มร.โยชิยูกิ โยชิซาว่า ประธานกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนนานาชาติ "U-15 ASEAN Dream Football Tournament 2018" เผยว่า "การจัดแข่งขันฟุตบอลเยาวชนนานาชาติ ประเภท U-14 ในประเทศไทยต่อเนื่องถึง 3 ปี ไม่เพียงช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ในการแข่งขันฟุตบอลของเหล่านักเตะเยาวชนเท่านั้น แต่ยังทำให้ได้เห็นถึงการพัฒนาด้านทักษะการเล่นที่ดีขึ้นเป็นลำดับ ดังนั้นเพื่อให้เกิดการต่อเนื่อง ปีนี้เราจึงตัดสินใจจัดแข่งประเภท U-15 เพื่อขยายโอกาสในการเฟ้นหาทีมฟุตบอลเยาวชนดาวเด่น ฝีเท้าระดับพระกาฬได้หลากหลายมากขึ้น โดยปีนี้ได้รับความสนใจมีทีมเข้าร่วมแข่งขันทั้งจากประเทศไทย ญี่ปุ่น และประเทศในอาเซียน รวมถึง 20 ทีม เพื่อคว้าตำแหน่งแชมป์ประจำปี 2018 และโอกาสที่จะได้รับเลือกเป็น "อาเซียน ดรีมเพลเยอร์" (ASEAN Dream Player) โดยในปีนี้นักเตะที่ได้รับรางวัล "อาเซียน ดรีมเพลเยอร์" จะได้รับโอกาสไปเปิดประสบการณ์และฝึกซ้อมเทคนิคฟุตบอลอย่างใกล้ชิดกับทีม "ซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า" ทีมสโมสรชั้นนำของ J.League ลีกฟุตบอลอาชีพระดับสูงสุดของประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งถูกจัดอันดับให้เป็นทีมฟุตบอลที่มีความแข็งแกร่งและมีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ในวงการฟุตบอลของญี่ปุ่น"
มร.มาซาโอะ คิบะ ทูตสัมพันธ์โครงการ International Football Tournament เผยว่า "วัตถุประสงค์หลักของการจัดการแข่งขัน U-15 ASEAN Dream Football Tournament 2018 คือ ต้องการให้นักเตะเยาวชนของแต่ละประเทศได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การแข่งขันซึ่งจะช่วยให้ทุกคนได้พัฒนา ดูฝีมือว่าคนไหนมีแววจะได้ไปฝึกฝีมือให้เก่งขึ้น เพราะผมคิดเสมอว่าเยาวชนไทยและอาเซียนมีความสามารถสูงสามารถเข้าไปเล่นใน J. League ได้ ซึ่งจากผลงานการคว้าแชมป์ของทีมนักเตะเยาวชนของไทยตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เป็นการพิสูจน์แล้วว่าเยาวชนไทยมีฝีมือด้านฟุตบอลไม่แพ้ทีมญี่ปุ่น การที่น้องๆ นักเตะดาวเด่นในปีนี้จะได้รับโอกาสเข้าไปฝึกซ้อมเทคนิคฟุตบอลอย่างใกล้ชิดกับทีม "ซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า" ทีมสโมสรชั้นนำของ J.League ลีกฟุตบอลอาชีพระดับสูงสุดของประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งถูกจัดอันดับให้เป็นทีมฟุตบอลที่มีความแข็งแกร่งและมีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ในวงการฟุตบอลของญี่ปุ่นนั้นจะเป็นประสบการณ์ที่ดี เพราะทีม "ซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า" เป็นทีมแรกๆ ที่ได้เข้า J.League จึงเป็นทีมที่มีประสบการณ์ที่ค่อนข้างยาวนานที่สุด อีกทั้งนักเตะในทีมยังมีความชำนาญการเล่นที่โดดเด่น การเดินทางไปฝึกซ้อมจะใช้เวลา 1 อาทิตย์ โดยใช้วิธีเดียวกันกับระบบการเทรนนิ่งในระดับเยาวชนที่ต่ำกว่า 15 ปีของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการฝึกฝนที่เข้มข้น รวมทั้งมีโอกาสได้ชมการแข่งขันของนักเตะรุ่นพี่ใน J.League แบบสดๆ อีกด้วย"
การแข่งขันฟุตบอลเยาวชนนานาชาติ "U-15 ASEAN Dream Football Tournament 2018" ในปีนี้ ได้รวมทีมฟุตบอลเยาวชนชั้นนำจากไทย ญี่ปุ่น และประเทศอาเซียนเข้าร่วมแข่งขันรวมทั้งสิ้น 20 ทีม โดยจับฉลากเพื่อแบ่งสายการแข่งขันออกเป็น 5 สาย คือ สาย A, B, C, D และ E ซึ่งแต่ละสายประกอบด้วยทีมต่าง ๆ ดังนี้
สาย A ชลบุรี เอฟซี / ชัยนาท ฮอร์นบิล / โอมิยะ อาร์ดิย่า / เอฮิเมะ เอฟซี
สาย B บางกอก ยูไนเต็ด / บางกอกกล๊าส เอฟซี / บางกอก คริสเตียน คอลเลจ เอฟซี / วิสเซล โกเบ
สาย C Thailand Youth League 2 / พีวีเอฟ เวียดนาม / นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี / คามาทามาเร่ ซานูกิ
สาย D Thailand Youth League 1 / เมืองทอง ยูไนเต็ด / พัทยา ยูไนเต็ด / เซโรโซ่ โอซาก้า
สาย E บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด / เชียงราย ยูไนเต็ด / ไทเกอร์ คิดส์ มาเลเซีย / ชิมิสึ เอส พัลส์
ทั้งนี้จะทำการแข่งขันแบบทัวร์นาเมนท์ (Tournament) เพื่อคัดเลือกทีมชนะแต่ละสายเข้าชิงชัยในรอบชิงชนะเลิศ เพื่อลุ้นเป็น 3 เยาวชนที่คว้ารางวัลอาเซียน ดรีมเพลเยอร์ (ASEAN Dream Player) ที่จะได้มีโอกาสบินลัดฟ้าไปร่วมฝึกซ้อมอย่างใกล้ชิดกับทีมสโมสรชั้นนำของ J.League ลีกฟุตบอลอาชีพระดับสูงสุดของประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีรางวัลผู้เล่นดีเด่น Most Valuable Player และรางวัลผู้ทำคะแนนยิงประตูยอดเยี่ยม Top Score Award อีกด้วย
Japan Dream Football Association - JDFA เป็นองค์กรพัฒนาฟุตบอลระดับเยาวชนจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลไม่แสวงผลกำไร ก่อตั้งโดย มร. มาซาโอะ คิบะ อดีตกัปตันทีมสโมสร "กัมบะ โอซาก้า" ทีมฟุตบอลชั้นนำใน J.League ซึ่งได้ริเริ่มทำกิจกรรม "ฟุตบอลคลินิก" การจัดฝึกอบรมทักษะการเล่นฟุตบอลขั้นพื้นฐานแก่เยาวชนไทยที่สนใจอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555
ติดตามและให้กำลังใจเยาวชนไทย ในการแข่งขัน "U-15 ASEAN Dream Football Tournament 2018" ในระหว่างวันที่ 19 ถึง 25 มีนาคม 2561 ศกนี้ ณ สนามฝึกซ้อมเมืองทองยูไนเต็ด หรือทาง www.facebook.com/U15ADFT/