นาย เหอ หนิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีแอนด์จี เอ็นไวรอนเมนทอล โปรเท็คชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินโครงการโรงกำจัดขยะผลิตไฟฟ้าเพื่อสิ่งแวดล้อม หนองแขม เปิดเผยว่า แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของปริมาณขยะในกทม.มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 2-3% และในอนาคต 20 ปีข้างหน้ามีโอกาสเพิ่มมากกว่า 20% จากปัจจุบันที่มีปริมาณขยะประมาณ 10,700 ตันต่อวัน โดยปริมาณดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาสูงถึง 2,000 ตัน/วัน และบริษัทรับขยะจาก กทม.จำนวน 500 ตัน/วัน มากำจัดด้วยการเผาโดยใช้เทคโนโลยีเตาเผาขยะของ Von Roll Stoker ซึ่งเป็นเทคโนโลยีจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นประเภทเตาเผาแบบตะกรับ (Stoker Type) ใช้อุณหภูมิในการเผาไหม้ 1,000 + 50 องศาเซลเซียส
นายเหอหนิง กล่าวต่อไปว่า ในปี 2560 บริษัทสามารถกำจัดขยะที่เกิดขึ้นในกทม.ได้ถึง 170,000 ตัน และผลิตกระแสไฟฟ้าได้กว่า 50 ล้านยูนิต จากประสบการณ์ในการดำเนินงานเตาเผาขยะมามากถึง 12 แห่งในต่างประเทศและในประเทศไทย ทำให้บริษัทได้รับการรับรองระบบมาตรฐานในระยะเวลาเพียง 1 ปีประกอบด้วย มาตรฐานระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001 ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001 และระบบการจัดการอาชีวอนามัย และความปลอดภัย OHSAS 18001 ซึ่งเร็วกว่าข้อกำหนดที่ต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี บริษัทมีบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการกำจัดขยะด้วยระบบเตาเผา โดยบริษัทมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการเข้าประมูลงานโรงกำจัดขยะเตาเผาผลิตกระแสไฟฟ้าของกทม.ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภากทม.ที่จะเพิ่มเตาเผาขยะอีก 2 แห่ง บริเวณอ่อนนุชและหนองแขม ขนาดไม่น้อยกว่า 1,000 ตัน/วัน หากมีการเปิดให้เอกชนเข้าประมูล นอกจากนี้ยังมีความพร้อมที่จะขยายการลงทุนไปยังพื้นที่อื่นๆ ทั้งในกทม.และต่างจังหวัด
นายเหอ หนิง กล่าวในตอนท้ายว่า นอกจากบริหารจัดการขยะแล้วภายในโรงกำจัดขยะ หนองแขม ยังได้จัดทำศูนย์เรียนรู้ด้านการจัดการขยะขึ้น โดยเปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าชมความรู้เกี่ยวกับขยะ และวิธีการจัดเก็บอย่างถูกต้อง ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชน หน่วยงานภาครัฐ เอกชน มหาวิทยาลัย และโรงเรียนต่างๆ เข้าเยี่ยมชมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทมีความภูมิใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการแปรรูปขยะให้เป็นประโยชน์ และมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะบริหารจัดการขยะอย่างมีมาตรฐานและประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงคุณภาพสิ่งแวดล้อมและชุมชนเป็นประเด็นหลักในการดำเนินงาน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit