อรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ สามพราน ริเวอร์ไซด์ และผู้ก่อตั้งสามพรานโมเดล กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมนี้จัดขึ้นเป็นพิเศษเฉพาะร้านปลูกปั่น เป็นกิจกรรมการท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ หรือ Organic Tourism ที่เป็นการเชื่อกันระหว่างผู้ประกอบการกับเกษตรกรที่ผลิตระบบอินทรีย์ มาเข้าใจกัน ซื้อขายผลผลิตร่วมกัน และสื่อสารต่อให้ผู้บริโภคเข้าใจความสำคัญของออร์แกนิก เพื่อให้เห็นคุณค่าวิถีอินทรีย์ ที่ไม่ใช้แค่ดีต่อสุขภาพ แต่ดีต่อเศรษฐกิจ สังคม และ สิ่งแวดล้อม เป็นการสร้างระบบอาหารสมดุลยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อาหาร
"ปลูกปั่น เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารสุขภาพที่เลือกใช้วัตถุดิบอินทรีย์ตรงจากเกษตรกร โดยส่วนหนึ่งซื้อจากเกษตรกรเครือข่ายสามพรานโมเดล และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค จึงต้องการให้นักปั่นส่งสินค้าประจำร้านที่สัมผัสกับผู้บริโภคโดยตรง ได้มาเรียนรู้แหล่งที่มาของวัตถุดิบจากต้นทางการผลิต มารู้จัก มาเข้าใจวิถีชีวิตเกษตรกร เพื่อสร้างความเข้าเกี่ยวกับวิถีอินทรีย์ และสามารถนำความรู้กลับไปสื่อสารต่อผู้บริโภคให้เห็นคุณค่า และเกิดความต้องการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ ขณะเดียวกันช่วยส่งเสริมเกษตรกรหันมาทำเกษตรอินทรีย์เพิ่มมากขึ้น" อรุษ กล่าว
ศิริลักษณ์ มหาจันทนาภรณ์ ผู้บริหารปลูกปั่น บอกว่า กิจกรรมนี้ ทำให้ทุกคนได้ความรู้ และความประทับใจ ได้เห็นความมุ่งมั่นของสามพรานโมเดลที่ส่งเสริมเกษตรกรในเครือข่ายหันมาทำเกษตรอินทรีย์อย่างมีระบบ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพมาตรฐานตรงตามความต้องการของผู้บริโภค ได้รู้จักและเข้าใจชีวิตเกษตรกร รวมถึงได้หลักคิด และความรู้แง่มุมต่างๆ เกี่ยวกับวิถีอินทรีย์ ซึ่งจะนำสิ่งเหล่านี้กลับไปสื่อสารต่อไปสร้างคุณค่าให้กับสินค้าออร์แกนิก และกระตุ้นผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพ เพื่อลดการเจ็บป่วยจากการรับสารเคมีตกค้างที่แฝงมากับอาหารบนเส้นทางวิถีอินทรีย์ระยะทางยาวกว่า 60 กิโลเมตร ที่ถูกปุกหมุดไว้เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติ สีเขียวขจีของนาข้าวมองไกลสุดลูกตา สลับความงามของสวนผลไม้ และวิถีชีวิตชุมชนเก่าแก่ ที่รายล้อมตลอดสองข้างทางชวนหลงใหลยิ่งนัก
เริ่มสตาร์ทแปดโมงเช้าที่ตลาดสุขใจ เป้าหมายแรก ปั่นไปสวนส้มโออินทรีย์อุบลการะเวก ต.ทรงคะนอง ผ่านหน้าวัดไร่ขิง ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร จุดนี้ได้เรียนรู้การทำสวนส้มโออินทรีย์ ซึ่งลุงอุบล (เจ้าของสวน) อธิบายละเอียดยิบ ตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก วิธีดูแลรักษา การใช้ชีวภัณฑ์ชนิดต่างๆ รวมถึงแนะเทคนิคการเลือกส้มโอ พร้อมพาไปเยี่ยมชมบรรยากาศในสวน ที่ปลูกส้มโอสายพันธุ์ทองดี และขาวน้ำผึ้ง พื้นที่ประมาณ 8 ไร่ และจากการแลกเปลี่ยนพูดคุยตอบข้อซักถามหลายประเด็น สุดท้ายลุงอุบลยืนยันว่า เกษตรอินทรีย์ ไม่ได้ช่วยแค่สุขภาพดีอย่างเดียว แต่ช่วยให้เศรษฐกิจสังคม สิ่งแวดล้อมดีขึ้นด้วย
สัมผัสแหล่งผลิตส้มโออินทรีย์กันแบบเต็มอิ่ม ได้เวลาขอบคุณและเอ่ยลา ลุงอุบล เพื่อไปต่อยังจุดแวะพักที่ 3 จุดนี้ จะพาไปรู้จักกับคุณขวัญเรือน เพ็ชศรีนวล เจ้าของสวนฝรั่งกิมจู และคุณธรวิกา ปานเจริญ เจ้าของนาข้าวอินทรีย์บ้านศรีเบญจรงค์ ต.บางช้าง (อยู่พื้นที่ติดกัน) ระยะทางประมาณ36 กิโลเมตร ปั่นลัดเลาะไปตามทุ่งนา สลับสวนผลไม้ ผ่านชุมชนเก่าแกในอำเภอสามพราน จุดนี้พักดื่มน้ำฝรั่งอินทรีย์คั้นสดและมะพร้าวน้ำหอมอินทรีย์ให้เย็นชื่นใจ พร้อมฟังเรื่องเล่าเส้นทางชีวิตเกษตรกรอินทรีย์กับความสุขที่ค้นพบ จากเกษตรกรต้นแบบทั้ง 2 ท่าน แม้ไม่ได้เดินชมบรรยากาศในแปลง แต่ความรู้ที่ได้ถือว่าเกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภคเป็นอย่างมาก
ฝนโปรยปลายลงมาให้ได้ชุ่มฉ่ำใจ พากันตะลอนปั่นต่อไปยัง Patom Organic Farm สวนเกษตรอินทรีย์มาตรฐานสากล ของสามพราน ริเวอร์ไซด์ จุดที่ 3 พักรับประทานอาหารกลางวันมื้อพิเศษ จุดนี้นอกจากจะได้ชมสวนเกษตรอินทรีย์ พื้นที่กว่า 30 ไร่ ยังมีกิจกรรมสนุกๆให้ร่วมสัมผัสทั้งเก็บผัก เก็บไข่ นำไปปรุงอาหารเมนูง่ายๆ ผัดๆ ทอดๆ ตั้งวงรับประทานร่วมกันในบรรยากาศชิวๆ ท่ามกลางธรรมชาติ ศาลาโรงนา ที่โอบล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่และนาข้าวเขียวขจี มีชาออร์แกนิก และผลไม้ตามฤดูกาลเก็บสดจากต้น อาทิ มะม่วง ฝรั่ง มะพร้าวน้ำหอม กล้วย จัดเตรียมไว้ให้ได้ ชิม ลิ้มรสกันอีกด้วย
และปิดท้ายทริปนี้ที่ตลาดสุขใจให้นักปั่นได้ แวะ ช้อป ชิม สินค้าเกษตรอินทรีย์ตรงจากเกษตรเครือข่ายสามพรานโมเดลที่ปลูกเอง ขายเอง มีทั้ง ข้าว ผัก ผลไม้ ผลิตภัณฑ์ และอาหารแปรรูปชนิดต่างๆ ที่มีให้เลือกมากมาย One Day Trip ทริปเล็ก ๆ ที่เปี่ยมด้วยความอบอุ่น และรอยยิ้มแห่งความประทับใจของ ผู้ขับเคลื่อน ผู้ผลิต และผู้ประกอบการ ที่ร่วมกันสรรสร้างคุณค่าห่วงโซ่อาหารอาหารอินทรีย์ หวังสร้างระบบอาหารสมดุลสู่ความยั่งยืน รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่มูลนิธิสังคมสุข โทร. 034-322-588-93 หรือ Facebook/สามพรานโมเดล