กองทุนเทมเพิลตันเชื่อมั่น CGD ขอซื้อบิ๊กล๊อต 300 ล้านหุ้น “เจ้าพระยาเอสเตท” โปรเจ็ก 3.2 หมื่นลบ. สร้างเสร็จตามแผน พร้อมโอนปีนี้ดันผลงานปี 61 สุดเริด-เปิดฉากเทิร์นอะราวด์

12 Mar 2018
CGD เนื้อหอมขึ้นมาทันตา "เทมเพิลตัน" กองทุนยักษ์ใหญ่จากอเมริกา ดอดเจรจาขอซื้อบิกล็อต 300 ล้านหุ้นเพราะมั่นใจผลงานปี 2561 สุดเริด เหตุโครงการ "เจ้าพระยาเอสเตท" โปรเจ็กต์อสังหาฯยักษ์ใหญ่ของเมืองไทยมูลค่ากว่า 3.2 หมื่นล้านบาท สร้างเสร็จตามแผน พร้อมโอนและส่งมอบให้กับลูกค้าได้ภายในปีนี้แน่นอน จ่อรับรู้รายได้ก้อนโตในช่วงครึ่งปีหลัง

นายเบน เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ (CGD) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการลงทุน เปิดเผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานของปี 2561 คาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้จาก "เจ้าพระยาเอสเตท" โครงการอสังหาริมทรัพย์หรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา มูลค่า 3.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งประกอบไปด้วยโรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ, โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพ และคอนโดมิเนียมหรู โฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ กรุงเทพ โดยมีกำหนดแล้วเสร็จภายในปีนี้ตามแผนงานท่กำหนดไว้ ดังน้นจะทำให้มีการรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงปลายเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้มีโอกาสเห็นผลการดำเนินงานเติบโตได้อย่างโดดเด่นและจะพลิกกลับมามีกำไรในช่วงปลายปีนี้เป็นต้นไป

"ในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมาถือเป็นช่วงของการลงทุนเพื่อสร้างฐานธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง ถึงเวลานี้เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผนถือเป็นการเปิดฉากเริ่มต้นของการเทิร์นอะราวด์สำหรับ CGD โดยจะเปิดให้เข้าเยี่ยมชมโครงการได้ตั้งแต่กลางปีนี้เป็นต้นไป และในช่วงปลายปีนี้จะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการเจ้าพระยาเอสเตท"นายเบนกล่าว

สำหรับเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (9 มี.ค.) มีการซื้อขายในกระดานรายใหญ่ (บิ๊กล็อต) บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเม้นท์ (CGD) จำนวน 300 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ย 1.56 บาท ต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าซื้อขาย 468 ล้านบาท จากกองทุนเทมเพิลตัน ซึ่งเป็นกองทุนข้ามชาติยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา สำหรับหุ้นที่กองทุนเทมเพิลตันสนใจเข้าลงทุนส่วนมากจะเป็นหุ้นที่มีการเติบโตสูง และประเมินแล้วว่าจะให้ผลตอบแทนที่มีความยั่งยืนตรงกับนโยบายว่าต้องเป็นการลงทุนระยะยาว และจากการเข้าลงทุนใน CGD ครั้งนี้จะทำให้บริษัทฯ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนกลุ่มต่างๆ เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะนักลงทุนสถาบัน

กองทุนเทมเพิลตัน เป็นบลจ. ขนาดใหญ่จากประเทศสหรัฐอเมริกา มีเครือข่ายให้บริการการจัดการด้านการลงทุน ระดับโลกแก่ลูกค้ารายย่อยและสถาบันการเงินในกว่า 170 ประเทศ มีความชำนาญในการบริหารสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ทั้งตราสารทุน ตราสารหนี้ และสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องอื่นๆ โดยเฉพาะการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ซึ่งถือเป็นตลาดการลงทุนที่กำลังเป็นที่จับตามองของนักลงทุนในปัจจุบัน โดยปัจจุบันมีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนกว่า 650 คนทั่วโลก โดยมีสำนักงานในกว่า 33 ประเทศ มีประสบการณ์การลงทุนมากกว่า 70 ปีและมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) กว่า 3 หมื่นล้านบาท

นอกเหนือจากโครงการเจ้าพระยาเอสเตทแล้ว CGD ยังเตรียมจะพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสาน (Mixed-use Development) มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท ในอำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อรองรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อีกด้วย

ขณะที่ผลการดำเนินงานในปี 2560 กลุ่มบริษัทฯมีรายได้รวมจำนวน 1,107.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87.71% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 590.07 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการับรู้รายได้การโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุดโครงการอิลีเมนท์ ศรีนครินทร์ ที่มีเข้ามากว่า 908.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 158% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 351.56 ล้านบาท