รับชมข่าวประชาสัมพันธ์ในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่ https://www.multivu.com/players/uk/8290951-fan-id-2018-fifa-world-cup-exit-russia/
การเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับระยะเวลาการเข้าประเทศรัสเซียสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีแผนเดินทางข้ามพรมแดนรัสเซียโดยใช้บัตรประจำตัวผู้เข้าชมการแข่งขันฟุตบอลโลก หรือ FAN ID ผู้ชมชาวต่างชาติและบุคคลไร้สัญชาติสามารถเข้ารัสเซียได้ภายในระยะเวลาซึ่งเริ่มตั้งแต่ 10 วันก่อนวันแข่งขันนัดแรก และสิ้นสุด ณ วันแข่งขันนัดสุดท้าย กล่าวคือ แฟนบอลต่างชาติจะสามารถเข้าประเทศรัสเซียได้ด้วย FAN ID ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน ถึงวันที่ 15 กรกฎาคม 2018 และผู้ถือ FAN ID ต้องออกจากรัสเซียภายในไม่เกินวันที่ 25 กรกฎาคม 2018 นอกจากนี้ ผู้ชมชาวต่างชาติและบุคคลไร้สัญชาติสามารถออกจากรัสเซียโดยใช้ FAN ID ทั้งในรูปแบบบัตรพลาสติกหรือในรูปแบบอิเล็กทรอนิก หากมีเอกสารพิสูจน์ทราบตัวบุคคลที่ถูกต้องและมีผลตามกฎหมาย
"FAN ID ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกคือไฟล์เอกสารที่คุณได้รับทางเมลหลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนการพิสูจน์ตัวบุคคล ผู้ชมต่างชาติสามารถเข้าและออกจากดินแดนของรัสเซียด้วยรูปแบบนี้ อย่างไรก็ตาม ในกรณีของการเข้าสู่สนามเพื่อชมการแข่งขันนั้น แฟนบอลจะต้องแสดงบัตร FAN ID โดยสามารถสมัครและขอรับบัตรได้ที่ศูนย์ FAN ID Distribution Center ในทุกเมืองที่ใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขัน ส่วนในต่างประเทศนั้น ขณะนี้ได้เริ่มมีการจัดส่ง FAN ID แล้วเช่นกัน" อังเดร โรมันคอฟ รองผู้อำนวยการกรมการดำเนินงานโครงการยุทธศาสตร์ กระทรวงโทรคมนาคมและการสื่อสารมวลชนแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย กล่าว
FAN ID คือบัตรประจำตัวผู้เข้าชมการแข่งขันฟุตบอลโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบยืนยันตัวตนแฟนบอล
สามารถสมัคร FAN ID ด้วยการกรอกแบบฟอร์มที่ http://www.fan-id.ru/ หรือลงทะเบียนที่ FAN ID Distribution Center โดยเมื่อแสดงตั๋วเข้าชมการแข่งขันพร้อมกับ FAN ID แฟนบอลจะสามารถเข้าไปยังสนามได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย สำหรับการรับ FAN ID นั้น สามารถติดต่อขอรับได้ที่ FAN ID Distribution Center ในรัสเซีย สำนักงานต่างประเทศของ Rossotrudnichestvo ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า VFS Global Visa Application Center ทั่วโลก หรือการจัดส่งทางไปรษณีย์
(รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/654259/Ministry_of_Telecom_Russia_FAN_ID.jpg )
ที่มา: กระทรวงโทรคมนาคมและสื่อสารมวลชนแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit