ทั้งนี้ผู้ว่าการการเคหะฯ ยังเดินหน้าร่วมมือกับภาคเอกชนไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการรายเล็กแบบ SME Start up หรือผู้ประกอบการรายใหญ่ในวงการธุรกิจก่อสร้างหรืออสังหาริมทรัพย์ เพื่อเร่งโครงการก่อสร้างที่พักอาศัยเพิ่มเติมเพื่อตอบสนองคอนเซ็ปต์บ้านในยุคไทยแลนด์ 4.0 ในรูปแบบ mixed use คือ บ้าน คอมมูนิตี้มอลล์ และศูนย์ดูแลสุขภาพเพื่อผู้สูงวัยตลอดจนรองรับผู้ที่มีรายได้น้อย ถึงปานกลาง ขณะนี้มีผู้ให้ความสนใจเข้ามารับข้อเสนอเป็นจำนวนมากกว่า 40 ราย โดยการเคหะแห่งชาติพร้อมเป็นผู้ให้คำปรึกษาในทุกๆ ด้าน โดยเปิดแนวคิด joint investment ทำโครงการบนที่ดินตัวเองร่วมเอกชนและjoint operation เพื่อเป็นพี่เลี้ยงให้ภาคเอกชนที่มีที่ดินเป็นของตัวเอง พร้อมจัดหาสถาบันทางการเงินและบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างและโครงการที่พักอาศัยทั้งขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่เพื่อรองรับความต้องการของผู้ประกอบการธุรกิจที่สนใจร่วมลงทุน โดยมีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกและพิจารณาผู้ที่ผ่านคุณสมบัติการประมูลราคาและเป็นไปตามเกณฑ์ ข้อปฏิบัติ ตามกรอบนโยบายที่การเคหะฯ กำหนด ทั้งนี้เพื่อผลักดันโครงการที่พักอาศัยให้รองรับประชาชนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศต่อไป ดร.ธัชพล ผู้ว่าการ การเคหะฯ กล่าวเพิ่มเติมว่าซึ่งภายในระยะเวลาอันใกล้นี้การก่อสร้างโครงการที่พักอาศัยขนาดเล็กในวงเงินไม่เกิน 100 ล้าน จะสามารถดำเนินการได้และเสร็จได้ในระยะเวลาอันไม่นานและโปรเจคท์โครงการขนาดใหญ่แบบ PPP จะเป็นแผนต่อไปในการพัฒนาที่พักอาศัยในพื้นที่เขตเศรษฐกิจ EEC ต่อไป ผู้ประกอบการสนใจที่ร่วมลงทุนทำธุรกิจสามารถเข้ารับข้อเสนอและรายละเอียดจากการเคหะแห่งชาติ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของการเคหะแห่งชาติ www.nha.co.th หรือสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนโทร. 1615
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit