วันนี้ (16 มี.ค. 61) พันตำรวจเอกชุมพร กาญจนรัตน์ รองผู้บังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกับ นายชฎิล ชวนะลิขิกร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารความยั่งยืน บริษัท ปตท.. จำกัด (มหาชน) และนางสาวแสงดาว เอกลักษณ์ไพสิฐ กรรมการผู้จัดการบริษัท เกตแวน บุ๊คกิ้ง จำกัด ร่วมมอบรางวัลบัตรเงินสดเติมน้ำมัน ปตท. มูลค่า 400,000 แสนบาท แก่พนักงานขับรถตู้โดยสารสาธารณะที่เข้าร่วมโครงการ "ตำรวจนครบาล – ปตท. ห่วงใย ปลอดภัยใช้ Get Van" จำนวน 370 คน ที่ขับรถอย่างปลอดภัย รักษากฎจราจร ร่วมสร้างวัฒนธรรมการขับขี่อย่างมีคุณภาพในเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา ณ กองบังคับการตำรวจจราจร
พันตำรวจเอกชุมพร เปิดเผยว่า ตามที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลและกองบังคับการตำรวจจราจร ได้ร่วมกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และแอพพลิเคชัน Getvan booking และ police i lert u ได้จัดทำโครงการ "ตำรวจนครบาล – ปตท. ห่วงใย ปลอดภัยใช้ Get Van" ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ที่ผ่านมา ได้มีรถตู้โดยสารสาธารณะเข้าร่วมเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 5,500 คัน โดยได้กำหนดหลักเกณฑ์การให้รางวัลกับพนักงานขับรถตู้โดยสารสาธารณะที่ขับขี่ปลอดภัยผ่านแอพพลิเคชั่น GetVan โดยจะวัดผลจากสถิติตัวเลขที่เก็บข้อมูลต่างๆ ผ่านแอพพลิเคชั่น GetVan Booking - GetVan Driver และ Police I LERT U อาทิเช่น จำนวนการใช้ความเร็วเกินกำหนด ยอดอุบัติเหตุ ยอดร้องเรียนบริการ รวมถึงการแจกบัตรน้ำมันมูลค่ารวมกว่า 400,000 บาท เพื่อเป็นของขวัญให้ประชาชนผู้ใช้บริการรถตู้ผ่านแอพพลิเคชั่น จากบริษัท ปตท จำกัด (มหาชน)
นายชฎิล เปิดเผยว่า ปตท. ยึดหลักการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานความมั่นคง ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายเพื่อลดอุบัติเหตุและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่พนักงาน คู่ค้า และประชาชน โดย ปตท. มอบบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 400,000 บาท แก่พนักงานขับรถตู้สาธารณะดีเด่น จำนวน 370ท่าน เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ขับขี่รถสาธารณะที่เคารพกฎจราจร คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารและผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นสำคัญ รวมทั้งยังเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ผู้ขับขี่รถสาธารณะรายอื่นๆ ได้อีกด้วย
นางสาวแสงดาว เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวนี้ตามที่ได้รับความร่วมมือทั้ง 4 ส่วน โดย บริษัทปตท จำกัด (มหาชน) ได้สนับสนุนบัตรเงินสดเติมน้ำมันอย่างต่อเนื่อง นอกจากผู้ประกอบการและพนักงานขับรถ ของรถตู้โดยสารสาธารณะหมวดก และ หมวดข จำนวน 370 ท่าน ที่ได้รับรางวัลดังกล่าวแล้ว โครงการนี้ส่งผลไปถึงประชาชนผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกสบายและยกระดับมาตรฐานการให้บริการมากขึ้นเป็นลำดับ โดยนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมเตรียมพัฒนาการใช้งานให้รองรับช่องทางการชำระเงินค่าโดยสารให้สอดคล้องกับการใช้งานปัจจุบัน ในเร็วๆนี้
"สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือของทุกภาคส่วน คือภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการขับขี่ของพนักงานขับรถตู้สาธารณะ ซึ่งจะนำไปสู่เป้าหมายการลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้สำเร็จ รวมถึงลดความสูญเสียทางครอบครัว สังคม เศรษฐกิจ และพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยได้อย่างยั่งยืน" นายชฎิล กล่าวเสริมในตอนท้าย