รมช.เกษตรฯ สั่งเร่งเคลียร์ปมวัคซีนพิษสุนัขบ้า ด้านคกก.สอบข้อเท็จจริงเตรียมประชุมนัดแรก 27 มี.ค.นี้

26 Mar 2018
นายสรวิศ ธานีโต ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะโฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่นายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้ลงนามในคำสั่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ 269/2561 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2561 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกระบวนการและขั้นตอนการดำเนินการตามมาตรการควบคุม ป้องกัน และแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า ทั้งนี้ นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะกำกับดูแลกรมปศุสัตว์ ได้เร่งรัดติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยได้สั่งการให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งมีนายสุรพงษ์ เจียสกุล รองปลัดกระทรวงเกษตรฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรียกประชุมคณะกรรมการฯ นัดแรกวันอังคารที่ 27 มีนาคมนี้ ประกอบด้วย ฝ่ายกฎหมายของสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรฯ ผู้อำนวยการกองคลัง ของสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรฯ ที่เชี่ยวชาญด้านระเบียบพัสดุและการจัดซื้อจัดจ้าง และผู้แทนจากสัตวแพทยสภา ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ เชิญร่วมเป็นกรรมการเพื่อให้เกิดความโปร่งใส รวมถึงการร่วมพิจารณาขั้นตอนวิธีการมาตรฐานการควบคุม ป้องกันโรค ตามหลักวิชาการสัตวแพทย์

สำหรับสาระสำคัญที่จะนำมาหารือในการประชุมนัดแรกเพื่อกำหนดกรอบแผนการทำงาน เช่น เอกสารข้อมูลสำคัญที่จะนำมาประกอบการพิจารณา ผู้ที่จะมาให้ข้อมูล กรอบระยะเวลาในการพิจารณา และแนวทางสอบสวนข้อเท็จจริงใน 2 ประเด็นหลัก คือ 1.กระบวนการขั้นตอนของมาตรการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า 2. กระบวนการขั้นตอนของการจัดหาวัคซีนของกรมปศุสัตว์ และรวมถึงประเด็นที่มีการกล่าวหา 4 ประเด็น ได้แก่ 1. กรณีครอบครัวข้าราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ค้าขายวัคซีนให้กรมปศุสัตว์เป็นเวลาหลายสิบปี 2. กรณีที่มีการนำวัคซีนที่ไม่ผ่านการตรวขจสอบของหน่วยงานเกี่ยวข้องไปฉีดให้สัตว์ 3. ตรวจสอบประสิทธิภาพกระบวนการทำงานในภาพรวมและหน่วยงานซึ่งเกี่ยวข้องกับการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และ 4. ใครเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมายนี้

"รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ และรัฐมนตรีช่วยฯ ได้มอบนโยบายและแนวทางการทำงานให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้อง โดยให้มีอำนาจเรียกเจ้าหน้าที่และบุคคลผู้เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำ หรือส่งมอบข้อมูลเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 30 วัน นับจากวันที่ประธานคณะกรรมการฯ รับทราบคำสั่ง ฯ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและชี้แจงข้อสงสัยต่าง ๆ ที่กำลังอยู่ในความสนใจของสังคม นายสรวิศ กล่าว