นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ( ธพว. หรือ SME Development Bank) กล่าวว่า ในวันที่ 24 และ 25 มีนาคมนี้ ธนาคารเตรียมดำเนินโครงการ "ภารกิจจิตอาสา ส่งเสริมเอสเอ็มอีไทย ฉับไวไปถึงถิ่น"โดยเป็นความร่วมแรง ร่วมใจกันของบุคลากรทุกคนใน ธพว. ตั้งแต่ผู้บริหารจนถึงพนักงานทุกระดับที่ปัจจุบันมีกว่า 2,400 คน ซึ่งจะแบ่งกำลังกันกระจายลงพื้นที่ตามแหล่งการค้า และย่านเศรษฐกิจสำคัญต่างๆ จังหวัดละ 4-6 จุด รวมแล้วประมาณ 500 จุดทั่วประเทศ เช่น จ.ตาก ณ ตลาดพาเจริญ ตลาดริมเมย , จ.บุรีรัมย์ ณ ตลาดเมล่อน , จ.สตูล ณ ตลาดนัดเปิดท้ายปากบารา ตลาดชุมชนท่าแพ และกรุงเทพฯ ณ ตลาดนัดสวนจตุจักร ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน เป็นต้น
สำหรับวัตถุประสงค์สำคัญของโครงการนี้ ต้องการนำบริการต่างๆ ไปมอบแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี หรือผู้อยากจะเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองในแต่ละชุมชนได้อย่างใกล้ชิดและทั่วถึงมากที่สุด ทั้งบริการเพื่อการพัฒนาธุรกิจ รวมถึง บริการทางการเงิน ซึ่งรัฐบาลได้รับมอบหมายให้ธนาคารสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยถูกเพื่อผู้ประกอบการคนตัวเล็ก หรือ "จุลเอสเอ็มอี" เช่น สินเชื่อเศรษฐกิจติดดาว ดอกเบี้ย 3% ใช้ บสย.ค้ำประกันฟรี 4 ปีแรก สินเชื่อสร้างอาชีพวัยเก๋า สำหรับผู้ประกอบการอายุตั้งแต่ 55-75 ปี สินเชื่อ Factoring บัญชีเดียว วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท เบิกจ่ายภายในวันเดียว ฟรีค่าธรรมเนียมจัดเก็บหนี้ และสินเชื่อเถ้าแก่ 4.0 อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1% ปลอดชำระเงินต้น 3 ปีแรก เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยที่มีปัญหาทางการเงินสามารถกู้ได้ (แม้เคยปรับโครงสร้างหนี้ หรือผ่อนชำระไม่ต่อเนื่องมาก็ตาม) เป็นต้น
ในการลงพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ธนาคารจะกระจายรับแจ้งความต้องการจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผ่านการลงทะเบียนออนไลน์เพียงสแกน QR Code ด้วยสมาร์ทโฟน และกรอกข้อมูลเข้าระบบ ซึ่งข้อมูลจะถูกส่งไปยังสาขาธนาคารในพื้นที่ที่ผู้ประกอบการระบุทันที จากนั้น เจ้าหน้าที่สาขาจะติดต่อกลับเพื่อดำเนินการตอบความต้องการต่างๆ ของผู้ประกอบการอย่างฉับไวที่สุด
นายมงคล เผยด้วยว่า สาเหตุที่ใช้ชื่อโครงการว่า ภารกิจจิตอาสาฯ เนื่องจากการทำงานครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ธนาคารทุกคนตั้งใจจะช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจากใจจริง ทำโดย "จิตสาธารณะ"หรือ "จิตอาสา" นับเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในการทำงานของธนาคารภาครัฐ ซึ่งคนทั้งองค์กรพร้อมใจปฏิบัติภารกิจเดียวกัน โดยไม่ได้รับผลตอบแทน ทว่า ทุกคนยังเต็มใจจะทำหน้าที่นี้ เพราะตระหนักดีว่า เอสเอ็มอีเป็นฐานรากของเศรษฐกิจไทย อีกทั้ง กลุ่มเอสเอ็มอีคนตัวเล็กในอดีตยากจะเข้าถึงบริการของหน่วยงานภาครัฐ ดังนั้น ภารกิจครั้งนี้ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง หากสามารถสนับสนุนให้เอสเอ็มอีเข้าถึงบริการต่างๆ ของภาครัฐ ทั้งด้านการเงินและไม่ใช่การเงินได้สำเร็จ จะช่วยยกระดับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยทั่วประเทศ และคนในชุมชนโดยรอบให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ก่อประโยชน์เชื่อมต่อไปยังเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศให้เติบโตแข็งแกร่งและยั่งยืนตามไปด้วย
ทั้งนี้ ตั้งเป้าว่า การลงพื้นที่ในวันที่ 24 และ 25 มีนาคมนี้ จะช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั่วประเทศเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยถูกได้กว่า 10,000 ราย วงเงินประมาณ 5,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าว่าจะจัดโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง ไตรมาสละ 1 ครั้ง รวม 4 ครั้ง ภายในปีนี้ (2561) จะมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงบริการช่วยเหลือของธนาคาร ได้ไม่ต่ำกว่า 40,000 ราย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit