เจอร์ดี้ นาวารา เชฟเจ้าของร้าน จะเข้ารับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ในงานประกาศผลรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชียครั้งที่ 6 อย่างเป็นทางการในวันที่ 27 มีนาคม 2561 ที่มาเก๊า สนับสนุนการจัดงานโดย ซานเพลเลกริโน และ แอคคัว แพนนา (S.Pellegrino & Acqua Panna)
วิลเลี่ยม ดรูว์ บรรณาธิการกลุ่มของ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย กล่าวว่า "ร้านอาหาร Toyo Eatery แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณของรางวัลร้านอาหารที่น่าจับตามองโดย มิเอเล่ ด้วยเมนูอาหารแบบดั้งเดิมอันหลายหลาย ที่ถือเป็นการเฉลิมฉลองวัฒนธรรมท้องถิ่น เชฟเจ้าของร้าน เจอร์ดี้ นาวารา คือเด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์ ผู้มีฝีมืออันเหนือชั้นในด้านอาหาร และการนำเสนอแต่ละเมนูที่เปี่ยมด้วยความคิดสร้างสรรค์ ทั้งยังมีความแม่นยำ และใส่ใจในรายละเอียดอีกด้วย"
ชื่อร้าน Toyo มาจากคำในภาษาฟิลิปปินส์ หมายถึง "ซอสถั่วเหลือง" สะท้อนถึงปรัชญาของ เจอร์ดี้ นาวารา นั่นคือ เมนูของ Toyo Eatery ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัตถุดิบทั่วไปที่มีอยู่ท้องถิ่น ผนวกกับเทคนิคการกลั่นและเลเยอร์ที่ซับซ้อน เจอร์ดี้ นาวาราและ เมย์ ภรรยาของเขา ผู้ซึ่งเป็นผู้ดูแลร้านอาหาร มีความมุ่งมั่นที่จะเชิดชูวัฒนธรรมท้องถิ่น และประเพณีการทำอาหารในแบบฟิลิปปินส์มาตีความใหม่ และทำให้ดูมีความทันสมัยยิ่งขึ้น อาหารแต่ละจานจึงถูกดีไซน์ให้สื่อถึงความเฉพาะตัวในแบบฟิลิปปินส์ ทั้งรสชาติและวิธีการทำ รวมไปถึงการใช้ชุดจานชาม ช้อน และของตกแต่งที่ถูกดดยศิลปินท้องถิ่น รวมถึงเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งร้าน
ความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมของ เจอร์ดี้ นาวารา ถูกถ่ายทอดผ่านเมนูของร้าน Toyo Eatery ที่เขาได้สร้างสรรค์ อย่างเช่นอาหารจานเด่น 'Garden Vegetables' ที่นำบทเพลงพื้นเมืองที่กล่าวถึงพืชพันธุ์ผัก 18 ชนิด ของฟิลิปินส์ มาเป็นต้นแบบในการสร้างสรรค์ เพื่อเป็นการย้อนรำลึกนึกถึงอดีตในวัยเด็ก และชีวิตความเป็นอยู่ในฟิลิปปินส์ อาหารของเขาจึงมีพืชผักทั้ง 18 ชนิดดังกล่าวเป็นส่วนผสมในการปรุงอาหารที่แตกต่างกันไป ทั้งย่าง ผัด บด หรือ ทำให้เป็นซุปเข้มข้น
เจอร์ดี้ นาวารา กล่าวว่า "ตั้งแต่เริ่มแรก เป้าหมายของร้าน Toyo Eatery ได้วางให้เป็นการนำความเป็นฟิลิปปินส์มีคิดใหม่ทำใหม่รวมถึงการค้นพบ และเข้าใจวัฒนธรรมฟิลิปปินส์อย่างถ่องแท้ผ่านอาหารแต่ละจาน ร้าน Toyo Eatery กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 2 รางวัลนี้จึงเป็นเสมือนของขวัญที่เราไม่เคยคาดคิดมาก่อน และการได้รับรางวัลร้านอาหารที่น่าจับตามองโดย มิเอเล่ ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง เราขอขอบคุณสำหรับความชื่มชม และรับรู้ในสิ่งที่พวกเราทำ ร้านของเราถึงแม้เพิ่งเริ่มต้น และมีอะไรหลายอย่างที่ต้องทำอีกมากมาย แรงบันดาลใจของเราคือการเรียนรู้จากเชฟคนอื่นๆ ที่ปรากฏรายชื่ออยู่ใน 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชียด้วย"
เจอร์ดี้ นาวารา ได้เริ่มเส้นทางอาชีพของเขาในร้านอาหารอันโด่งดังและเป็นตำนาน The Fat Duck ของ เฮสตัน มาร์ค บลูเมนธัล (Heston Blumenthal) ที่แห่งนี้เขาได้ฝึกฝีมือ ทักษะ และเทคนิคทางด้านอาหารอันหลากหลาย พร้อมทั้งแนวทางของการทำอาหารในรูปแบบใหม่ๆ ต่อมาเขากลับมาประกอบอาชีพในเอเชียอีกครั้ง ณ ร้านอาหาร โบ อินโนเวชั่น (Bo Innovation) ที่ฮ่องกง ก่อนจะย้ายมายังกรุงมะนิลา และเปิดร้านอาหารแบล็ค ชีพ (Black Sheep) ในปี พ.ศ.2557 เขาและภรรยาได้เปิดร้านอาหารอีกแห่งโดยตั้งชื่อว่า 'Toyo Eatery' ในปี พ.ศ.2559 ซึ่งร้านอาหารแห่งนี้ให้บริการอาหารชุดมื้อค่ำที่มีให้เลือกแบบ 3คอร์ส หรือ 11 คอร์ส และแบบจานเดี่ยว หรือ อะ ลา คาท (à la carte)
"Toyo Eatery สร้างความประทับใจให้กับพวกเรา ด้วยการนำวัตถุดิบและสูตรอาหารท้องถิ่นที่ใช้ประกอบอาหารในชีวิตประจำวัน มาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เมนูและใช้ความหลงใหลในการทำอาหารที่มีมีอยู่ในตัวตนผลักดันทั้งสองสิ่งนี้ไปสู่ความเป็นสุดยอดของการทำอาหาร ด้วยความชำนาญ และความเป็นเลิศในวิธีการนำเสนอจานอาหาร แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการ" มาริโอ มิแรนด้า กรรมการผู้จัดการประจำภาคพื้นเอเชียมิเอเล่ กล่าวเสริม "ด้วยทัศนคติที่มีเหมือนกันกับ มิเอเล่ ทั้งในด้านของความไม่หยุดนิ่ง การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และนวัตกรรมต่างๆ อันเป็นส่วนหนึ่งของปรัชญาของแบรนด์มิเอเล่ นั่นคือ'Immer Besser' ในปีนี้เราจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มอบรางวัล ร้านอาหารที่น่าจับตามองโดยมิเอเล่นี้ ให้แก่ เจอร์ดี้ นาวารา และทีมงานทุกคนของToyo Eatery"
นอกจากนี้ทางมิเอเล่ จะเข้าร่วมในงาน #50BestTalks ซึ่งเป็นเวทีพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับอาหารในภูมิภาค และแนวโน้มของวงการอาหาร ในวันจันทร์ที่ 26 มีนาคม 2561 ณ ห้อง แกรนด์บอลรูม โรงแรมวินน์ มาเก๊า ตั้งแต่เวลา 10.00 – 13.15 น. ด้วย ที่จัดขึ้นโดย คณะผู้จัดงาน 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย ซึ่งตลอดครึ่งวันของการประชุมภายใต้หัวข้อ "Exploring Identity" จะประกอบด้วย การสนทนา การนำเสนอที่สร้างแรงบันดาลใจ และ การสัมภาษณ์เชฟชั้นนำผู้มีชื่อเสียงของเอเชีย อาทิ
การรวบรวมรายชื่อ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมในเอเชีย
รายชื่อ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชียจัดทำขึ้นจากผลโหวตของ 50 Best Restaurants Academy เป็นกลุ่มของผู้นำในธุรกิจอาหารกว่า 300 รายจากทั่วภูมิภาคเอเชีย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่มีทัศนะ และประสบการณ์ที่คร่ำหวอดในวงการธุรกิจอาหารของเอเชีย โดยคณะกรรมการในแต่ละภูมิภาค ประกอบด้วย นักเขียน และนักวิจารณ์อาหาร เชฟ ผู้ประกอบการร้านอาหาร และผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็น 'นักชิม' สมาชิกให้คะแนนตัวเลือกของตัวจากความชอบ โดยการคัดเลือกร้านจากความชอบจากประสบการณ์ที่ได้รับจากร้านอาหารที่ยอดเยี่ยมที่สุดในรอบ 18 เดือนที่ผ่านมา โดยไม่มีการกำหนดเกณฑ์ล่วงหน้า แต่การลงคะแนนนั้นจะเป็นไปตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด
งานประกาศรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย ประจำปี 2561 เป็นการกลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้งกับพันธมิตรอย่างดีลอยต์ (Deloitte) บริษัทที่ปรึกษาอิสระอย่างเป็นทางการ การตัดสินจากดีลอยต์สามารถมั่นใจในความโปร่งใส และมาตรฐานที่น่าเชือถือ ขั้นตอนในการลงคะแนน โดยผลการตัดสินรางวัลประเภทต่างๆ นั้นถูกต้องและเที่ยงตรง ติดตามรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับผลการประกาศผลรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย ได้ที่http://www.theworlds50best.com/asia/en/our-manifesto.html
วิลเลียม รีด บิสสิเนส มีเดีย
รายชื่อ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย จัดพิมพ์โดยวิลเลียม รีด บิสสิเนส มีเดีย ซึ่งเป็นผู้พิมพ์ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมในโลก โดยเริ่มเผยแพร่ครั้งแรกในปี 2545 และ 50ร้านอาหารยอดเยี่ยมของลาตินอเมริกา ซึ่งเผยแพร่ตั้งแต่เดือนกันยายน 2556 วิลเลี่ยม รีด บิสสิเนส มีเดีย ดูแลรับผิดชอบทั้งหมดในเรื่องการจัดงานประกาศรางวัล ระบบการลงคะแนนเสียง และรายชื่อทั้งหมด
เกี่ยวกับเจ้าภาพการจัดงาน: มาเก๊า
มาเก๊า เป็นจุดหมายปลายทางที่มีขนาดเล็ก แต่เต็มไปด้วยมนต์ขลังที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายล้านคนในแต่ละปี ด้วยมรดกสืบทอดอันเป็นเอกลักษณ์ รีสอร์ทที่ทันสมัยครบวงจร ปฏิทินกิจกรรมมากมายตลอดทั้งปี และชื่อเสียงด้านอาหารที่หลากหลายพร้อมให้ผู้มาเยือนเมืองแห่งนี้ได้สัมผัส อาหารมาเก๊าเป็นการผสมผสานของวัฒนธรรมระหว่างตะวันออกและตะวันตกที่หลอมรวมมานานหลายศตวรรษ มาเก๊าได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก UNESCO Creative Cities Network (UCCN) ในด้านอาหารการกิน เป็นแรงกระตุ้นอันทรงพลังให้เมืองแห่งนี้ก้าวต่อไปข้างหน้าในฐานะปลายทางแห่งการท่องเที่ยวที่หลากหลายอย่างยั่งยืนต่อไป
เกี่ยวกับผู้สนับสนุนหลัก: ซาน เพลลีกรีโน และ แอคคัว แพนนา
ซาน เพลลีกรีโน และ แอคคัว แพนนา (S.Pellegrino & Acqua Panna) คือผู้สนับสนุนหลักของงานประกาศผลรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย (Asia's 50 Best Restaurants) ซาน เพลลีกรีโน และ แอคคัว แพนนา คือ แบรนด์ของน้ำแร่ชั้นดีจากแหล่งผลิตคุณภาพเยี่ยม นำเสนอไลฟ์สไตล์ในแบบฉบับอิตาเลียน ซึ่งแพร่หลายไปทั่วโลก ทั้งในด้านการผสมผสานความเป็นเลิศ ความรื่นรมย์ในการบริโภค และการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข
เกี่ยวกับผู้สนับสนุนรางวัล: มิเอเล่
มิเอเล่ ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านระดับพรีเมี่ยมชั้นนำของโลก อันได้แก่ อุปกรณ์เครื่องใช้สำหรับประกอบอาหาร อบ และนึ่ง รวมถึงอุปกรณ์ทำความเย็น เครื่องชงกาแฟ เครื่องล้างจาน ผลิตภัณฑ์ซักผ้าและดูแลพื้น ทั้งยังได้ขยายการผลิตกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ในธุรกิจขนาดใหญ่ อาทิ เครื่องล้างจาน เครื่องซักสลัดผ้า และ เครื่องอบผ้า รวมทั้ง เครื่องซักผ้า และฆ่าเชื้อที่ใช้สำหรับทางการแพทย์และห้องปฏิบัติการ บริษัทมิเอเล่ ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2442 มีโรงงานผลิต 8 แห่งในเยอรมนี และในประเทศอื่นๆ ได้แก่ ออสเตรีย สาธารณรัฐเช็ก จีน และโรมาเนีย ประเทศละ 1 แห่ง มีผลประกอบการปี 2559/60 มีรายได้ราว 3.93 พันล้านยูโร มียอดขายประเทศต่างๆ นอกเหนือเยอรมนี ร้อยละ70 แบรนด์ มิเอเล่ บริหารงานขาย ผ่านทั้งคู่ค้ารายย่อยและผู้นำเข้าจากเกือบ 100 ประเทศ ปัจจุบัน มิเอเล่ ดำเนินกิจธุรกิจแบบกรรมสิทธิ์ครอบครัวเป็นรุ่นที่ 4 มีพนักงานประมาณ 19,500 ราย อยู่ในเยอรมนี 10,900 ราย สำนักงานใหญ่ของ บริษัท ตั้งอยู่ที่เมือง กูทเทอร์สโลห์ (Guetersloh) / เวสต์ฟาเลีย (Westphalia) เยอรมนี
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit