จากการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ จึงทำให้รางวัลจากโครงการนานมีบุ๊คส์รีดดิ้งคลับ ได้รับการรับรองเป็น 1 ใน 206 รางวัล จากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาสามารถใช้ยื่นประกอบการพิจารณาคุณสมบัติในการขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะได้ ตั้งแต่ปี 2559 ที่ผ่านมา
และเป็นข่าวดีเมื่อ นางสวิตตา มุ่งธนวรกุล ครูบรรณารักษ์ โรงเรียนบุญวัฒนา จ.นครราชสีมา เป็นครูท่านแรกในโครงการฯ ที่ได้เลื่อนวิทยฐานะเป็น "ครูเชี่ยวชาญ" โดยใช้รางวัลจากโครงการนานมีบุ๊คส์รีดดิ้งคลับประกอบการพิจารณา ซึ่งภายในงานพิธีมอบรางวัลโครงการนานมีบุ๊คส์รีดดิ้งคลับ ปีที่ 17 ประจำปี 2560 ที่ผ่านมา นางสวิตตา กล่าวอย่างภูมิใจว่า "ขอขอบคุณนานมีบุ๊คส์ที่จัดโครงการนานมีบุ๊คส์รีดดิ้งคลับ รางวัลจากโครงการนี้ทำให้ดิชั้นได้เลื่อนวิทยฐานะเป็นครูเชี่ยวชาญซึ่งถ้าไม่มีโครงการนี้ ดิฉันก็ไม่มีสิทธิ์ยื่นขอรับการประเมิน ดิฉันใช้ 4 รางวัลยื่นเพื่อขอรับการประเมิน ประกอบด้วย รางวัลบุคคลดีเด่นในวิชาชีพบรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์จากสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย ประจำปี 2547 และ รางวัลครูส่งเสริมการอ่านยอดเยี่ยม ระดับประเทศ โครงการนานมีบุ๊คส์รีดดิ้งคลับ ประจำปี 2555, 2558 และ 2559 และเพิ่งทราบว่าดิฉันเป็นครูคนแรกของ สพฐ. ที่ได้ประกาศเลื่อนขั้นดังกล่าว ซึ่งผู้ที่จะยื่นขอเลื่อนขั้น ต้องมีรางวัลระดับประเทศ และรางวัลครูส่งเสริมการอ่านยอดเยี่ยมระดับประเทศ ของโครงการนานมีบุ๊คส์รีดดิ้งคลับ เป็นหนึ่งใน 206 รางวัลที่ ก.ค.ศ. รับรอง ซึ่งทำให้ดิฉันมั่นใจว่าโครงการนี้มีคุณภาพ และให้ประโยชน์กับครูและนักเรียนอย่างแท้จริง"
ดิฉันเข้าร่วมโครงการนานมีบุ๊คส์รีดดิ้งคลับ ตั้งแต่ปีแรกของโครงการ และเข้าร่วมมาตลอดทุกปีจนถึงปัจจุบันปีที่ 17 แล้ว และจะเข้าร่วมต่อไปอีกในอนาคต สิ่งที่ได้จาการเข้าร่วมโครงการนานมีบุ๊คส์รีดดิ้งคลับนี้ คือ แนวคิดในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านที่หลากหลาย ดิฉันเป็นครูบรรณารักษ์มา 37 ปี บางครั้งก็บอกตรงๆ ว่าก็คิดไม่ออกว่าจะทำกิจกรรมอะไรดี แต่โครงการนานมีบุ๊คส์รีดดิ้งคลับในแต่ละปี จะมีธีมงาน ข้อเสนอแนะ และแนวทาง ให้เราไปจัดกิจกรรมที่แตกต่างกันไป ทำให้เราได้แนวทาง ไอเดีย ไปจัดกิจกรรมในโรงเรียนของเราได้ทุกปี นอกจากแนวคิดแล้ว การจัดอบรมให้กับครูฟรี ในทุกปี ทำให้เราได้รู้จักครูบรรณารักษ์จากทั่วประเทศ เกิดเป็นเครือข่ายแห่งการแบ่งปัน ที่พร้อมจะแชร์ความรู้ประสบการณ์ซึ่งกันและกันแบบไม่มีกั๊ก อีกส่วนหนึ่งคือเป็นสนามให้นักเรียนยุวบรรณารักษ์ หรือนักเรียนรักการอ่านได้แสดงศักยภาพ ซึ่งปกติจะไม่ค่อยมีสนามให้เราลงแข่งขันมากเท่าไหร่ เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มสาระอื่น ๆ แต่โครงการนานมีบุ๊คส์รีดดิ้งคลับ เปิดโอกาสเปิดพื้นที่ให้พวกเราได้แสดงศักยภาพออกมา อีกทั้งเมื่อได้รับรางวัลแล้ว นักเรียนยังได้รับโอกาสร่วมเข้าค่ายผู้นำการอ่านเพื่อต่อยอด สร้างสรรค์ นำความรู้ที่ได้นี้ไปพัฒนาต่อในโรงเรียนอีกด้วย สำหรับคุณครูหรือโรงเรียนที่ยังไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกของโครงการ อยากเชิญชวนให้มาสมัครกันค่ะ รับรองว่าโครงการนี้จะเป็นพื้นที่สำหรับครูบรรณารักษ์ได้พัฒนาตนเองเพื่อก้าวสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น สร้างเกียรติยศและศักดิ์ศรีให้กับวิชาชีพบรรณารักษ์ของเราอย่างเต็มภาคภูมิ" นางสวิตตา มุ่งธนวรกุล กล่าวปิดท้าย
โครงการนานมีบุ๊คส์รีดดิ้งคลับ ดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 รวมสถิติจนถึงปี พ.ศ. 2560 มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการมากกว่า 20,000 โรงเรียน ครูมากกว่า 50,000 คน และนักเรียนมากกว่า 10 ล้านคน ได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายส่งเสริมการอ่าน ทั้งภาครัฐและเอกชน ดังนี้ กระทรวงวัฒนธรรม, สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ),สำนักงานคณะกรรมการการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.), กรุงเทพมหานคร, สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.), ฝ่ายการศึกษาอัครสังฆมณฑล กรุงเทพฯ, สภาการศึกษาคาทอลิก, สำนักงานพันธกิจการศึกษา, หอสมุดแห่งชาติ, สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย, แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. , อุทยานการเรียนรู้ TK Park, เครือข่ายเจริญร้อยแก่นสาร, บริษัท เด็กดี อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด (Dek-D.com) บริษัท ผลิตภัณฑ์กระดาษไทย จำกัดในเอสซีจี เปเปอร์, ร้านหนังสือนายอินทร์ และร้านหนังสือบีทูเอส
สำหรับ โครงการนานมีบุ๊คส์รีดดิ้งคลับ ปีที่ 18 ประจำปี 2561ดำเนินภายใต้แนวคิด ""Read & Share อ่านและบอกต่อ เพื่อสร้างสังคมแห่งการอ่านและการเรียนรู้" "นำเสนอวิธีการสร้างวัฒนธรรมการอ่านในโรงเรียนด้วย Library Solution 3 ไอเดีย ที่ประกอบด้วย
1. NANMEEBOOK Reading Club กลไกให้เด็กอยากอ่านหนังสืออย่างต่อเนื่องและมีเป้าหมายเชื่อมโยง นักเรียน ครู บรรณารักษ์ และร้านหนังสือท้อถิ่น ให้ทำกิจกรรมส่งเสริมการอ่านร่วมกันตั้งแต่คัดเลือกอกหนังสือ ไปจนถึงกิจกรรมหลังการอ่าน เช่น บันทึกรักการอ่าน Read&Share อ่านแล้วบอกต่อ หรือประกวดคลิปวิดีโอสั้นรีวิวหนังสือ
2. School Library ห้องสมุดมีชีวิต พัฒนาห้องสมุดกลางให้มีชีวิตเร้าใจจนเด็กๆ อยากเข้า เต็มไปด้วยหนังสือและสื่อความรู้ที่หลากหลายและเหมาะสมกับผู้อ่านแต่ละวัย อีกทั้งมีกิจกรรมและบรรยากาศที่ส่งเสริมการเรียนรู้ เช่นการใช้เนื้อหาจากหนังสือตกแต่งและทำกิจกรรมให้ห้องสมุดมีชีวิต แนะนำ Top100 รายการหนังสือดีที่ห้องสมุดควรมีในแต่ละระดับชั้น และฐานข้อมูลหนังสือ (matadata) พร้อม search function ที่สะดวกและง่ายต่อการค้นาหนังสือ
3. สร้าง Classroom Library หลังห้องเรียนทุกห้อง ให้หนังสือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน โดยให้นักเรียนมีส่วนร่วมคัดเลือกหนังสือและผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนในแต่ละห้องแต่ละชั้นด้วยชุดหนังสือที่น่าสนใจเพื่อให้นักเรียนได้สืบค้น ศึกษาเพิ่มเติมจากสิ่งที่ครูสอนในห้องเรียน ได้จับกลุ่มฝึกสนทนา คิดวิเคราะห์ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ครูและโรงเรียนที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ฟรี สมัครเพียงครั้งเดียวได้เป็นสมาชิกตลอดชีพ เปิดรับสมัครแล้ว ดูรายละเอียดโครงการหรือสมัครสมาชิกได้ที่เว็บไซต์ www.nanmeebooksreadingclub.com หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณฎามา สุขเรือน โทร 0-2662-3000 ต่อ 5226, 5232 e-mail: [email protected]
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit