 11 – 17 เมษายน 2561 จะมีการประชุมร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการฯ จังหวัด ติดตามสถานการณ์ วิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุในพื้นที่ เพื่อวางมาตรการและปรับแนวทางการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาอุบัติเหตุทางถนนและช่วงเวลาในการเดินทางของประชาชนในแต่ละพื้นที่
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit