บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานและระบบปฏิบัติการจากบริษัทจำนวนมากต่างหันมาใช้แพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์สำหรับศูนย์ข้อมูลแบบ SDN กันมากขึ้น เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าและเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการให้บริการ โดยคาดว่าแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์ดังกล่าวจะตอบสนองความต้องการของบริษัทได้ในหลายช่วงระยะ ระหว่างที่มีการเปลี่ยนแปลงจากการใช้ศูนย์ข้อมูลแบบดั้งเดิมไปเป็นการพึ่งพาระบบคลาวด์ส่วนตัวและคลาวด์ลูกผสม ซึ่งหมายความว่า แพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์จะต้องมีความเปิดกว้าง มีความยืดหยุ่น และสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดได้ตลอดระยะเวลา 5-7 ปีข้างหน้า
สวิตช์ตระกูล CloudEngine ของหัวเว่ย ถือเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมที่สุดของอุตสาหกรรม บนสถาปัตยกรรมที่เป็นหนึ่งเดียว เปิดกว้าง และตั้งโปรแกรมได้ ทำให้การเปลี่ยนผ่านจากเครือข่ายศูนย์ข้อมูลแบบเดิมไปเป็นแบบ SDN และมัลติคลาวด์นั้น เป็นไปได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ สวิตช์ของหัวเว่ยยังทำหน้าที่เป็น API มาตรฐานสำหรับการใช้งานร่วมกับแพลตฟอร์มประมวลผล ตัวควบคุม และเครื่องมือการจัดการแบบอัตโนมัติของผู้จำหน่ายรายอื่น ๆ เพื่อตอบสนองลูกค้าที่ต้องการความยืดหยุ่น และเพื่อขีดความสามารถในการติดตั้งวางระบบได้อย่างเบ็ดเสร็จครบวงจร
ฟอร์เรสเตอร์ รีเสิร์ช ให้การยอมรับตำแหน่งของหัวเว่ยในตลาด โดยระบุว่า "หัวเว่ย ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายระบบเครือข่ายที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในการประเมินของเรานั้น มีรายการผลิตภัณฑ์เครือข่ายข้อมูลที่ใหญ่ที่สุด และมีส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในจีน อีกทั้งยังมีการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในแอฟริกา เอเชีย ยุโรป และอเมริกาใต้"
จง ไคเซิง ประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์สวิตช์และเกตเวย์สำหรับองค์กร ของหัวเว่ย กล่าวว่า "เรารู้สึกภาคภูมิใจที่ ฟอร์เรสเตอร์ รีเสิร์ช ได้ยกย่องให้ หัวเว่ย เป็นผู้นำในด้านแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์สำหรับศูนย์ข้อมูลแบบ SDN โดยสวิตช์ตระกูล CloudEngine ของหัวเว่ยได้รับการยอมรับจากตลาดว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีสมรรถนะสูงสุดในอุตสาหกรรม อีกทั้งยังมีความเป็นเลิศในด้านการเปิดกว้างและด้านความสามารถในการรองรับการพัฒนาเพิ่มเติมได้ โดยในอนาคต หัวเว่ยจะช่วยบริษัทต่าง ๆ ในการสร้างเครือข่ายที่เป็นไปตามเจตจาการใช้งาน (intent-driven network) ด้วยความสามารถด้านระบบอัตโนมัติและระบบอัจฉริยะที่ดียิ่งขึ้น เพื่อสนับสนุนความสำเร็จของธุรกิจ"
นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2555 ทั้งโซลูชั่น CloudFabric และสวิตช์ตระกูล CloudEngine ของหัวเว่ยยังคงมีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่ง และได้พัฒนาแนวทางปฏิบัติทางการค้ามากมายผ่านทางแพลตฟอร์มเครือข่ายล้ำสมัยในอุตสาหกรรมภาคต่าง ๆ เช่น ผู้ให้บริการคลาวด์ ภาคการเงิน สื่อและความบันเทิง และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคม ปัจจุบัน โซลูชั่น CloudFabric ของหัวเว่ยถูกนำไปติดตั้งใช้งานตามบริษัทต่าง ๆ มากกว่า 2,800 แห่ง ในกว่า 120 ประเทศ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Huawei CloudFabric Solution ได้ที่ http://e.huawei.com/go/cloudfabric
ติดต่อ:
Kiara Kang
โทร. 86 10 82829670
อีเมล: [email protected]
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit