วิลเลียม ดรูว์ บรรณาธิการกลุ่มของ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย กล่าวว่า "การสร้างสรรค์ที่เหนือกว่าผู้อื่นของ นิโคลัส แลมเบิร์ท คือแรงบันดาลใจอย่างแท้จริง ขนมที่ประณีตละเอียดอ่อนสะท้อนให้เห็นถึงความพิถีพิถันในรายละเอียดต่างๆ ความสมบูรณ์แบบและความเชี่ยวชาญที่มีแต่ดั้งเดิมในการผสมผสานของรสชาติของเขา"
นิโคลัส แลมเบิร์ท เกิดและเติบโตในครอบครัวทำขนม เขาได้ฝึกฝนทักษะกับเชฟทำขนมชาวฝรั่งเศสชื่อดังระดับโลกหลายคน อาทิ คริสโตเฟอร์ มีชลัค (Christophe Michalak) แห่งโรงแรมพลาซ่าแอทธีนี ในกรุงปารีส เริ่มต้นอาชีพเชฟครั้งแรกที่ พาทีสเซอรี่ ดู มิวเซ (Pâtisserie du Musee) ที่ เมืองเอปินาล ทักษะในการทำอาหารของเขาเริ่มเด่นชัดขึ้นเมื่อเขาอายุยังน้อย เมื่อมีอายุได้ 21 ปี เขาได้สมัครเข้าร่วมการแข่งขันในรายการ Festival National des Croquembouches และถึงแม้ว่าการแข่งขันนี้ต้องต่อสู้กับเชฟชาวฝรั่งเศสที่มากประสบการณ์หลายคน แต่เขาคือผู้เข้าแข่งขันที่มีอายุน้อยที่สุดและเป็นผู้ชนะเลิศในการแข่งขันครั้งนั้น
จากความสำเร็จที่เขาได้สร้างขึ้น แลมเบิร์ท ได้รับการแต่งตั้งเป็นเชฟขนมอบ ที่ พาทีสเซอรี เซบาสเตียน บุยเย่ (Pâtisserie Sebastien Bouillet) เมืองลียง ต่อมาแลมเบิร์ท ฝึกฝนทักษะกับเชฟทำขนมชาวฝรั่งเศสดังระดับโลกหลายคน อาทิ คริสโตเฟอร์ มีชลัค (Christophe Michalak) แห่งโรงแรมพลาซ่าแอทธีนี ในกรุงปารีส โดยที่โรงแรมแห่งนี้เองเขาเป็นดูแลเมนูขนมหวานอันเป็นที่เลื่องลือและชายามบ่ายในตำนาน
ในปี พ.ศ. 2558 เชฟแลมเบิร์ท ได้ร่วมงานกับโรงแรมโฟร์ ซีซั่น ฮ่องกง ในตำแหน่งเพสตรี้เชฟ ของห้องอาหาร Caprice ขนมหวานจานเด่นที่เขาสร้างสรรค์สะท้อนสไตล์ของเขา โดยการเล่นกับรูปทรงจากความเป็นไปได้ของส่วนผสมทั้งผลไม้ น้ำตาล ไข่ขาว แป้ง และช็อคโกแลต ความเก่งกาจในการสร้างสรรค์โครงสร้างของเชฟ แลมเบิร์ท เป็นที่ดึงดูดลูกค้าจากทั่วทุกมุมโลก พิสูจน์ได้อินสตาแกรมของเขาที่มีผ้ติดตามมากกว่า 88,000 คน
"วัลโรน่า (Valrhona) ขอแสดงความยินดีกับเชฟนิโคลัส แลมเบิร์ท ที่ได้รับรางวัลเพสตรี้เชฟยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย" เวนเซลาซ เวดริโชว์สกี้ (Wenceslas Wedrychowski) ผู้จัดการเขตของวัลโรน่า เอเชีย-แปซิฟิค กล่าว และเสริมว่า "รางวัลนี้สะท้อนถึงความทุ่มเทและความกระตือรือร้นสำหรับโลกของขนม นับตั้งแต่วันที่เขาได้เข้ามาอยู่ในอุตสาหกรรมนี้ ยิ่งไปกว่านั้นการสร้างสรรค์ของเขายังเป็นแรงบันดาลใจและเป็นที่หลงใหลเป็นอย่างมาก ในนามของวัลโรน่า เราขออวยพรให้เชฟนิโคลัส พบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ต่อไปในอนาคต"
การรวบรวมรายชื่อ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมในเอเชีย
รายชื่อ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชียจัดทำขึ้นจากผลโหวตของ 50 Best Restaurants Academy เป็นกลุ่มของผู้นำในธุรกิจอาหารกว่า 300 รายจากทั่วภูมิภาคเอเชีย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่มีทัศนะ และประสบการณ์ที่คร่ำหวอดในวงการธุรกิจอาหารของเอเชีย โดยคณะกรรมการในแต่ละภูมิภาค ประกอบด้วย นักเขียน และนักวิจารณ์อาหาร เชฟ ผู้ประกอบการร้านอาหาร และผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็น 'นักชิม' สมาชิกให้คะแนนตัวเลือกของตัวจากความชอบ โดยการคัดเลือกร้านจากความชอบจากประสบการณ์ที่ได้รับจากร้านอาหารที่ยอดเยี่ยมที่สุดในรอบ 18 เดือนที่ผ่านมา โดยไม่มีการกำหนดเกณฑ์ล่วงหน้า แต่การลงคะแนนนั้นจะเป็นไปตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด
งานประกาศรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย ประจำปี 2561 เป็นการกลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้งกับพันธมิตรอย่างดีลอยต์ (Deloitte) บริษัทที่ปรึกษาอิสระอย่างเป็นทางการ การตัดสินจากดีลอยต์สามารถมั่นใจในความโปร่งใส และมาตรฐานที่น่าเชือถือ ขั้นตอนในการลงคะแนน โดยผลการตัดสินรางวัลประเภทต่างๆ นั้นถูกต้องและเที่ยงตรง ติดตามรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับผลการประกาศผลรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย ได้ที่ http://www.theworlds50best.com/asia/en/our-manifesto.html
หมายเหตุถึงบรรณาธิการ
วิลเลียม รีด บิสสิเนส มีเดีย
รายชื่อ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย จัดพิมพ์โดยวิลเลียม รีด บิสสิเนส มีเดีย ซึ่งเป็นผู้พิมพ์ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมในโลก โดยเริ่มเผยแพร่ครั้งแรกในปี 2545 และ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมของลาตินอเมริกา ซึ่งเผยแพร่ตั้งแต่เดือนกันยายน 2556 วิลเลี่ยม รีด บิสสิเนส มีเดีย ดูแลรับผิดชอบทั้งหมดในเรื่องการจัดงานประกาศรางวัล ระบบการลงคะแนนเสียง และรายชื่อทั้งหมด
เกี่ยวกับเจ้าภาพการจัดงาน: มาเก๊า
มาเก๊า เป็นจุดหมายปลายทางที่มีขนาดเล็ก แต่เต็มไปด้วยมนต์ขลังที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายล้านคนในแต่ละปี ด้วยมรดกสืบทอดอันเป็นเอกลักษณ์ รีสอร์ทที่ทันสมัยครบวงจร ปฏิทินกิจกรรมมากมายตลอดทั้งปี และชื่อเสียงด้านอาหารที่หลากหลายพร้อมให้ผู้มาเยือนเมืองแห่งนี้ได้สัมผัส อาหารมาเก๊าเป็นการผสมผสานของวัฒนธรรมระหว่างตะวันออกและตะวันตกที่หลอมรวมมานานหลายศตวรรษ มาเก๊าได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก UNESCO Creative Cities Network (UCCN) ในด้านอาหารการกิน เป็นแรงกระตุ้นอันทรงพลังให้เมืองแห่งนี้ก้าวต่อไปข้างหน้าในฐานะปลายทางแห่งการท่องเที่ยวที่หลากหลายอย่างยั่งยืนต่อไปClick here เพื่อติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit