นางสาวพรรัตน์ มณีรัตนะพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัทแลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า "ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯสามารถสร้างยอดขายได้ 1,200 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนถึง 25 % โดยยอดขายที่ได้ส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล คิดเป็น 80% และต่างจังหวัดคิดเป็น 20% โดยยอดขายในปี 60 เป็นบ้านระดับราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท 30% , 5-8 ล้านบาท 30%,8-10 ล้านบาท 5% และ 10 ล้านบาทขึ้นไป 35% โดยตัวเลขที่น่าสนใจในปีที่ผ่านมา คือบ้านระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป เป็นที่สนใจของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสร้างบ้านสูงสุด เป็นผลจากการพัฒนาการออกแบบและฟังก์ชั่นของแบบบ้านในระดับราคาดังกล่าวได้ตอบโจทย์ตรงกับความต้องการของลูกค้า ในปีนี้จึงมุ่งต่อยอดพัฒนา แบรนด์ Landy Luxury ทั้งการออกแบบและการบริการให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น"
"Landy Luxury" เป็น Segment บ้านหลังใหญ่ในระดับราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป ที่มีจุดเด่นทางด้านความครบครัน คุ้มค่าของฟังก์ชั่นการใช้งาน เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการได้คฤหาสน์หลังใหญ่ แต่ไม่มีความรู้ด้านสถาปัตยกรรมการออกแบบ LandyLuxruyจะช่วยตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มดังกล่าว เพราะสถาปนิกของแลนดี้ โฮม ได้ทำการวิจัย และพัฒนาฟังก์ชั่นที่ดีที่สุด กับงานออกแบบบ้านที่เน้นความงามสง่า โอ่อ่าและภูมิฐาน ลูกค้าไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการออกแบบบ้านใหม่ เพียงเลือกจากแบบบ้านมาตรฐาน Landy Luxury ที่ออกแบบไว้แล้ว ก็จะได้คฤหาสน์หลังใหญ่ที่มีความสมบูรณ์ พร้อมก่อสร้างและอยู่อาศัยได้ทันที"ถึงแม้ว่าในปีนี้ บริษัทรับสร้างบ้านโดยรวมมีแนวโน้มในการปรับขึ้นราคาบ้านมากกว่า 5 % จากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และราคาวัสดุก่อสร้าง แต่แลนดี้ โฮม จะยังคงตรึงราคา โดยหากจะมีการปรับราคาขึ้นภายในครึ่งปีแรก ก็จะไม่เกิน 3% ทั้งนี้ บริษัทฯ จะไม่ลดคุณภาพ หรือต้นทุนบ้าน แต่จะใช้วิธีเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ และลดการสูญเสียของการใช้วัสดุก่อสร้างพร้อมลดขั้นตอนการทำงานแทน โดยคาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นในปี 61 จาก 1,200 ล้านบาท เป็น 1,500ล้านบาท
นอกจากนี้แลนดี้ โฮมยังคงมุ่งพัฒนาสู่การเป็นบริษัทรับสร้างบ้านที่ทันสมัย ภายใต้กลยุทธ์ ในปี 61 ดังนี้
1. รวดเร็ว ฉับไวในทุกช่องทางการสื่อสาร เพิ่มทางเลือกและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า พัฒนาหน่วยงาน Call Center ในการสื่อสารในทุกช่องทางการติดต่อแบบออนไลน์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้โดยเร็ว
2. มุ่งความสำคัญสู่การบริหารจัดการระบบฐานข้อมูล CRM การนำข้อมูลมาใช้ในการวิเคราะห์ อันนำมาซึ่งความได้เปรียบทางธุรกิจ เพื่อศึกษาความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้า เพื่อประยุกต์ใช้ในการสื่อสารและนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์
3. สร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุด โดยศึกษา Customer Journey เพื่อเข้าใจความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย นำมาซึ่งการบริการที่สร้างความประทับใจในทุกจุด Touch Point
ด้านนายพานิช มณีรัตนะพรผู้อำนวยการฝ่ายก่อสร้างและบริหารสำนักงานเพื่อตอบรับนโยบายการเป็นศูนย์รับสร้างบ้าน ที่มีความทันสมัย พร้อมส่งมอบประสบการณ์ด้านงานบริการการสร้างบ้านให้แก่ลูกค้าได้อย่างดีที่สุด ส่วนงานวิศวกรรมและฝ่ายก่อสร้าง ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการรายงานผล และจัดเก็บฐานข้อมูลลูกค้าอย่างเป็นระบบ เชื่อมโยงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าถึงข้อมูลได้โดยง่าย พร้อมอัพเดทสถานะการปลูกสร้างบ้านให้แก่ลูกค้ารับทราบแบบ Real time ผ่านระบบการจัดเก็บ Cloud Integrated ServiceตลอดจนพัฒนาระบบการทำงานWork Flow ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้การบริการก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สอดรับกับนโยบายในการสร้างความประทับใจในทุกจุดบริการ ฝ่ายก่อสร้างก็ถือเป็นส่วนงานที่ต้องพบปะลูกค้าบ่อยกว่าหน่วยงานอื่น จึงพัฒนามาตฐานการบริการ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดี ด้วยการดูแลงานก่อสร้าง รายงาน Process การก่อสร้างแก่ลูกค้าอย่างใกล้ชิด
ด้านนางสาวภัทรา มณีรัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและออกแบบผลิตภัณฑ์ บริษัทแลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์การตลาดในปี 2561 แลนดี้ โฮมยังคงให้ความสำคัญกับความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ จึงได้ออกแบบบ้าน ซีรี่ย์ใหม่อย่างต่อเนื่อง และเพื่อตอบรับการเติบโตของแบบบ้านระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปในปีก่อน แลนดี้ โฮมจึงได้ออกแบบบ้าน Landy Luxury สำหรับต้นปี 2 แบบโดยเน้นฟังก์ชั่นการใช้งานที่คุ้มค่า กับการดีไซน์ที่สง่างาม โอ่โถง ในราคาที่จับต้องได้ อันได้แก่
1. Botanica โดดเด่นด้วยการออกแบบในสไตล์โมเดิร์นแต่แฝงไว้ซึ่งความคลาสิค เพื่อตอบสนองความต้องการของทุกสมาชิกในครอบครัว โดยเพิ่มดีเทลอันเป็นเอกลัษณ์ด้วยแรงบันดาลใจจากหมู่มวลดอกไม้พฤกชาติ เข้ามาเป็นส่วนประกอบในการตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบมือจับประตูรูปทรงดอกไม้ และวัสดุfacade ฉลุ ให้อารมย์อ่อนหวานเสมือนอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ พื้นที่ใช้สอย 841 ตร.ม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ
2. TAO แรงบันดาลใจการออกแบบจากเต่ามังกรมงคล เพื่อความเป็นศิริมงคลและเสริมบารมีให้แก่ผู้อยู่อาศัยโดยคำนึงถึงการออกแบบฟังก์ชั่นที่เหมาะสมทุกศาสตร์ฮวงจุ้ย และได้มีการนำเส้นสายของลวดลายบริเวณกระดองเต่า เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์ผลงานการออกแบบ ทั้งลายเส้นคลิบหินปูน ตลอดจน Facade โลหะฉลุลายทำสีเทียบไม้ เพื่อสร้างความรู้สึกสงบ ร่มเย็น พื้นที่ใช้สอย 1,198.25 ตร.ม 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ
นอกจากนี้เพื่อเป็นการต่อยอดนวัตกรรมบ้านผู้สูงอายุ แลนดี้ โฮมยังออกแบบบ้านเพื่อผู้สูงอายุ รองรับสังคมผู้สูงอายุในอนาคต กับแบบบ้าน
1. The Haus พื้นที่ใช้สอย 290 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
2. Royal Oak พื้นที่ใช้สอย 287 ตร.ม. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
3. Notting Hill พื้นที่ใช้สอย 517 ตร.ม. 4ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
โดยแบบบ้านทั้ง 3 หลังได้คำนึงถึงการออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งาน ที่เน้นความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยเป็นสำคัญ เช่นการลดพื้นที่ต่างระดับในส่วนที่ผู้สูงอายุใช้งานเป็นประจำ ตลอดจนเสริมทางลาด พร้อมขยายความกว้างบริเวณทางเดินให้เพียงพอต่อการใช้รถเข็น Wheelchair และคัดสรรวัสดุ ตลอดจนสุขภัณฑ์ที่สามารถรองรับความต้องการของผู้สูงอายุได้อย่างดีและนอกจากนี้ยังมีแบบบ้าน Victoria, Kensington, Hyde Park และ Madeleine ที่พัฒนารูปแบบและฟังก์ชั่นการใช้งานให้สามารถตอบสนองความต้องการแก่ลูกค้าในยุคปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น
พิเศษสำหรับปีนี้ ครบรอบ 30 ปี แลนดี้ โฮม ได้มีการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ให้มีความทันสมัยและสดใสมากยิ่งขึ้นภายใต้แบบบ้านที่หลากหลาย นวัตกรรมการอยู่อาศัยที่โดเด่น ตลอดจนการบริการที่ทันสมัยครบวงจร ซึ่งในโอกาสครบรอบ 30 ปี แลนดี้ โฮมขอส่งมอบความสุขแบบไม่รู้จบ ด้วยของขวัญสุดพิเศษ มาเอาใจลูกค้าที่ต้องการจะสร้างบ้านภายในปีนี้โดยเฉพาะ ได้แก่ ส่วนลดสร้างบ้านสูงสุด 30% จองสร้างบ้านในปีนี้ รับฟรีคูปองชิงรางวัล ลุ้นiPhone X จำนวน 10 รางวัล มูลค่ารวม 410,000 บาท ทุกเดือน ตลอดจนลุ้นรางวัลใหญ่ รถยนต์ Toyota Yarisจำนวน 1 รางวัล มูลค่า 559,000 บาทพร้อมข้อเสนอพิเศษอื่นๆอีกมากมายนับได้ว่าเป็นโปรโมชั่นสุดพิเศษ ที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับผู้ที่คิดจะสร้างบ้านในปี 61 นี้ต้องห้ามพลาด
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit