ดร.บรรพต วัฒนสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด เปิดเผยว่า "ในปี 2560 ถือเป็นปีที่อาร์ทีบีฯ ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยสามารถทำลายสถิติด้วยการปิดยอดขายได้อย่างสวยงาม คิดเป็นอัตราการเติบโตกว่า 48% เมื่อเทียบกับปี 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าอาร์ทีบีฯ เติบโตสวนทางกับตลาดรวม ที่พบว่ามีอัตราการเติบโตไม่มากนัก จากปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยกลุ่มหูฟังและลำโพงบูลทูธ เป็นหัวหอกในการสร้างรายได้ มียอดจำหน่ายคิดเป็นสัดส่วน 40% สำหรับปัจจัยสำคัญของความสำเร็จมาจากการวางกลยุทธ์แบรนด์ที่ลงตัว ทำให้พอร์ตรายได้ มีการกระจายตัวอย่างสมดุลย์ รวมถึงนวัตกรรมที่อาร์ทีบีฯ นำเข้ามาทำตลาดล้วนเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งและมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในตลาด ไม่ว่าจะเป็น หูฟังไร้สายจาบร้า (Jabra), ลำโพงและหูฟังจากบีแอนด์โอ (B&O), โซนี่ (Sony), หูฟังออดิโอ เทคนิก้า (Audio-Technica), กล้องติดรถยนต์ดีโอดี (DOD), อุปกรณ์การชาร์จไฟเอ็นเนอร์เจีย (Energea), เคสและกระเป๋าไอโฟนระดับไฮเอ็นด์ ไอดีลออฟสวีเดน (iDeal of Sweden), เคสและกระเป๋ายูนีค (Uniq), กล้องไว-ไฟโมโตโรล่า (Motorola), หูฟังฟิลิปส์ (Philips), แท่นชาร์จเดอะคูปไอเดีย (The Coopidea) และสมานอส (Smanos)"
สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้ อาร์ทีบีฯ ยังคงเดินหน้าสานต่อความเป็นผู้นำอุปกรณ์เชื่อมต่อ (Connected Device) สู่ตลาดอย่างเต็มตัว ด้วยการร่วมกับแบรนด์ระดับโลกที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยนำผลิตภัณฑ์เข้ามาขยายตลาดให้ครอบคลุมเซ็กเม้นต์ที่กำลังเติบโต พร้อมนำเสนอนวัตกรรมใหม่ที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ความต้องการของผู้บริโภคยิ่งขึ้น โดยล่าสุดได้ส่งสุดยอดนวัตกรรมหูฟังอัจฉริยะจาบร้า (Jabra) ลุยตลาดพร้อมกันถึง 3 รุ่นใหม่ คือ "Jabra Elite 45e" "Jabra Elite 65t" และ "Jabra Elite Active 65t" ซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่สุดล้ำ True Wireless และระบบตัดเสียงรบกวนรอบทิศทางรุ่นใหม่ล่าสุดเพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์การฟังเพลงหลากหลายในทุกที่ทุกเวลาได้อย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นคุณวิมลมาลย์ วัฒนสมบัติ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า จากประสบการณ์ที่อาร์ทีบีฯ ทำธุรกิจในตลาดนี้มามากกว่า 10 ปี สามารถพูดได้ว่า จาบร้า (Jabra) เป็นแบรนด์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับหูฟังบลูทธูมาอย่างยาวนาน จาบร้าไม่เคยหยุดนิ่งในการคิดค้นและพัฒนาเพื่อให้ได้หูฟังที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในการใช้งานหูฟังกับตัวดีไวซ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเพื่อความบันเทิงอย่างการดูหนัง ฟังเพลง การใช้งานเพื่อการออกกำลังกาย การใช้งานด้านการสนทนา รวมไปถึงการสั่งงานด้วยเสียงที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยหูฟังของ Jabra ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมที่ยอดเยี่ยม ซึ่งมีเป้าหมายที่ต้องการจะตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในแต่ละกลุ่มได้อย่างดีที่สุด และสิ่งที่ Jabra นำเข้าสู่ตลาดนั้น มักจะเป็นนวัตกรรม ที่ล้ำหน้ากว่าคู่แข่งเสมอ ส่งผลให้แบรนด์จาบร้าเป็นที่นิยมไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย โดยในโอกาสนี้ Jabra ได้เปิดตัวสินค้า 3 ตัวใหม่ในตระกูล Elite ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Jabra for All of You and Only You" กล่าวคือ สินค้าทั้ง 3 รุ่นที่เปิดตัวในวันนี้นั้น สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้ใช้งานได้ 3 รูปแบบที่แตกต่างกันไป แต่ที่ทั้ง 3 รุ่นมีเหมือนกันคือ สามารถใช้งานร่วมกับ Jabra Sound+ ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าหูฟังแบบเฉพาะเจาะจงได้ตามความต้องการและเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง
สำหรับ Jabra Elite 65t เป็นสุดยอดหูฟังไร้สายระดับพรีเมี่ยมรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นเจนเนอรชั่นที่ 3 ของหูฟังไร้สายจากจาบร้า โดยเป็นหูฟังไร้สายแบบ True Wireless Stereo ซึ่งได้รับการพัฒนาและออกแบบอย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียดทั้งรูปทรงและฟังก์ชั่นการใช้งาน รวมถึงการเชื่อมต่อ ทำให้พกพาสะดวกและสวมใส่ได้สบายยิ่งขึ้น เอาใจคนทำงานที่รักในเสียงเพลงได้เพลิดเพลินกับการฟังเสียงดนตรีได้อย่างง่ายดายทุกที่ทุกเวลา และยังมาพร้อมกับไมโครโฟนถึง 4 ตัวที่วางอยู่ในตัวหูฟังเพื่อช่วยตัดเสียงลมและเสียงรบกวนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างสนทนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมาพร้อมฟังก์ชั่น Jabra Sound + ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งรูปแบบเสียงเพลง การสนทนา การรับรู้เสียงจากภายนอกด้วยตัวเองได้อย่างอิสระตามความต้องการ ทั้งยังรองรับการใช้งานด้วยเสียงอย่าง Siri, Google Now และ Amazon Alexa รวมถึงหูฟังมีปุ่มคอนโทรลต่างๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกในฟังเพลง การสนทนา และการสั่งงานด้วยเสียงอีกด้วย โดยสามารถรองรับการใช้งานต่อเนื่องถึงได้ 5 ชั่วโมง และเพิ่มขึ้นสูงสุดรวม 15 ชั่วโมง เมื่อใช้ตลับชาร์จไฟ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างยาวนานยิ่งขึ้น โดย Jabra Elite 65t พร้อมวางจำหน่ายในราคา 6,290 บาท
ขณะที่ Jabra Elite Active 65t จะเป็นหูฟังสำหรับคนชอบออกกำลังกาย หรือใช้ชีวิตแบบแอ็คทีฟ โดยฟังก์ชันทั้งหมดจะเหมือนกับ Jabra Elite 65t แต่จะเพิ่มเรื่องของการกันเหงื่อและฝุ่นละอองได้ตามมาตราฐาน IP56 มีเซ็นเซอร์วัดความเร่ง (Accelerometer) เพื่อช่วยในการเก็บข้อมูลการเคลื่อนไหวระหว่างออกกำลังกาย รวมทั้งตัวหูฟังเคลือบสารพิเศษที่จะทำให้สามารถสวมใส่ได้กระชับในทุกอริยาบท` Jabra Elite Active 65t พร้อมวางจำหน่ายในเดือนพฤษภาคม โดยมีราคา 6,990 บาท
สำหรับ Jabra Elite 45e เป็นหูฟังแบบอินเอียร์ดีไซน์เป็นแบบสายนิ่มคล้องคอ ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ในการฟังเสียงดนตรีที่มีคุณภาพสุดคมชัด ไปพร้อมๆ กับการใช้ชีวิตประจำวันที่แสนสะดวกสบายตลอดวัน ไม่ว่าจะทำงาน พักผ่อน หรือออกกำลังกายเบาๆ หูฟังอินเอียร์ของ Jabra Elite 45e ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษด้วยดีไซน์รูปทรงรีมีเอกลักษณ์ และกระชับสบายสูงสุด โดยมาพร้อมไดร์ฟเวอร์ขับเสียงขนาด 10 ม.ม. ให้เสียงเบสได้อย่างเต็มอารมณ์ รวมทั้งไมโครโฟนที่ออกแบบมาเป็นพิเศษที่ช่วยในการตัดเสียงลมและเสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อมรอบข้างทำให้สามารถรับเสียงได้อย่างคมชัด ขณะที่ตัวหูฟังผลิตจากวัสดุชั้นเยี่ยม ทำให้หูฟังมีน้ำหนักเบา คล่องตัวขณะใช้งาน และไม่ระคายเคืองบริเวณสวมใส่ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมแบตเตอรี่อันทรงพลัง เพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับทุกการใช้งานอย่างเต็มอรรถรส ทั้งการฟังเพลงและการสนทนาต่อเนื่องยาวนานถึง 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง อีกทั้งยังสามารถกันละอองเหงื่อและน้ำได้ระดับ IP54 โดย Jabra Elite 45e พร้อมวางจำหน่ายในราคา 3,490 บาท
"ด้วยจุดเด่นของเทคโนโลยีและการออกแบบนวัตกรรมหูฟังบลูทูธที่ล้ำหน้าที่สุดในท้องตลาด รวมถึงการรับประกันถึง 2 ปีเต็มในซีรีย์ Elite ทำให้เรามั่นใจว่านวัตกรรมหูฟังจาบร้า (Jabra) ทั้ง 3 รุ่นใหม่นี้ จะประสบความสำเร็จดังเช่นรุ่นต่างๆ ที่เปิดตัวสู่ตลาดก่อนหน้านี้ และจะช่วยดันยอดขายของอาร์ทีบีฯ ในปีนี้ให้เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย" ดร.บรรพต กล่าวทิ้งท้าย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit