นายสิริณัฏฐ์ ชญาน์นันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2561 ว่า บริษัทฯ ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ พร้อมปรับปรุงสินค้าและภาพลักษณ์แบรนด์ "เชนไดร้ท์" "ทีโพล์" และ "เชนการ์ด" ให้ทันสมัยเป็นที่จดจำของผู้บริโภคว่าเป็นแบรนด์คุณภาพของคนไทยมากขึ้น โดยเบื้องต้นเตรียมงบประมาณทางการตลาดกว่า 100 ล้านบาท คาดว่าการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้จะทำให้ปี 2561 บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตไม่น้อยกว่า 20% จากปี 2560 ที่มีรายได้ 1,385 ล้านบาท
สำหรับการปรับกลยุทธ์ครั้งนี้บริษัทฯ เริ่มจากแบรนด์ "เชนไดร้ท์" ในฐานะผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์กำจัดมด แมลงสาป ยุง ปลวก ที่มีคุณภาพสูงสุด ได้ส่ง "ผลิตภัณฑ์สูตรปรับปรุงประสิทธิภาพเชนไดร้ท์" ที่ผ่านการรับรองจากสถาบันชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมปรับแพคเกจจิ้งให้มีความทันสมัย โดยเลือกใช้การทำการตลาดเชิงรุก ผ่านการออกแคมเปญและโปรโมชั่นตลอดทั้งปี คาดว่าจะทำให้เชนไดร้ท์มีอัตราการเติบโตราว 5 % นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมจับมือกับภาครัฐในการช่วยเหลือสังคมร่วมกันกำจัดยุงลาย และแมลงต่างๆ ในชุมชนแออัดกว่า 20 แห่ง ให้ปลอดภัยจากไข้เลือดออก ตลอดเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน 2561
และในส่วนของแบรนด์ทีโพล์ บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ "ทีโพล์ เลมอน พาวเวอร์" ผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจานสูตรใหม่ที่มีคุณภาพในราคาที่คุ้มค่า พร้อมปรับโฉมผลิตภัณฑ์ให้สวยงามมากขึ้น รวมถึงดึง
กาละแมร์-พัชรศรี เบญจมาศ พิธีกรชื่อดัง มาเป็นพรีเซนเตอร์ ตัวแทนแม่บ้านยุคใหม่ที่ฉลาดเลือก โดยการรุกตลาดในครั้งนี้ ทีโพล์ ได้ใช้งบประมาณทางการตลาดกว่า 40 ล้านบาท ในการทำกลยุทธ์ทั้งโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อออนไลน์ วิทยุ และทีวี รวมถึง การเดินสายแจกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ ให้กับกลุ่มเป้าหมาย ตั้งเป้ามีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มจาก 1% ในปี 2560 เป็น 5% ในปี 2561 จากปัจจุบันมูลค่าตลาดน้ำยาล้างจานของเอซีเนลสันโดยรวมอยู่ที่ราว 4,200 ล้านบาท
"ผลิตภัณฑ์สูตรปรับปรุงประสิทธิภาพเชนไดร้ท์" และ "ทีโพล์ เลมอน พาวเวอร์" ได้เริ่มวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ในช่องทางต่างๆ ทั้ง Traditional Trade และ Modern Trade อาทิ บิ๊กซี, เทสโก้โลตัส, แม็กซ์แวลู, แม็คโคร เป็นต้น
นอกจากการทำตลาดภายในประเทศแล้ว ปีนี้บริษัทฯ ยังเตรียมรุกตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยการจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในต่างประเทศ เพื่อขยายช่องทางการดำเนินธุรกิจทั้งสินค้าประเภทเคมีและเคหะภัณฑ์ไปยังตลาดใหม่ คือ แอฟริกา มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีศักยภาพ ขณะเดียวกัน จะเพิ่มไลน์สินค้าในประเทศที่บริษัทฯ ทำตลาดอยู่แล้วอย่าง ออสเตรเลีย สิงคโปร์ เวียดนาม ลาว กัมพูชา พม่า เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น
ปัจจุบันบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจใน 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ 1.กลุ่มผลิตภัณฑ์ป้องกันและกำจัดแมลง เชนไดร้ท์ คิดสัดส่วนรายได้เป็น 60 เปอร์เซ็นต์ 2.กลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ทีโพล์ คิดสัดส่วนรายได้เป็น 15 เปอร์เซ็นต์ 3.กลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสัตว์เลี้ยง เชนการ์ด คิดสัดส่วนรายได้เป็น 20 เปอร์เซ็นต์ และ 4. กลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 10 เปอร์เซ็นต์
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit