นายวิทาลี คามลัก ผู้อำนวยการทีมวิเคราะห์และวิจัยของแคสเปอร์สกี้ แลป ประจำภูมิภาคเอเชีแปซิฟิก (GReAT) กล่าวว่า "สื่อต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่นเพิ่งลงข่าวการโจมตีนี้ แต่เมื่อเราก็ได้วิจัยเพิ่มขึ้นอีกจึงพบว่าภัยคุกคามนี้ไม่ได้มีต้นตออยู่ที่ญี่ปุ่น หากแต่มีเบาะแสที่ชี้ว่าผู้โจมตีใช้ภาษาจีนหรือเกาหลีในการสื่อสาร นอกจากนี้ เหยื่อส่วนมากก็ไม่ได้อยู่ในญี่ปุ่น แต่มุ่งไปที่เกาหลีมากกว่า ญี่ปุ่นจึงกลายเป็นเหยื่อที่ได้รับความเสียหายข้างเคียงจากการโจมตี"
แคสเปอร์สกี้ แลป พบว่า ผู้โจมตีมองหาเร้าเตอร์ที่มีช่องโหว่เพื่อเข้าแทรกแซงและแพร่กระจายมัลแวร์โดยใช้เทคนิค DNS Hijacking แต่ทั้งนี้นักวิจัยยังไม่รู้วิธีที่โจรใช้แทรกแซงเร้าเตอร์ กรณีที่ DNS ถูกยึดแล้ว เมื่อผู้ใช้เข้าใช้งานเว็บไซต์ตามปกติ จะกลายเป็นการเข้าเว็บไซต์ปลอมของโจรไซเบอร์ที่มี URL คล้ายกับเว็บไซต์จริง โดยจะมีข้อความขึ้นใจความว่า "เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ที่ดีขึ้น กรุณาอัพเดท Chrome เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด" และเมื่อผู้ใช้งานคลิกที่ลิ้งก์นั้น ก็เป็นการติดตั้งแอพพลิเคชั่นโทรจัน ชื่อ 'facebook.apk' หรือ 'chrome.apk' ซึ่งมีแบ็คดอร์ของแอนดรอยด์
มัลแวร์ "โรมมิ่ง แมนทิส" จะเช็คว่าดีไวซ์ที่กำลังโจมตีได้ทำการรูทแล้วหรือยัง การแจ้งเตือนต่างๆ และดูกิจกรรมการเข้าเว็บไซต์ของผู้ใช้ นอกจากนี้ยังสามารถเก็บข้อมูลได้หลากหลายประเภท รวมถึงข้อมูลการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (two-factor authentication) ผู้เชี่ยวชาญพบว่าโค้ดของมัลแวร์บางส่วนมีข้อมูลอ้างอิงถึงโมบายแบ้งกิ้งและแอพพลิเคชั่นเกมที่นิยมกันในเกาหลีใต้ เมื่อนำว่าพิจารณาร่วมกัน จึงคาดได้ว่าแคมเปญนี้อาจมีแรงจูงใจเกี่ยวกับเรื่องเงิน ลักษณะการออกแบบมัลแวร์ "โรมมิ่ง แมนทิส" แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะส่งมัลแวร์แพร่กระจายทั่วทวีปเอเชีย รองรับ 4 ภาษาคือ เกาหลี จีน ญี่ปุ่น และอังกฤษผลิตภัณฑ์ของแคสเปอร์สกี้ แลป สามารถตรวจจับภัยคุกคามนี้ได้ในชื่อ 'Trojan-Banker.AndroidOS.Wroba'แคสเปอร์สกี้ แลป ขอแนะนำขั้นตอนการป้องกันการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยตัวเอง ดังนี้
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit