รศ.ดร.เอกชัย สุมาลี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยนครอัจฉริยะ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง(สจล.) กล่าวว่า จากรายละเอียดความเร็วบนถนนสายต่างๆ ในประเทศไทยจากระบบ GPS ที่มีการระบุว่ามอเตอร์เวย์มีการใช้ความเร็วเกินกำหนดสูงสุดนั้น ขอเรียนว่าถนนมอเตอร์เวย์เป็นทางหลวงระหว่างเมืองที่มีประสิทธิภาพสูง และมีมาตรฐานในระดับสากล จึงเป็นเรื่องปกติที่มีปริมาณรถที่สามารถทำความเร็วได้สูง ทว่าในทางปฏิบัติผู้ขับขี่ควรคำนึงถึงสมรรถนะของถนนแต่ละเส้นทาง รถยนต์ ความพร้อมของตนเอง และสภาพแวดล้อม ควบคู่ไปกับการพิจารณาเลือกใช้ความเร็วที่เหมาะสม หรือปฏิบัติตามป้ายกำกับความเร็วเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ อนึ่งสถิติดังกล่าวไม่ได้บ่งชี้โดยตรงถึงความไม่ปลอดภัยของมอเตอร์เวย์ หรือทางหลวงสายต่างๆ หากเป็นเพียงสถิติที่สามารถใช้ในการกำกับดูแลความปลอดภัยให้มีระดับที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากการเก็บข้อมูลภายหลังการติดตั้งระบบ GPS ในรถบรรทุกและรถโดยสารที่พบว่า การใช้ความเร็วของรถบรรทุกและรถโดยสารในช่วง 4 เดือนหลังของปี 2560 ที่ลดลงกว่า ร้อยละ 50 ในพื้นที่ภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยควบคุมพฤติกรรมการขับขี่ และพัฒนาฐานข้อมูลและระบบขนส่งให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น ส่วนสถิติอุบัติเหตุจากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ที่อยู่ระดับสูงของประเทศไทยนั้น ยังต้องมีการเปรียบเทียบทางสถิติและหลักวิชาการเพิ่มเติม เพื่อกำหนดกรอบนโยบายในการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด
ทั้งนี้ สำหรับสถิติการใช้ความเร็วเกินกำหนดของรถบรรทุกและรถโดยสาร ในช่วงปี 2560 นั้น เป็นข้อมูลที่บันทึกทุกๆ สองนาทีจึงได้ผลสรุปที่ค่อนข้างสูง ทว่ากลุ่มรถที่ใช้ความเร็วเกินกำหนดคิดเป็นประมาณ ร้อยละ 7- 8 ของจำนวนรถทั้งหมดในระบบ ซึ่งจากนี้จะมีการดำเนินการควบคุมพฤติกรรมการขับขี่ไม่ให้กระทำความผิดซ้ำ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนบริหารงานทั่วไปและประชาสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-329-8111 หรือคลิกเข้าไปที่ www.kmitl.ac.th
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit