Stormไม่เพียงแต่มีดีไซน์ที่หรูหรา ล้ำสมัย การออกแบบที่เน้นโฟกัสไปที่ประสบการณ์และตอบโจทย์ในการทำงานจริงของบาริสต้ามืออาชีพ ผ่านการคิดค้นพัฒนาร่วมกันของทั้งสองบริษัท ผ่านการทดลองและทดสอบมาแรมปี โดยได้บริษัทดีไซน์ระดับโลก "Adriano Design" ก่อให้เกิดเครื่อง Espresso Machine ที่มีอัตลักษณ์โดดเด่น ให้ผู้ที่ควบคุมเครื่อง เคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว เป็นอิสระ เต็มไปด้วยจิตวิญญาณที่บ่งบอกความเป็นผู้นำทางด้านดีไซน์และนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทุกแนวคิดของบาริสต้ามืออาชีพ
Astoria Storm ควบคุมด้วยระบบ Touch Screen และสร้างความแตกต่างด้วยระบบ Super Dry Steam ที่สามารถสร้างไอน้ำที่แห้ง สกัดน้ำออกได้เกือบหมดในเวลาที่สตีมนม ให้ Latte ทุกแก้วมีเทสต์ที่บาลานซ์ ได้รสชาติอิ่มเอมของนมและกาแฟเต็มอิ่ม ควบคุมอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำด้วย Platinum Sensor สามารถกำหนด Ratio ปริมาณกรัมของกาแฟต่อปริมาณน้ำที่แม่นยำพิเศษ และระบบ FRC (Flow Rate Control) บาริสต้าสามารถกำหนด Profile การชงได้อย่างอิสระโดยจะแสดง Brewing Curves ผ่านหน้าจอ ควบคุมและเก็บข้อมูลการชงได้ในเวลาเดียวกัน อีกทั้งสามารถเซ็ตระบบการสื่อสารผ่าน Wireless Cloud Server เมื่อต้องการควบคุมหลายๆ เครื่องด้วยคำสั่งเดียว ล้ำนำหน้าด้วยเทคโนโลยี Green Soul สามารถประหยัดพลังงานสูงสุดได้ถึง 47.6% ทั้งหมดนี้เป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งในศักยภาพเหนือจินตนาการของ Astoria Storm ที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นมาสำหรับบาริสต้า โปรเฟสชั่นแนลอย่างแท้จริง
ภายในงานนอกจากการโชว์เคสความสามารถของเครื่องชงกาแฟระดับโลก Astoria – Storm แล้ว ยังขาดเสียไม่ได้ถ้าไม่ได้พูดถึงเครื่องบดกาแฟคุณภาพพรีเมี่ยมแบรนด์ "Compak" จากประเทศสเปน ที่บาริสต้า
มืออาชีพเลือกใช้ทั่วโลก โดยร่วมเปิดตัว PK Series รุ่นล่าสุดในตระกูล PK ทั้ง 4 โมเดลท็อป ได้แก่ PKR, PKF, PKE, และ PK Hybrid ซึ่งมีความสามารถการสกัดกาแฟได้สูงขึ้น ด้วย Parallelism High Yield Extraction Burrs ให้ความแม่นยำ สม่ำเสมอในการบดกาแฟ ด้วย Technology Grind by Weight, และ Slow Cold Grinding จากสายการผลิตเครื่องแรกมาโชว์ในงานนี้เช่นกัน ซึ่งในงานนี้ยังได้ปรับโฉมสถานที่การจัดงานให้ Lhong 1919 ได้พลิกโฉมกลายเป็น "Museum of an Innovative Art Space" เพื่อโชว์เคสโปรดักส์ระดับโลกของทุกแบรนด์ ให้เหล่า Cafegoers ได้เข้าร่วมแชร์เรื่องราวดีๆ อีกด้วย
นายชาตรี ตรีเลิศกุล ซีอีโอ บริษัท พีเบอร์รี่ จำกัด กล่าวว่า "พีเบอร์รี่ และทีมงานทุกคนรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ผู้บริหารทั้ง 2 ทีม Astoria และ Compak ให้โอกาสทางบริษัทเป็นตัวแทนของหลายๆ ประเทศในโลกในการเปิดตัว Astoria – Storm และ Compak PK Series ในครั้งนี้ ด้วยสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมายาวนานระหว่างแบรนด์ และความเชื่อมั่นที่ Astoria และ Compak ให้เป็นตัวแทนในการจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ทำให้เรามีความมั่นใจใน products เพื่อส่งต่อให้ฐานลูกค้าในประเทศไทยเพื่อที่จะได้รับสินค้าที่ดีที่สุดเสมอทั้งในด้านดีไซน์ คุณภาพ และ บริการหลังการขาย เพราะใจความสำคัญในการดำเนินธุรกิจที่มีมากว่า 15 ปีของพีเบอรรี่คือเราต้องการนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับทุกหน่วยที่ทำงานร่วมกันกับเรา ไม่ว่าจะเป็นพาร์ทเนอร์ ลูกค้าร้านกาแฟหรือธุรกิจในวงการกาแฟทั้งหมด ผลักดันให้เรามองหาสิ่งใหม่ๆ ทั้งด้านเทคโนโลยี สินค้า และความสะดวกสบาย เพราะเราต้องการที่จะส่งต่อความ professional ทั้งในแง่ความคิด ความรู้ และความช่วยเหลือ ให้สมกับความพยายามที่เรามีมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เพื่อบรรลุเป้าหมายในการเป็นที่หนึ่งในใจผู้บริโภค อีกทั้งเดินเคียงข้างเป็นเพื่อนทางธุรกิจ ที่จะเติบโตไปด้วยกันอย่างไม่มีวันสิ้นสุด"
ทางด้าน Mr. Federico Alessandro Gallia – Astoria Chairman กล่าวว่า "Astoria ภูมิใจอย่างมากกับการเปิดตัว Astoria – Storm ในประเทศไทย เครื่องชงกาแฟรุ่นนี้เป็นความภาคภูมิใจของบริษัทและเป็นตัวแทนสินค้ารุ่นใหม่ที่นำเสนอมุมมองที่ก้าวไกลขึ้นของ Astoria ในขณะที่บาริสต้าเองก็สามารถที่จะสนุกกับงานสร้างสรรค์ของตนเอง เป็นตัวเองได้เต็มที่ และเพลิดเพลินไปกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ผสมผสานทำให้งานง่ายขึ้น Storm ถูกออกแบบโดยบริษัทดีไซน์ที่มีชื่อเสียงมากในอิตาลี คือ "Adriano Design" และอีกจุดที่สำคัญคือคำแนะนำอันเป็นประโยชน์ที่มาจากทีมผู้เชี่ยวชาญ และมากประสบการณ์จาก พีเบอร์รี่ ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์กับเรา (Astoria Official Partner) ที่ทำให้เครื่อง Storm มีความสมบูรณ์อย่างแท้จริง เรารู้สึกขอบคุณและเป็นเกียรติที่ได้ทำงานร่วมกัน"
พบกับกิจกรรมด้านกาแฟ จากทางบริษัท พีเบอร์รี่ จำกัด และโรงคั่วกาแฟพาคามาร่าได้ที่ http://www.peaberryltd.com/
Facebook.com/peaberrylimited
Facebook.com/PacamaraCoffee
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit